ผอ.สำนักงานแรงงานไทยในกรุงไทเปชี้ การบังคับแรงงานมุสลิมอินโดนีเซียกินเนื้อหมูเป็นเพียงเฉพาะกรณี และยังไม่พบแรงงานไทยได้รับการปฏิบัติดังกล่าว

กรณีที่นางจางเหวินหลิน เจ้าของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า นำเข้าแรงงานอินโดนีเซียมาทำงานในโรงงานขนาดครอบครัว และสั่งข้าวกล่องทั่วไปที่มีเนื้อหมูผสมให้แรงงานมุสลิมชาวอินโดทั้ง 3 ทาน จนนำไปสู่การรายงานไปทั่วโลก กลายเป็นประเด็นร้อนที่สร้างความเสื่อมเสียในชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของนายจ้างไต้หวันโดยรวม แม้แต่รัฐบาลอินโดนีเซียก็แสดงความห่วงใยต่อสภาพความเป็นอยู่ของแรงงานอินโดนีเซียที่
ทำงานอยู่ในไต้หวัน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสาวอริยาลิ้มสุวัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานไทยในกรุงไทเปกล่าวว่า ยังไม่เคยปรากฎแรงงานไทยได้รับการปฏิบัติดังกล่าว อดีตเคยมีแรงงานไทยร้องเรียนแต่เพียงว่า นายจ้างใช้มือลูบหัวและใช้เท้าชี้สิ่งของ ทำให้แรงงานไทยเกิดความไม่พอใจ เพราะคิดว่านายจ้างดูหมิ่น ทางสำนักงานแรงงานฯ ต้องประชาสัมพันธ์ให้นายจ้างทราบถึงวัฒนธรรมไทย ต่อมาปัญหาเหล่านี้ได้ลดน้อยลงไปมาก

ผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานไทยกล่าวว่า ไต้หวันให้การคุ้มครองแรงงานต่างชาติอย่างมาก และไม่ได้แบ่งว่าเป็นแรงงานต่างชาติหรือแรงงานท้องถิ่น จะใช้กฎหมายมาตรฐานแรงงานฉบับเดียวกัน นอกจากนี้ในแต่ละปียังมีการจัดสรรงบประมาณด้านสันทนาการให้แรงงานต่างชาติตลอดทั้งปี จากที่เคยพบมา ยังไม่เคยมีประเทศใดที่ให้การคุ้มครองสิทธิประโยชน์และดูแลเอาใจใส่แรงงานต่างชาติมากเท่าไต้หวัน