วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553

โบกมืออำลา บ๊ายบาย ปีเสือกับการชมพระอาทิตย์ตกในวันสุดท้ายของปี

วันนี้เป็นวันที่ 31 ธ.ค. 2553 วันที่ทุกๆ คนคุ้นเคยกันดีว่าเป็นวันสุดท้ายของปีหรือวันสิ้นปีนั่นเอง แน่นอนว่า ในคืนนี้กิจกรรมการนับถอยหลังเพื่อเข้าสู่ศักราชใหม่ ได้ตกเป็นอะไรๆ ที่ขาดกันไม่ได้เสียแล้ว โดยเฉพาะในไต้หวันเพราะปี 2554 นี้ จะเป็นปีที่เข้าสู่การครบรอบ 100 ปี ของการสถาปนาสาธารณรัฐจีน ทำให้ทั่วประเทศมีการเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก และก่อนที่จะไปชมไฮไลท์ของการเคาท์ดาวน์ในไต้หวันกัน เรามาชมภาพสวยๆ ของการส่งอำลาแสงอาทิตย์สุดท้ายของปีกันก่อนนะคะ

จุดที่พระอาทิตย์ตกเป็นจุดสุดท้ายของเกาะไต้หวันคือที่ฉีจิน ของเมืองเกาสง และชีกู่ ของเมืองไถหนาน ขณะที่เกาะจินเหมิน ซึ่งอยู่ทางตะวันตกที่สุดของไต้หวัน จะเป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกเป็นจุดสุดท้ายของประเทศ

แสงอาทิตย์สุดท้ายของปี 2553
ค่อยๆ ลับขอบฟ้าลงทะเล ที่ชีกู่ เมืองไถหนาน

ปีใหม่มาตรการใหม่เริ่มใช้ในไต้หวัน

เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ก็จะถึงวันขึ้นปีใหม่ ครบรอบ 100 ปี สถาปนาสาธารณรัฐจีน พร้อมกับการใช้มาตรการใหม่ๆ ของรัฐบาลด้วย เช่น การปรับค่าแรงขั้นต่ำจากเดิม 17,280 ดอลลาร์ไต้หวัน/เดือน เป็น 17,880 ดอลลาร์ไต้หวัน/เดือน ส่วนทางด้านสวัสดิการสังคม จะขยายการให้เงินช่วยเหลือเลี้ยงบุตร เงินช่วยเหลือการศึกษาครอบครัวผู้มีรายได้ต่ำ เป็นถึงอายุ 2 ขวบ ส่วนการยกเว้นวีซ่าของประเทศสมาชิกเชงเก้น ก็จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 2554 เป็นต้นไป ทำให้ชาวไต้หวันสามารถเดินทางท่องเที่ยวประเทศต่างๆ ในยุโรปจำนวน 35 ประเทศได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า

มาตรการแรกที่ผู้ใช้แรงงานต้องร้อง “เฮ” “ไชโย” ก็คือการปรับค่าแรงขึ้นต่ำอีกเดือนละ 600 ดอลลาร์ไต้หวัน เป็น 17,880 ดอลลาร์ไต้หวันต่อเดือน หรือคิดเป็น 3.47% ค่าแรงรายชั่วโมงจากเดิม 95 ดอลลาร์ไต้หวันต่อชั่วโมงเป็น 98 ดอลลาร์ไต้หวัน ส่วนทางด้านการประกันสุขภาพ ก็มีการปรับลดเพดานจำนวนค่ารักษาพยาบาลที่ต้องรับผิดชอบเองประเภทพักรักษาตัวในโรงพยาบาลลงจากเดิม 1,000 ดอลลาร์ไต้หวัน สำหรับโรคชนิดเดียวกันเหลือไม่เกิน 28,000 ดอลลาร์ไต้หวันต่อโรค และตลอดทั้งปีไม่เกิน 47,000 ดอลลาร์ไต้หวัน

ส่วนทางด้านเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูบุตรของครอบครัวที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.5 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน มีสิทธิขอรับเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูบุตรสำหรับบุตรที่มีอายุไม่เกิน 2 ขวบได้จำนวน 3,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ยกเว้นบุตรคนที่ 3 ขึ้นไปจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในส่วนนี้โดยไม่มีเงื่อนไข สำหรับครอบครัวกลุ่มผู้อ่อนแอในสังคมจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 ดอลลาร์ไต้หวัน

ในส่วนของนครไทเป ได้ดันแผน “ช่วยให้คุณตั้งครรภ์ได้อย่างสบายใจ” ก็จะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในวันขึ้นปีใหม่เช่นเดียวกัน เพียงแต่บิดาหรือมารดาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสำมะโนประชากรในนครไทเป และพำนักอาศัยในนครไทเป 1 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยเหลือการมีบุตรท้องละ 20,000 ดอลลาร์ไต้หวัน นอกจากนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ที่บิดาและมารดามีชื่อในสำมะโนประชากรนครไทเป และพำนักในนครไทเปจริงครบ 1 ปีขึ้นไป ผู้ชำระภาษีรายได้บุคคลธรรมดาในอัตราไม่เกิน 20% จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 2,500 ดอลลาร์ไต้หวัน จนเด็กอายุครบ 5 ขวบบริบูรณ์

ศาลกีฬาเริ่มกระบวนการไต่สวนกรณีนักเทควนโด้สาวไต้หวันฟ้องสหพันธ์เทควนโด้สากล

นาย Matthieu Reeb เลขาธิการศาลกีฬาโลก หรือ CAS ได้ยืนยันในวันนี้ว่า ศาลกีฬาโลกเริ่มกระบวนการไต่สวนกรณีการร้องเรียนความเป็นธรรมของนางสาวหยาง สูจวิน นักเทควนโด้สาวไต้หวัน ที่ถูกกรรมการตัดสินชาวเกาหลีตัดสินแพ้ฟาล์วอย่างมีข้อกังขา โดยกล่าวหาว่า หยาง สูจวิน ติดแถบแม่เหล็กสีดำซึ่งเป็นเครื่องส่งสัญญานนับคะแนนไว้ที่บริเวณส้นเท้า ผิดกติกา แต่เมื่อดูจากเทปบันทึกภาพแล้ว หยางฯ ได้แกะแถบแม่เหล็กดังกล่าวออกก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นโดยมีกรรมการคอยกำกับ ทำให้คณะกรรมการการกีฬาแห่งชาติของไต้หวันยื่นร้องเรียนต่อศาลกีฬาโลกขอให้พิจารณาในเรื่องนี้อย่างเป็นธรรม ในขณะที่เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2553 สหพันธ์เทควนโด้สากลได้ลงโทษหยาง สูจวิน ห้ามลงแข่งขันเป็นเวลา 3 เดือน

นายแมททริว ลีบ ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวอาร์ทีไอว่า ได้เริ่มกระบวนการไต่สวนเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้แล้ว โดยจะแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือให้ทั้งสองฝ่ายชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร และขั้นที่ 2 จะเป็นการเปิดการประชาพิจารณ์

มหกรรมพืชสวนโลกไทเปเสน่ห์แรง ผู้ชมย่างสู่ 3 ล้านคน

มหกรรมพืชสวนโลกไทเปเสน่ห์แรงเกินคาด หลังจากผู้เข้าชมงานสะสมทะลุ 2 ล้านคนในเดือนธันวาคมแล้ว คาดว่าในช่วงต้นเดือนมกราคมจะย่างเข้าสู่จำนวน 3 ล้านคน ผู้จัดงานเตรียมแจกของรางวัลแก่ผู้โชคดีเข้าชมคนที่ 3 ล้าน รางวัลใหญ่สุดคือคูปองที่พักโรงแรม 5 ดาว และเพื่อเป็นการร่วมฉลองวันชาติ 100 ปี จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย
มหกรรมพืชสวนโลกเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน มีผู้เข้าชมงานสะสม 2 ล้านคนในวันที่ 15 ธันวาคม จำนวนผู้เข้าชมงานแต่ละวัน 4-5 หมื่นคน จนถึงเวลา 10 น. ของวันที่ 30 มีผู้เข้าชมแล้ว 2 ล้าน 8 แสนคน

ติงสียง (丁錫鏞) ผู้จัดการใหญ่มหกรรมพืชสวนโลกคาดว่า จำนวนผู้ชมจะทะลุ 3 ล้านในวันที่ 3 มกราคม เพื่อกระตุ้นให้จำนวนผู้เข้าชมถึง 3 ล้านโดยเร็ว มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ถือเป็นการร่วมฉลองวันชาติ 100 ปีด้วย เช่น ผู้ที่เกิดในเดือนมกราคม หรือ ผู้ที่มีเครื่องหมายสัญลักษณ์วงกลมติดตัวมาด้วย จะได้รับรางวัล “กิจกรรมวงกลม 36 เป็นสิ่งที่ทุกคนร่วมสนุกได้ ขอให้สอดคล้องตามที่กำหนด ตั้งหัวจรดเท้า เช่น ผู้ที่โกนหัวกลม ๆ หรือหากไม่ได้โกนหัว ใส่หมวกคลุมหัวทรงกลม ก็ได้”

พรรคดีพีพี จะฟ้องร้องขอให้การเลือกตั้ง ไทเป ไทเปใหม่ และไถจง โมฆะ

กรณีเหลียนเซิ่งเหวิน บุตรชายเหลียนจ้านหัวหน้ากิติมศักดิ์พรรคก๊กมินตั๋งโดนยิงก่อนวันเลือกตั้ง ตามมติที่ประชุมกลางของพรรคดีพีพีในวันที่ 29 ระบุว่าอาจจะฟ้องร้องขอให้การเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงไทเป นครไทเปใหม่ และ นครไถจง เป็นโมฆะ

ไช่อิงเหวินหัวหน้าพรรคดีพีพีกล่าวว่า กรณีการยิงเหลียนเซิ่งเหวินก่อนวันเลือกตั้ง 5 นคร ยังไม่มีความกระจ่าง รัฐบาลไม่มีความจริงใจในการเปิดเผยความจริง ในวันที่ 29 พรรคดีพีพีมีมติ อาจทำการฟ้องร้อง

หลินอิ่วชัง (林右昌) โฆษกพรรคดีพีพี เปิดเผยว่า “พรรคดีพีพีต้องการฟ้องร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ที่สำคัญคือต้องการความจริง พวกเราจะต้องตัดสินใจขั้นสุดท้ายในวันที่ 31 หากมีการผ่านมติแล้ว จะดำเนินการทั้ง 3 นคร ซึ่งผู้สมัครรับเลือกตั้งใน 3 นครดังกล่าวจะเป็นผู้ยื่นฟ้องร้อง”

เศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการบุคคลากรสูงสุดในรอบ 9 ปี

สำนักงบประมาณ สภาบริหารรายงานตัวเลขตำแหน่งงานว่างในภาคอุตสาหกรรมและการบริการซึ่งต้องการผู้เข้าทำงานมีจำนวน 193,000 คน อัตราความต้องการเท่ากับ 2.81% เป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ปี 2002ข้าราชการเปิดเผยว่า เป็นสิ่งบ่งชี้เศรษฐกิจฟื้นตัว ผู้ประกอบการต้องการบุคคลากรเพิ่มขึ้น

สำนักงบประมาณรายงานผลการสำรวจภาวะการจ้างงานของผู้ประกอบการปี 2010ในเดือนสิงหาคมตำแหน่งงานว่าง 58,000 คน อัตราความต้องการบุคคลากรเพิ่มจากปีที่แล้ว 2.06% เป็น 2.81% เพิ่มขึ้น 0.75 จุด

หลิวเทียนซื่อ อธิบดีกรมที่ 4 ของสำนักงบประมาณกล่าวว่า กิจการภาคการผลิตมีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คิดเป็นจำนวน 90,434 คน กิจการค้าส่งและค้าปลีกรองลงมากคือ 34,084 คน
ในส่วนภาคบริการนั้น นายหน้าอสังหาริมทรัพย์มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 5.35% รองลงมาคือกิจการบริการอื่น ๆ 4.56% และอันดับ 3 คือกิจการโรงแรมร้านอาหารมีสัดส่วน 4.07%

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กระทรวงเศรษฐการระบุ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้อาจทะลุ 10%

กระทรวงเศรษฐการ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน แถลงในวันที่ 28 ธ.ค. ศกนี้ว่า จากข้อมูลในปัจจุบัน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้น่าจะทะลุหลัก 10% แต่ปีหน้าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดความร้อนแรงลง รัฐบาลจะปรับเปลี่ยนเป้าหมายไปที่การเข้ามาลงทุนของต่างชาติ โดยตั้งเป้าเงินลงทุนต่างชาติจะสูงถึง 7,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเงินลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นายซือเหยียนเสียง รมว.เศรษฐการ กล่าวว่า สำหรับในประเทศ ทุกคนคงจำได้ดีก่อนหน้านี้ สำนักสถิติและบัญชีกลางคาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้จะสูงถึง 9.98 % แต่วันนี้เป็นวันที่ 28 ธ.ค. แล้วจากข้อมูลต่างๆ ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้น่าจะทะลุหลัก 10% แต่ต้องรอให้ถึงเดือน ก.พ.ปีหน้า จึงจะทราบแน่ชัด นับว่าเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบ 20 ปี

เอ็มเอซีระบุ การเปลี่ยนชื่อสำนักงานตัวแทนไต้หวันในฮ่องกงเป็นดัชนีชี้วัดความสัมพันธ์ของไต้หวันและฮ่องกง

คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ (Mainland Affiars Council :MAC)สภาบริหาร ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน แถลงในวันที่ 27 ธ.ค. ศกนี้ว่า หลังจากที่ไต้หวันและฮ่องกงได้จัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีต่อกันขึ้นแล้ว รัฐบาลฮ่องกงควรให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนชื่อสำนักงานตัวแทนไต้หวันประจำฮ่องกงซึ่งจนถึงขณะนี้ยังใช้ชื่อว่า Chung Hwa Travel Service 「中華旅行社」พร้อมระบุว่าการเปลี่ยนชื่อสำนักงานตัวแทนไต้หวันในฮ่องกงเป็นดัชนีสำคัญที่ชี้วัดความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและฮ่องกง

นายจูซี ผู้อำนวยการกองกิจการฮ่องกงและมาเก๊า คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวว่ า “สำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันประจำฮ่องกงก็คือสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าในฮ่องกงซึ่งใช้ชื่อว่า บริษัทนำเที่ยวจงฮวา Chung Hwa Travel Service 「中華旅行社」เนื่องจากไม่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงภารกิจที่แท้จริงของสำนักงานดังกล่าวได้ ที่ผ่านมาได้รับการวิพากวิจารณ์จากวงการต่างๆมาก ฝ่ายไต้หวันเห็นว่าสมควรมีการเปลี่ยนแปลงชื่อให้ตรงตามภารกิจที่แท้จริงของหน่วยงานดังกล่าว หวังว่ารัฐบาลฮ่องกงจะให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ และเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนชื่อสำนักงานตัวแทนไต้หวันในฮ่องกงจะเป็นดัชนีสำคัญที่ชี้วัดความคืบหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและฮ่องกงว่าได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นแล้วหรือไม่”

กรุงไทเปเชิญชวนประชาชนร่วมฉลองครบรอบร้อยปีการสถาปนาประเทศโดยแขวนธงชาติหน้าบ้านในวันปีใหม่

วันเสาร์ที่ 1 ม.ค. 2554 จะเป็นวันแรกของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐจีน เทศบาลกรุงไทเปเชิญชวนประชาชนร่วมเฉลิมฉลองและแสดงความรักชาติด้วยการแขวนธงชาติไว้ที่หน้าบ้าน หน้าอาคาร ร้านค้าและสถานที่ทำงาน พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ปล่อยวางความขัดแย้งด้านการเมืองหรือความคิดที่แตกแยก ร่วมกันเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

นายห่าวหลงปิน ผู้ว่าการกรุงไทเปกล่าวว่า ทุกคนลองนึกดูซิว่า ไม่ได้แขวนธงชาติ ไม่ได้ร้องเพลงชาติมานานแค่ไหนแล้ว เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศที่กำลังจะมาถึง ในยุคที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และหวังว่าจะกระตุ้นให้พัฒนากลายเป็นยุคใหม่ เช่นนี้ยังคงต้องมีความรักในผืนแผ่นดินและประเทศชาติด้วย

ไต้หวันเปิดตัว มาสคอต งานฉลองครบรอบร้อยปีสถาปนาประเทศ

คณะกรรมการพัฒนาวัฒนธรรมแห่งชาติ สภาบริหาร ไต้หวัน สาธาณณรัฐจีนเปิดตัวมาสคอตงานฉลองครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศซึ่งออกแบบโดยนายลีไค่อัน ดีไซเนอร์การ์ตูนวัย30 ปี ให้ชื่อมาสคอตว่า “เจ้าหนูแห่งรัศมี ROC ” 「光芒寶寶‧ROC(洛克)」(R.O.C. :Republic Of China หรือสาธารณรัฐจีน) ซึ่งจะเริ่มโชว์ตัวครั้งแรกในงานเคารพธงชาติรับปีใหม่วันที่ 1 ม.ค. ปี พ.ศ. 2554 จากนั้นจะตระเวณโชว์ตัวในกิจกรรมฉลองครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปีทั่วไต้หวัน


ทั้งนี้รูปร่างหน้าตาของ “เจ้าหนูแห่งรัศมี ROC ” ที่โดดเด่นที่สุดคือศรีษะมีรัศมีขาว 12 แฉก สวมแว่นตาสีแดงเป็นตัวเลข 100 ผูกผ้าพันคอที่เป็นธงชาติสาธารณรัฐจีน นายลีไค่อัน ดีไซเนอร์เจ้าของผลงานที่คว้าชัยชนะในการประกวดออกแบบมาสคอตงานฉลองครบรอบ 100 ปีการสถาปนาประเทศ ซึ่งได้รับเงินรางวัลหนึ่งล้านเหรียญเอ็นทีกล่าวว่า“ไอเดียที่นำมาใช้ออกแบบนั้นก็ง่ายๆ เนื่องจากธงชาติเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศ ดังนั้นจึงนำมาเป็นไอเดียใช้ออกแบบมาสคอต และใช้ธงชาติเป็นตัวชูโรง รัศมีขาวหมายถึงเสรีประชาธิปไตยที่เปล่งประกายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ ผมคิดว่าไอเดียนี้ดีมาก ดังนั้นจึงนำมาออกแบบเป็นตัวมาสคอตชื่อ “เจ้าหนูแห่งรัศมี ROC ” ที่ท่านได้เห็นกัน”

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กรมการค้าต่างประเทศไต้หวันงัด 3 มาตรการดันผลงานECFA

สินค้าที่ได้รับประโยชน์จากการลงนามกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน(ECFA) รุ่นแรกของไต้หวันจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. ศกหน้า จว่อซือเจา(卓士昭) อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐการไต้หวันระบุว่า กรมการค้าต่างประเทศเตรียมดำเนินงานตาม 3 มาตรการ เพื่อสร้างผลประโยชน์จาก ECFA โดยนอกจากจะมีการจัดประชุมบรรยายเกี่ยวกับสินค้าที่ได้รับประโยชน์จาก ECFA รุ่นแรกในไต้หวันอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้แล้ว ปลายเดือนม.ค. ศกหน้าจะเดินทางไปจัดประชุมบรรยายแก่นักธุรกิจใน 10 เมืองใหญ่ของจีนแผ่นดินใหญ่ อีกทั้งจะมีการเชิญชวนนักธุรกิจจีนที่มีมูลค่าประกอบการมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ เดินทางมาจัดซื้อสินค้าในไต้หวัน โดยในเดือน มี.ค. ศกหน้า ไต้หวันจะมีการจัดมหกรรมกล้วยไม้ไต้หวันนานาชาติ งานมหกรรมรถจักรยานไต้หวัน และงานมหกรรมเครื่องจักรกลไต้หวัน การเชิญชวนนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการโลจิสติกส์จีนแผ่นดินใหญ่เดินทางมาจัดซื้อสินค้าในไต้หวัน คาดว่าจะนำมาซึ่งบรรยากาศการสร้างผลประโยชน์แก่สินค้ารุ่นแรกของ ECFA ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้กรมการค้าต่างประเทศยังจะมีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะเดินทางไปจีนเพื่อขยายตลาดสินค้าไต้หวันในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย

เพื่อสนองรับศักราชแห่งการปลอดภาษีศุลกากรจาก ECFA กรมการค้าต่างประเทศจะทำการเปิดศูนย์บริการ ECFA ในวันที่ 29 ธ.ค. เพื่อช่วยเหลือดำเนินการแก้ไขปัญหาแก่ผู้ประกอบการและส่งออกสินค้าไต้หวันในทุกด้าน

ภาพบรรยากาศหิมะตกที่เหอฮวานซัน

มวลอากาศเย็นส่งผลรุนแรง วันที่ 27 ธ.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันระบุว่าหลายพื้นที่ในไต้หวันเช่น อำเภอต้านสุ่ยไทเป จีหลง อี๋หลาน ไทจง ไถหนานและเกาสงเป็นต้น ต่างมีอุณหภูมิต่ำสุดตั้งแต่ย่างเข้าฤดูหนาวปีนี้ โดยอำเภอต้านสุ่ยเช้ามืดวันที่ 27 ธ.ค.วัดอุณหภูมิได้เพียง 5.9 องศาเซลเซียส จีหลง 6.4 องศาเซลเซียส อี่หลาน 6.8 องศาเซลเซียส ไทจง 7.5 องศาเซลเซียส ไถหนาน 9 องศาเซลเซียส ส่วนเกาสงวัดได้เพียง 11.3 องศาเซลเซียส กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า มวลอากาศเย็นลูกนี้จะส่งอิทธิพลต่อไต้หวันไปจนถึงเช้าวันที่ 28 ธ.ค. ช่วงเวลากลางวันอุณหภูมิทุกภาคจะเริ่มคงที่ขึ้น

กรมอุตุนินมวิทยาคาดว่า มวลอากาศเย็นลูกต่อไปจะพัดผ่านไต้หวันในค่ำวันที่ 30 ธ.ค. วันส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค.จนถึงเช้าวันปีใหม่ 1 ม.ค. เป็นช่วงอากาศเย็นที่สุด อาจมีอุณหภูมิต่ำที่ระดับ 5 องศาเซลเซียส โดยมวลอากาศเย็นจะส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 2 ม.ค. จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง รักษาร่างกายให้อบอุ่นขณะท่องเที่ยวเพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่ด้วย

ภาพบรรยากาศหิมะตกที่เหอฮวานซัน


ประธานาธิบดีหม่าผิดหวังญี่ปุ่นไม่ชดใช้หญิงบำเรอ

กรุงไทเปและมูนิธิช่วยเหลือสตรีร่วมกันจัดนิทรรศการ “หนทางยาวไกลหญิงบำเรอไต้หวันฟ้องร้องญี่ปุ่น” ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วกล่าวในพิธีเปิดงานกล่าวว่า อาม่าเหล่านี้พยายามฟ้องร้องหลายปี แต่ถูกตัดสินแพ้คดีเมื่อ 5 ปีที่แล้ว รู้สึกผิดหวังต่อญี่ปุ่นที่ไม่ยอมรับประวัติศาสตร์ ไม่ยอมรับผิดและขอโทษ

ปัจจุบันในไต้หวันมีหญิงบำเรอทหารญี่ปุ่นที่ยังมีชีวิตอยู่ 13 คน โดยความช่วยเหลือของมูลนิธิช่วยเหลือสตรีพวกเขาได้เคยฟ้องร้องต่อญี่ปุ่น และได้รับการตัดสินแพ้คดีเมื่อปี 2005



ประธานาธิบดีหม่ากล่าวว่า เยอรมันใช้เวลาหลายสิบปี ยอมรับผิดต่อการทำลายล้างชาวยิว ยุติปัญหาเรื่องประวัติศาสตร์ ประธานาธิบดีชี้หญิงบำเรอเป็นปัญหาระหว่างประเทศประการหนึ่ง “เนื่องจากเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ในปี 1995 สหประชาชาติได้จัดตั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนทำการสำรวจในประเทศต่าง ๆ สุดท้ายมีการบัญญัติคำว่า ทาสทหารทางเพศ (military sex slaves) เป็นเรื่องที่ยอมรับว่าเกิดขึ้นระหว่างประเทศ เกี่ยวกับความผิดด้านมนุษยธรรม น่าเสียดาย ศาลญี่ปุ่นไม่ยอมรับและเผชิญกับความจริง”



ความไม่ลงรอยระหว่างไช่ อิงเหวินกับซู เจินชัง ในพรรคดีพีพี

นายหลิน อวี้เซิง ในฐานะลูกหม้อของนายซู เจินชัง พรรคดีพีพี ได้กล่าวขณะพูดคุยกับสื่อเมื่อเร็วๆ นี้ โจมตีศูนย์กลางพรรคดีพีพีอย่างเผ็ดมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโจมตีว่า พรรคดีพีพีมิได้ให้การสนับสนุนนายซูเจินชัง ในการเลือกตั้ง 5 ผู้ว่าการนครที่ผ่านมา และตั้งข้อสงสัยต่อนายอู๋ ไน่เหยิน เลขาธิการพรรคดีพีพีในขณะนั้น ที่ปูดข่าวว่า “คนที่ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าการนคร จะเป็นผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในนามพรรคดีพีพี ในปี 2555” เป็นการระบุตรงๆ ถึงนายซูฯ โดยเฉพาะ นอกจากนี้ เขายังระบุว่า นายซู เจินชัง หาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้อย่างเต็มที่ แต่กลับพ่ายแพ้ให้แก่การเลือกตั้งด้วย “กระสุนเพียงนัดเดียว” กล่าวได้ว่า การระบายอารมณ์ดังกล่าวเป็นจุดปะทุของความไม่ลงรอยกันระหว่างนายซู เจินชัง กับ นางสาวไช่ อิงเหวิน อย่างเห็นได้ชัด


(คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่)

วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ไต้หวันลดระดับการเตือนไทยเป็นสีเทา

การท่องเที่ยวไทยได้รับความเสียหายจากกลุ่มเสื้อแดง แต่สถานการณ์ในปัจจุบันกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เมื่อวานนี้ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้ประกาศลดระดับการเตือนการท่องเที่ยวของไทยจากเดิมสีเหลือง ที่ให้ระวังและทบทวนการเดินทางเป็นสีเทา คือให้ระมัดระวังเท่านั้น เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลไทยได้ประกาศยกเลิกการให้ พรก.ฉุกเฉินแล้วในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวนรวม 4 จังหวัด

กรมการกงสุลไต้หวันระบุว่า รัฐบาลไทยได้ประกาศเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2553 ให้ยกเลิกการใช้ พรก.ฉุกเฉินในเขตพื้นที่ 4จังหวัดที่เหลือได้แก่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ เนื่องจากสถานการณ์ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงให้ลดระดับการเตือนเป็นสีเทา เตือนให้ระมัดระวัง ส่วนในเขต 4 จังหวัดภาคใต้ได้แก่ นราธิวาส ยะลา สงขลา และปัตตานี รวมทั้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงอยู่ในระดับการเตือนสีส้ม คือเตือนให้ระมัดระวังในระดับสูงและหลีกเลี่ยงการเดินทาง
กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุว่า กลุ่มเสื้อแดงได้ประกาศจัดการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและสี่แยกราชประสงค์ทุกวันที่ 10 และ 19 ของเดือน จึงแนะนำให้ชาวไต้หวันงดเว้นการเข้าไปในบริเวณดังกล่าวในช่วงเวลา 2 วันดังกล่าว หากมีเหตุฉุกเฉินติดต่อความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานผู้แทนไต้หวันประจำประเทศไทย

ไต้หวันจับมือฟิลิปปินส์กวาดล้งแก๊งค์ต้มตุ๋นทางโทรศัพท์ข้ามชาติ

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปรามอาชญากรรมไต้หวันได้ร่วมมือวางแผนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลิปปินส์นานนับปี ในที่สุดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2553 ได้บุกเข้าทะลายแหล่งกบดานของแก๊งค์หลอกลวงต้มตุ๋นทางโทรศัพท์แบบข้ามชาติได้ที่ฟิลิปปินส์ รวบตัวสมาชิกในแก๊งค์ได้ถึง 28 คน เป็นบุคคลสัญชาติไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ พร้อมยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ และโทรศัพท์ไร้สายอีกจำนวนหนึ่งเป็นของกลาง

แก๊งค์หลอกลวงต้มตุ๋นข้ามชาติดังกล่าวเหลี่ยมจัดมาก เปิดศูนย์บัญชาการที่ฟิลิปปินส์ แล้วอาศัยเครื่องมือสื่อสารโทรคมนาคมหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนในไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวางแผนนานปีเศษกว่าจะเข้าทะลายแก๊งค์ดังกล่าวได้เป็นผลสำเร็จ

เนื่องจากไต้หวันกับฟิลิปปินส์ไม่มีความตกลงช่วยเหลือด้านตุลาการระหว่างกัน ดังนั้น จึงต้องร่วมมือกันศึกษาข้อกฏหมายที่จะจัดการกับแก๊งค์ดังกล่าว ในที่สุดจึงอาศัยกฏหมายการเข้าเมืองและกฏหมายว่าด้ยการสื่อสาร รวมทั้งกฏหมายป้องกันการฟอกเงิน บุกเข้าทะลายแก๊งค์ดังกล่าว



เฉินหยุนหลินชื่นชมงานพืชสวนโลกไทเปเยี่ยม

นายเฉินหยุนหลิน (กลางภาพ)
ขณะเยี่ยมชมงานพืชสวนโลกไทเป
หลังเสร็จสิ้นการประชุมเจียงเฉิน ครั้งที่ 6 ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างมูลนิธิเพื่อการติดต่อระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน (SEF) และสมาคมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน (ARATS) สองหน่วยงานตัวแทนของไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมาแล้ว ในวันที่ 22 ธ.ค. นายเฉินหยุนหลิน ประธาน ARATS ได้เดินทางไปเยี่ยมชมงานมหกรรมพืชสวนโลกไทเปในช่วงเช้า โดยมีนายห่าวโหลงปิน ผู้ว่าการกรุงไทเปให้การต้อนรับ ซึ่งนายเฉินหยุนหลินได้เปิดเผยว่า เขาได้เห็นถึงพลังแห่งความสวยงามของงานพืชสวนโลก และจะประชาสัมพันธ์งานดังกล่าวต่อประชาชนชาวจีนแผ่นดินใหญ่

เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยในงาน
กรุงไทเปได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบ 400 คน ปฏิบัติหน้าที่ให้การรักษาความปลอดภัยในระหว่างที่นายเฉินหยุนหลินเข้าชมงานพืชสวนโลก โดยครั้งนี้ประธาน ARATS ได้เข้าเยี่ยมชมสวนเซี่ยงไฮ้ สวนซีอัน

วันพุธที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การประชุมเจียง-เฉิน ครั้งที่ 6 ไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางการแพทย์และสาธารณสุขต่อกัน

การประชุมระหว่างนายเจียงปิงคุนประธานมูลนิธิเพื่อการติดต่อระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน (SEF )หน่วยงานของฝ่ายไต้หวันและ นายเฉินหยุนหลิน ประธานสมาคมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน(ARATS)หน่วยงานของจีนแผ่นดินใหญ่หรือการประชุมเจียง-เฉิน ครั้งที่ 6 ซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. ศกนี้ ที่โรงแรมแกรนด์  ในกรุงไทเป โดยการประชุมครั้งนี้ นอกจากมีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางการแพทย์และสาธารณสุขต่อกันแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถบรรลุข้อตกลงรับประกันการลงทุนได้เร็วยิ่งขึ้น
  
นายเจียงปิ่งคุน (ซ้าย) ให้การต้อนรับ
นายเฉินหยุนหลิน(ขวา)
นายเจียงปิงคุน ประธานSEF กล่าวในพิธีต้อนรับนายเฉินหยุนหลินพร้อมด้วยภริยาและคณะเจ้าหน้าที่จากจีนแผ่นดินใหญ่ ที่จัดขึ้น ณ ห้องโถงของโรงแรมแกรนด์ ในค่ำวันที่ 20 ธ.ค.ศกนี้ว่า การประชุมครั้งนี้สองฝั่ง

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

คนนับแสนร่วมวิ่งมาราธอนฟู่ปัง-ไทเป

เรื่อง : Rti Thai
ภาพ : CNA
นายห่าวโหลงปิน ผู้ว่าการกรุงไทเป
(บนเวทีคนที่เจ็ดจากขวา)
ร่วมเป็นประธานยิงปืนเปิดการแข่งขัน
เทศบาลกรุงไทเปและสมาคม 中華民國路跑協會(Chinese Taipei Road Running Association) ของไต้หวัน ร่วมกันจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนไทเป (2010富邦台北馬拉松)ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 ธ.ค. 2553 ที่ผ่านมา โดยมีฟู่ปังกรุ๊ป(Fubon Group) เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ หลังจากที่ปีที่แล้วได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมดีๆ แบบนี้มาแล้ว ซึ่งทางฟู่ปังกรุ๊ปเผยว่าจะให้การสนับสนุนต่อไปอีกอย่างน้อยสามปี นั่นก็หมายความว่า นักวิ่งน่องเหล็กทั้งหลาย ยังมีโอกาสโชว์ฝีเท้ากันต่อในการวิ่งมาราธอนไทเปนี้อีก โดยที่ทางฟู่ปังกรุ๊ปจะนำรายได้จากการวิ่งมาราธอนนี้ส่วนหนึ่ง มอบเพื่อกิจกรรมการกุศลต่างๆ ต่อไป 

การแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็นสี่ประเภทได้แก่เต็มระยะทาง 42 กม. ครึ่งระยะทาง 21 กม. วิ่งสบายๆ 9 กม. และวิ่งเอามันที่เรียกว่า Fun Run ด้วยระยะทาง 3 กม. โดยมีจุดเริ่มต้นการวิ่งอยู่ที่ลานหน้าที่ทำการเทศบาลกรุง

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

“ใบเสร็จอิเลกทรอนิคส์” ดีเดย์เริ่มใช้วันนี้

ใช้บัตรไอแคชของร้านสะดวกซื้อ
ชำระเงินได้เช่นกัน
ใบเสร็จอิเลกทรอนิคส์ ในไต้หวันเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยกระทรวงการคลังไต้หวันเริ่มทดลองใช้ตามร้านสะดวกซื้ออย่างเช่น เซเว่น-อีเลเว่น ไฮไลฟ์ และร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมกว่า 30 แห่งทั่วเกาะไต้หวัน โดยผู้บริโภคเพียงแต่ชำระเงินโดยผ่านบัตรอีซีการ์ด และไอแคช เท่านั้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีใบเสร็จแบบกระดาษอีกต่อไป

พิธีเปิดใช้ใบเสร็จอิเลกทรอนิคส์
ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.
นายหลี่ ซู่เต๋อ รมว.คลังไต้หวันระบุว่า ปัจจุบันไต้หวันใช้ใบเสร็จรับเงินแบบกระดาษปีละถึง 11,500 ล้านใบ มูลค่ารวมกว่า 33 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน หากสามารถประหยัดใบเสร็จรับเงินแบบกระดาษปีละ 8,000 ล้านใบ ก็จะสามารถประหยัดการตัดต้นไม้ได้ถึง 80,000 ต้นต่อปี หรือคิดเป็นพื้นที่ถึง 60 เฮกตาร์ หรือมีขนาดเท่ากับสวนสาธารณะต้าอัน 2 สวนทีเดียว

การใช้ใบเสร็จอิเลกทรอนิคส์จะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน เริ่มต้นในวันนี้จากร้านสะดวกซื้อและร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตรวม 30 กว่าแห่งก่อน เดือนมีนาคม ปีหน้าจะขยายสู่ห้างสรรพสินค้าซินกวง มิซูโกชิ ขั้นตอนที่ 3 ขยายสู่ร้านค้าทั่วไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายในร้านสะดวกซื้อเหล่านี้ได้โดยผ่านคอมพิวเตอร์ของร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบผ่านเวปไซต์กระทรวงการคลังไต้หวัน www.einvoice.nat.gov.tw หากใบเสร็จรับเงินอิเลกทรอนิคส์ถูกรางวัลที่ออกรางวัลทุก 2 เดือน ก็จะโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีของผู้ซื้อทันที


นายหลี่ ซู่เต๋อ รมว.คลัง แสดงวิธีการซื้อสินค้า
เพื่อรับใบเสร็จอิเลกทรอนิคส์

“มนุษย์เหล็กไต้หวัน” คว้าที่ 2 มาราธอนขั้วโลกใต้

เฉิน เยี่ยนป๋อ ซึ่งได้รับสมญานามว่า “มนุษย์เหล็กไต้หวัน” นักวิ่งมาราธอนฝีมือดีของไต้หวัน สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติอีกครั้ง โดยคว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขันวิ่งมาราธอนขั้วโลกใต้ 100 กม. ด้วยสถิติ 15 ชม. 15.58 นาที เป็นนักกีฬาจากเอเชียรายแรกที่เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าวจนจบรายการ

เดิมการแข่งขันมาราธอน 100 กม. ขั้วโลกใต้ในครั้งนี้ จะเปิดฉากขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2553 แต่เนื่องจากพายุหิมะจึงเลื่อนเป็นวันรุ่งขึ้น เฉิน เยี่ยนป๋อ นักวิ่งมาราธอนฝีเท้าจัดจากไต้หวันสร้างชื่อเสียงให้แก่ไต้หวันอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัลที่ 2จากการแข่งขันดังกล่าว เบียดเข้าสู่ทำเนียบ Marathon Grand Slam Club ที่มีสมาชิกทั่วโลกเพียง 46 คนเท่านั้น

หลังจากที่เฉิน เยี่ยนป๋อ ประสบความสำเร็จในการแข่งขันมาราธอนบนเทือกเขาหิมาลัยเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ได้วางแผนที่จะพิชิตการแข่งขันวิ่งมาราธอน 8 รายการใน 7 ทวีป ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ปัจจุบันเขาพิชิตไปแล้ว 3 รายการ เดือนมีนาคม ปีหน้า จะบุกไปยังบลูเมาเทนของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นรายการวิ่งมาราธอนวิบากระยะทาง 45 กม.

พลังอ่อนนุ่มกับความปลอดภัยของไต้หวัน

ศาสตราจารย์ Joseph S. Nye Jrแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดซึ่งได้เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อเร็วๆ นี้ และได้กล่าวปาฐกถาที่ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันว่า หนทางแห่งความสำเร็จของไต้หวันอยู่ที่พลังอันอ่อนนุ่มหรือ soft power นั่นเอง ขอแต่เพียงให้ไต้หวันเป็นตัวแทนของประชาธิปไตย เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนเท่านั้น ก็ไม่จำเป็นต้องไปวิตกกังวลว่าสหรัฐฯ จะละทิ้งไต้หวัน

ศาสตราจารย์ Joseph S. Nye Jr เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เป็นนักวิชาการที่เสนอทฤษฎี “ซอฟท์เพาเวอร์ หรือ พลังอันอ่อนนุ่ม” จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เขาเห็นว่า สิ่งที่เรียกว่า “ซอฟท์เพาเวอร์” ก็คือวัฒนธรรมและระบอบของประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งสามารถแสดงบทบาทเป็นแรงดึงดูดและเสน่ห์ได้เป็นอย่างดี ดึงดูดให้ประเทศอื่นๆ ยินดีที่จะเดินรอยตามหรือร่วมมือด้วย ส่วน “ฮาร์ดเพาเวอร์” ก็คือ พลังทางทหารและพลังทางเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยพลังเหล่านี้บีบบังคับให้ประเทศอื่นดำเนินการตามความประสงค์ของตน แม้พลังฮาร์ดเพาเวอร์จะสามารถแสดงบทบาทของตนได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น แต่จะต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็นต้นทุนอย่างมหาศาล และเกิดผลเสียติดตามมาด้วย ทำให้ประเทศอื่นเกรงกลัวคุณแต่มิใช่ว่าจะยอมสยบให้จากใจ ส่วน “ซอฟท์เพาเวอร์” จะแสดงบทบาทให้ผู้คนเห็นดีเห็นงามและชอบคุณ รวมทั้งมีบทบาทในระยะยาวด้วย

(คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่)

นิทรรศการ “ชาวอเมริกันย่ำแดนไต้หวัน” สะท้อนมิตรภาพระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว (ที่สามจากขวา)
เป็นประธานพิธีเปิดนิทรรศการ ซึ่งจัดขึ้น
ที่หอสมุดแห่งชาติ ไต้หวัน
ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ผู้นำไต้หันได้รับเชิญให้เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ “อเมริกันย่ำแดนไต้หวัน” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานอเมริกันในไต้หวันหรือ AIT ในวันนี้ ซึ่งผู้นำไต้หวันได้ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ล้ำลึกมาก สหรัฐฯ แสดงบทบาทสำคัญต่อชะตากรรมของสาธารณรัฐจีน ทั้งสองประเทศมีหัวใจแห่งคุณค่าเสรีภาพประชาธิปไตยร่วมกัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มิตรภาพระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ยั่งยืนสถาพร


ผู้นำไต้หวัน(ยืน)กล่าวเปิดงาน
ผู้นำไต้หวันระบุว่า ปีหน้าเป็นปีครบรอบ 100 ปี สถาปนาประเทศสาธารณรัฐจีน มองย้อนกลับไปในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ แสดงบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อสาธารณรัฐจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชะตากรรมของสาธารณรัฐจีน ผู้นำไต้หวันระบุว่า ในยุคที่เกิดสงครามเพิร์ลฮาร์เบอร์ สหรัฐฯ ประกาศสงครามต่อญี่ปุ่น ทำให้เกิดคำประกาศไคโร (Cairo Declairation) ในเวลาต่อมา ทำให้ไต้หวันกลับสู่อ้อมอกของสาธารณรัฐจีนอีกครั้ง


ประธานาธิบดีหม่าฯ ได้กล่าวย้อนรอยประวัติศาสตร์อีกว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ มิได้รับผลกระทบกระเทือนมากนักจากการที่ทั้งสองประเทศยุติความสัมพันธ์ระหว่างกัน เสริมความเชื่อมั่นระหว่างกันอย่างต่อเนื่องเป็นลำดับ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารู้สึกภูมิใจยิ่ง การจัดกิจกรรมในวันนี้ ทำให้ประชาชนได้ทราบว่า ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้แสดงบทบาทที่สำคัญยิ่ง ตั้งแต่การเสียค่าปรับ จนถึงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน การทหาร กระทั่งช่วยเหลือไต้หวันผลักดันการเคลื่อนไหวประชาธิปไตย”


ปธน.หม่า อิงจิ่ว ขณะเดินชมนิทรรศการ
การลงนามในความตกลงเสียค่าปรับ เป็นความตกลงที่รัฐบาลสมัยราชวงศ์ชิงจัดทำกับ 11 ประเทศตะวันตกเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2468 ใช้ชื่อว่า ความตกลง “Austria-Hungary, Belgium, France, Germany, Great Britain, Italy, Japan, Netherland, Russia, Spain, United States and China —Final Protocol for the Settlement of the Disturbances of 1900” ซึ่งได้ระบุเกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับด้วย เป็นความตกลงที่เกิดจากการลุกขึ้นสู้ของกบฏอี้เหอถวน ในปี 2467 จึงเรียกว่า “ความตกลงค่าปรับ”

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ยอดผู้เข้าชมงานชมพืชสวนโลกไทเป ทะลุ 2 ล้านคนแล้ววันนี้

การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2010 ผ่านไป 40 วัน ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก ล่าสุดช่วงเช้าในวันที่ 15 ธ.ค. มีจำนวนผู้เข้าชมงานทะลุ 2 ล้านคนแล้ว คาดตลอดงานจะมีผู้สนใจเข้าชมงาน 8 ล้านคนตามที่ตั้งเป้าไว้แน่นอน

งานมหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2010 แบ่งพื้นที่จัดแสดงหลักออกเป็นสี่ส่วน ได้แก่ Xinsheng Park Area , Fine Arts Park Area , Dajia Riverside Park Area และ YuanShan Park Area มีศาลาหรืออาคารจัดแสดงที่มีเอกลักษณ์ต่างๆ กันรวมทั้งสิ้น 14 แห่ง และจัดแสดงพืชพรรณไม้ต่างๆ กว่า 1,600 ชนิด 3,300 พันธุ์ โดยตั้งแต่เปิดงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พ.ย. เป็นต้นมา แต่ละวันมีผู้สนใจเข้าชมงานจำนวนมากเฉลี่ย 6-7 หมื่นคนต่อวัน



หม่าเชียนหุ้ย โฆษกประจำศูนย์อำนวยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกไทเป เผยว่า งานพืชสวนโลกเปิดให้เข้าชมเพียง 40 วัน แต่มีผู้สนใจเข้าชมงานเกินกว่า 2 ล้านคนแล้ว เป็นจำนวนที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยกล่าวว่า เรามองว่างานครั้งนี้เป็นไปด้วยดี ซึ่งเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่เราคาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 8 ล้านคนแล้ว เชื่อว่าน่าจะเป็นไปตามเป้า

ตึก Shin Kong Life Tower ย่านไทเปเมนสเตชั่น ครองแชมป์ที่ดินแพงที่สุดในไทเป ผิงละ 3.64 ล้าน

สำนักงานที่ดินกรุงไทเปประกาศผลการประเมินมูลค่าและราคาที่ดินในกรุงไทเปประจำปี 2554 โดยราคาที่ดินที่แพงที่สุดในไทเปคือที่ดินตึก 新光摩天大樓หรือ Shin Kong Life Tower ตั้งอยู่บนถนนจงเสี้ยวตงลู่ และอยู่ตรงข้ามกับไทเปเมนสเตชั่น โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 3,644,185 เหรียญเอนที ต่อ 1 ผิงหรือราว 3.3 ตรม. โดยที่ดินแปลงนี้มีราคาเพิ่มขึ้น 7.37% จากราคาประเมินของปี 2553 และครองแชมป์ที่ดินแพงที่สุดติดต่อกันมาเป็นครั้งที่ 13 และยังนับว่าเป็นที่ดินที่แพงที่สุดในไต้หวันอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับราคาที่ดินที่แพงรองลงมาคือที่ตึกไทเป 101 ย่านซิ่นอี้ ประเมินไว้ที่ 3,345,454 เหรียญเอนทีต่อ 1 ผิงหรือราว 3.3 ตรม.

ตึก Shin Kong Life Tower หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ซินกวังซานเยว่ เป็นอาคารสูง 51 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 7 ชั้น มีความสูงทั้งสิ้น 244.15 เมตร ตั้งอยู่บนที่ดินราว 1,533 ผิงหรือประมาณ 5,058.9 ตรม. โดยนอกจากมีสำนักงานและห้างสรรพสินค้าอยู่ในตัวตึกแล้ว ที่บริเวณชั้นที่ 44 และ 45 จะเป็นที่ตั้งของภัตตาคารระดับหรูหรา โดยชั้นที่ 46 มีลานสำหรับชมวิวด้วย

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ไต้หวันเข้าสู่ความเป็นสังคมอิเลคทรอนิกส์ จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เนตรายครอบครัวและรายบุคคลทำสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

คณะกรรมการศึกษาวิจัยนโยบาย สภาบริหาร ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ประกาศรายงานการสำรวจจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เนตรายครอบครัวและรายบุคคลในไต้หวันล่าสุดพบว่าจำนวนครัวเรือนที่ใช้อินเตอร์เนตคิดเป็น 80.7% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ส่วนจำนวนผู้ใช้รายบุคคลเพิ่มเป็น 70.9% ทำสถิติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยกรุงไทเป นครไทหนานและนครไทจง มีอัตราการใช้อินเตอร์เนตของครัวเรือนสูงถึง 90 % ส่วนการใช้มือถือขึ้นอินเตอร์เนตนั้นประชากรในกรุงไทเป เมืองซินจู๋ และนครไทจง มีอัตราการใช้สูงสุด อย่างไรก็ดีในส่วนของผู้สูงอายุ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และประชากรในชนบทยังคงมีอัตราการใช้อินเตอร์เนตต่ำ นายซ่งอี๋วเสีย รองประธานคณะกรรมการศึกษาวิจัยนโยบายกล่าวว่า“เราหวังว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาสองปี ซี่งสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เนตในวัยระหว่าง50-70 ปีได้มากขึ้น เราจะทุ่มทรัพยากรและความพยายามเพื่อเพิ่มอัตราการใช้อินเตอร์เนตในส่วนของผู้สูงอายุ ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และประชากรในชนบทให้มากขึ้น”

ทั้งนี้คณะกรรมการศึกษาวิจัยนโยบายได้ทำการสำรวจอัตราการใช้อินเตอร์เนตในไต้หวันมาตั้งแต่ปี 2543 ในปีนี้พบว่าจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เนตที่มีอายุระหว่าง 51-60 เพิ่มขึ้น 10%

ส.ค.ส.ปีใหม่ของประธานาธิบดีหม่าเป็นรูปสัญญลักษณ์การสถาปนาประเทศครบรอบหนึ่งร้อยปี

ทำเนียบประธานาธิบดี ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนวันที่ 13 ธ.ค.ศกนี้ ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัว ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ จากประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วและรองประธานาธิบดีเซียวหว่านฉาง ซึ่งส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ ของประธานาธิบดีหม่า จัดพิมพ์เป็นตัวเลข100 อันเป็นสัญญลักษณ์ของการสถาปนาประเทศครบรอบหนึ่งร้อยปีไว้ด้านหน้าตรงกลางเป็นรูกลวง พื้นเป็นสีแดงอมส้มมีความหมายว่าเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษตลอดช่วงหนึ่งร้อยปี และ จะถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นต่อไป นายโหลวจื้อเฉียง โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า“ส.ค.ส.ของประธานาธิบดีนั้นออกแบบให้ด้านหน้าเป็น ตัวเลขหนึ่งร้อยและตรงกลางเป็นรูกลวง ซึ่งมีความหมายว่าสามารถมองเห็นอนาคตของประเทศชาติได้ ตลอดเวลาหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา สาธารณรัฐจีนผ่านเหตุการณ์ต่างๆมามากมาย และประสบความสำเร็จในหลายๆด้าน การออกแบบให้เป็นรูโหว่ตรงกลางส.ค.ส.เช่นนี้เนื่องจากต้องการแสดงให้ทราบว่าเราสามารถมองเห็นอนาคตของชาติโดยผ่านอดีตขณะเดียวกันสามารถจับกระแสความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ”

สำหรับ ส.ค.ส. ของรองประธานาธิบดีเซียวหว่านฉางนั้น จัดทำเป็นรูปตัวเลข100 ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของการสถาปนาประเทศครบรอบหนึ่งร้อยปี ใช้พื้นสีแดงซึ่งเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล ด้านหน้าพิมพ์เป็นรูปตัวกระต่ายสีทองซึ่งเป็นสัตว์ประจำปีนักษัตรที่รองประธานาธิบดีเซียวเกิดและเป็นนักษัตรของปีหน้าด้วย ด้านหลังเป็นตัวอักษรที่เขียนด้วยพู่กันจีนว่า “สถาปนาประเทศครบรอบหนึ่งร้อยปี”「建國一百年」


โดยส.ค.ส.ของประธานาธิบดีหม่า จะจัดทำออกมา 88,000ใบ รองประธานาธิบดีเซียว 25,000 ใบซึ่งจะจัดส่งให้แก่ผู้นำประเทศพันธมิตรของไต้หวันและบุคคลสำคัญในวงการต่างๆทั้งในและต่างประเทศ

มหกรรมอาหารไต้หวันกรุงบรัสเซลล์ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

สำนักงานตัวแทนไต้หวันประจำเบลเยียม จัดงานมหกรรมอาหารไต้หวันครั้งแรกขึ้นที่กรุงบรัสเซลล์ระหว่างวันที่ 8 -11 ธ.ค. ศกนี้ ด้านหนึ่งเพื่อสนองรับนโยบายรัฐบาลในการผลักดันอาหารไต้หวันสู่เวทีโลก อีกด้านหนึ่งก็เพื่อเป็นช่องทางแสดงความขอบคุณต่อบุคคลหลายวงการในสหภาพยุโรปและเบลเยียม ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเป็นอย่างดีในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รวมเวลาการจัดมหกรรมอาหารไต้หวัน 4 วัน มีแขกผู้มีเกียรติ์จากคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป รัฐสภายุโรปและบุคคลสำคัญจากวงการต่างๆของเบลเยี่ยมเข้าร่วมงาน เพื่อสัมผัสอาหารเลิศรสของไต้หวันมากถึง 552 ท่าน

หลินหร่งเร่อ(林永樂) ผู้แทนไต้หวันประจำสหภาพยุโรปและเบลเยี่ยมระบุว่า การสนับสนุนของบุคคลจากวงการต่างๆของสหภาพยุโรปและเบลเยียม เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ไต้หวันสามารถได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา(วีซ่า) จากสหภาพยุโรป การเชิญชวนมิตรไต้หวันในสหภาพยุโรปและเบลเยี่ยมร่วมงานมหกรรมอาหารไต้หวัน นอกจากเพื่อแสดงความขอบคุณแล้ว ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามิตรไต้หวันจะเข้าใจถึงความเลิศรสของอาหารไต้หวันด้วย

Mark Eyskens อดีตนายกรัฐมนตรีเบลเยียม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่สวยงาม เชื่อว่ามหกรรมอาหารไต้หวัน นอกจากมีคุณค่าในการทำให้สหภาพยุโรปรู้จักไต้หวัน เข้าใกล้วัฒนธรรมไต้หวันมากขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความใกล้ชิดแห่งไมตรีระหว่างยุโรปกับไต้หวันได้มากยิ่งขึ้น

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ใครจะอดใจไหว กับภาพสวยใสๆ ของ Fine Arts Park Area ใน มหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2010


สวนไทยที่เปิดตัวพร้อมกับเอกลักษณ์ความเป็นไทย
งานมหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2010 มีส่วนจัดแสดงทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน คือสวนหยวนซัน ที่ได้แนะนำกันไปแล้ว และส่วนจัดแสดงอีก 3 ส่วนคือ สวนไฟน์อาร์ต สวนซินเซิง และสวนต้าเจียริเวอร์ไซด์

สำหรับสวนไฟน์อาร์ตซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสวนหยวนซัน จะมีศาลาและอาคารจัดแสดงอยู่ภายในทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ Taipei Fine Arts Museum (台北市立美術館) Taipei Story House (故事館) EXPO Hall 舞蝶館และ Pavilion of Aroma of Flowers(風味館)

หน้าประตูทางเข้า G3 ด้านสวนไฟน์อาร์ต
(Fine Arts Park Area)

ระบบประกันสุขภาพรุ่นที่ 2 ไม่ผ่านสภาฯ ประธานาธิบดีชี้ความเป็นธรรมคือหัวใจสำคัญ

การปฏิรูประบบประกันสุขภาพ หรือที่เรียกกันว่าระบบประกันสุขภาพรุ่นที่ 2 ยังมีความขัดแย้ง ในวันที่ 12 ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว ของสาธารณรัฐจีนเดินทางไปตรวจเยี่ยมที่เผิงหูให้สัมภาษณ์ขณะอยู่บนเครื่องบินว่า การปฏิรูประบบประกันสุขภาพ จะต้องอยู่บนหลักการ ความเป็นธรรม คุณภาพและประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องมีการหารือกันในรายละเอียดเพิ่มเติม

ประธานาธิบดีกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ หยางจื้อเหลียง รมว. ทบวงสาธารณสุขยินดีที่จะทบทวนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่ามีความยุติธรรมและบรรลุเป้าหมายได้ เพื่อทำให้กองทุนประกันสุขภาพมีความมั่นคง หยางจื้อเหลียงจะหารือกับสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋งในวันที่ 13 ด้วย

สินค้าเกษตรคุณภาพสูงของไต้หวัน ผลิดอกออกผลในเวียตนาม

อำเภอคูชิ(Cu Ch) จังหวัดโฮจิมินห์ของเวียตนาม จัดงานแสดงสินค้าเกษตร ผลผลิตฝรั่ง พุทรา มะระ มะเขือ แตงกวาของไต้หวันได้รับความสนใจจากอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้ลองชิมต่างติดใจในรสชาติ
ผลผลิตการเกษตรเหล่านี้คือผลสำเร็จจากโครงการพัฒนาหมู่บ้านเกษตรใหม่ สินค้าเกษตรทั้งหมดเป็นผลผลิตของท้องถิ่น ซึ่งกลุ่มบริษัทชิ้งโฟงของไต้หวัน และกระทรวงพัฒนาเกษตรและหมู่บ้านเกษตรเวียตนามร่วมมือกัน

รถยนต์ขนาดจิ๋ว “ทาทา” อินเดียเปิดตัวในไต้หวันแต่ยังไม่นำเข้า

นายหวง เม่าสง ประธานกลุ่ม TECO ไต้หวันได้นำเข้ารถยนต์ขนาดจิ๋วที่อินเดียเป็นผู้ผลิต “ทาทา” เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไต้หวันเมื่อวานนี้ แต่จะมีการนำเข้ามาจำหน่ายในไต้หวันหรือไม่ยังต้องศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดเสียก่อน ตอนนี้เพียงนำเข้าเพื่อให้บริษัทดำเนินการศึกษาก่อน

นายหวง เม่าสง ในฐานะประธานสมาคมไต้หวัน-อินเดีย ระบุว่า ในช่วงปี

ปมที่ทำให้ความตกลงคุ้มครองการลงทุนช่องแคบไต้หวันคลอดยาก

คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่หรือ MAC ของไต้หวันระบุว่า เนื่องจากความคืบหน้าในการเจรจาความตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างช่องแคบไต้หวัน ยังคงไม่สามารถบรรลุถึงการลงนามระหว่างกันได้ ทั้งสองฝ่ายจึงได้ตัดสินใจที่จะไม่มีการลงนามในความตกลงนี้ในการเจรจาระดับผู้นำองค์กรกลางช่องแคบไต้หวันครั้งที่ 6 ที่จะมีขึ้นในราวกลางเดือนธันวาคม ศกนี้ ทำให้นักลงทุนไต้หวันผิดหวังไปตามๆ กัน ตัวแทนนักธุรกิจไต้หวันเรียกร้องให้เร่งแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน เพื่อให้การลงทุนของนักลงทุนไต้หวันในจีนสบายใจมากขึ้น ทั้งนี้ ยังมีประเด็นบางอย่างที่จำเป็นต้องชี้แจงถึงปมเงื่อนแห่งความยากลำบากที่ทำให้ความตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างช่องแคบไต้หวัน “คลอดยาก” จึงจะสามารถหาทางแก้ได้อย่างถูกต้อง

โดยพื้นฐานแล้ว ความผิดหวังของนักลงทุนไต้หวันมาจากหลักประกันพื้นฐานและหลักประกันที่เป็นจริงต่อการลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากในช่วงปี 2534-สิ้นเดือนตุลาคม 2553 มูลนิธิเพื่อการติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างช่องแคบไต้หวัน (SEF) ได้ให้ความช่วยเหลือแก้ปัญหากรณีพิพาททางการค้าและการลงทุนระหว่างนักธุรกิจไต้หวันกับนักธุรกิจจีนแผ่นดินใหญ่รวมทั้งสิ้น 3,969 เรื่อง ในจำนวนนี้มีถึง 2,250 เรื่องที่เกี่ยวกับ

วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เจียงหุ้ย「江蕙」ราชินีเพลงภาษาไต้หวัน

วันเกิด 1 กันยายน 1961
เจียงหุ้ยถือเป็นราชินีเพลงภาษาไต้หวัน (台語) ที่โด่งดังที่สุดจากน้ำเสียงและการร้องเพลงของเธอที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนจำนวนมาก โดยเธอเป็นเจ้าของรางวัล Golden Melody Awards ซึ่งถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดของนักร้องไต้หวันในสาขานักร้องเพลงภาษาไต้หวันยอดเยี่ยมถึง 4 ปีซ้อน ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครทำได้ นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ที่อุทิศตัวเพื่อการกุศลอย่างเต็มที่ โดยรับอุปการะเด็กกำพร้ามากถึง 20 คน รวมทั้งยังเป็นผู้บริจาครายสำคัญของสถานสงเคราะห์คนชราแห่งหนึ่งด้วย

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เทศกาลภาพยนตร์เอเชียแปซิฟิค ครั้งที่ 54 ไต้หวันกวาด 6 รางวัล

ผ่านพ้นกันไปสดๆ ร้อนๆ กับการประกาศรางวัลในงานเทศกาลภาพยนตร์เอเชียแปซิฟิคครั้งที่ 54 (The 54th Asia Pacific Film Festival) มหกรรมภาพยนตร์ที่รู้จักกันดี สำหรับปีนี้จัดขึ้นที่ อนุสรณ์สถานดร.ซุนยัดเซ็น (National Dr. Sun Yat-sen Memorial Hall ) ในกรุงไทเป เมื่อค่ำวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ไต้หวันกวาดรางวัล 6 รายการ ได้แก่ การกำกับศิลปยอดเยี่ยม และ ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม จากเรื่อง "มองกา -艋舺" การถ่ายทำยอดเยี่ยม จากเรื่อง "ภาพแผ่นที่ 4 –第四張畫" ภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม จากเรื่อง “การผ่อนคลายชั่วครู่ -片刻緩和” นอกจากนี้ ผู้กำกับเอฟเฟคชาวไต้หวัน ตู้ตู่จือ (杜篤之) ได้รับรางวัลเอฟเฟคเสียงประกอบยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ญี่ปุ่น เรื่อง “Rail Truck” และ ตู้ตู่จือ ยังได้รับรางวัลการอุทิศพิเศษ ด้วย

ไปดูกันว่างานนี้มีใครเด่นๆ ดังๆ มาร่วมงานกันบ้าง
อู๋จงเสี้ยน (吳宗憲 : Jacky Wu) (ขวา)
และ(侯佩岑 : Patty Hou) (ซ้าย)
สองพิธีกรรายการโทรทัศน์ขาใหญ่ของไต้หวัน

เฉินเจี้ยนโจว (陳建州 : Chien-Chou Chen) (ซ้าย)
 เจ้าของฉายาแบล็คกี้ นักแสดงและ
พิธีกรรายการโทรทัศน์ในไต้หวัน
ปรากฎตัวพร้อมกับนางแบบสาวสุดฮอต หลินเจียฉี (林嘉綺)

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

"ฑีฆายุโก โหตุ มหาราชา" ขอทรงพระเจริญ

เรือโบราณไต้หวันยุคเจิ้ง เฉิงกง แล่นเรือเที่ยวแรก ย้อนยุค 300 ปี

เรือไต้หวัน” ซึ่งเป็นทั้งเรือรบและเรือสินค้าในยุคปีคริสต์ศักราช 1661-1683 ลำแรกในไต้หวันได้ออกเดินเรือสู่ทะเลแล้วในวันนี้ นำลูกเรือจากท่าเรืออันผิง ไถหนานมุ่งสู่ปากแม่น้ำลู่เอ่อเหมิน ย้อนยุคเจิ้ง เฉิงกง เมื่อ 300 ปีเศษที่แล้ว ฉายภาพประวัติศาสตร์ยุคการติดต่อทางทะเลระหว่างช่องแคบไต้หวัน

เรือไต้หวันที่ตั้งชื่อว่า “เฉิงกงไต้หวัน” เทียบท่าที่ท่าเรืออันผิง ไถหนานในตอนเช้าวันนี้ โดยมีนายสวี่ เทียนไฉ นายกเทศมนตรีเมืองไถหนาน

บทวิเคราะห์การเลือกตั้ง 5 ผู้ว่าการนครในไต้หวัน

คลิกรับชมรายงานพิเศษ การเลือกตั้งผู้ว่าการและสมาชิกสภานคร 5 นครใหม่ ปี 2553

ผลการเลือกตั้ง 5 ผู้ว่าการนคร
พรรคก๊กมินตั๋งได้ 3 ที่นั่ง
ส่วนพรรคดีพีพี ได้ 2 ที่นั่ง
การเลือกตั้ง 5 ผู้ว่าการนครครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองของไต้หวัน ได้ปิดฉากและทราบผลการเลือกตั้งแล้วเมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย. 2553 พรรคก๊มิ่นตั๋งและพรรคดีพีพี ต่างสามารถรักษาที่นั่งของตนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น คือ 3 ที่นั่งต่อ 2 ที่นั่ง และยังคงอยู่ในลักษณะของ “เหนือน้ำเงิน ใต้เขียว” แต่กล่าวในแง่ของจำนวนคะแนนเสียงรวม พรรคดีพีพี พรรคฝ่ายค้านได้รับคะแนนมากกว่าพรรคก๊กมิ่นตั๋งถึง 400,000 คะแนน และมีจำนวนที่นั่งในส่วนของสมาชิกสภานครก็ได้รับเลือกตั้งมากขึ้นเป็นอย่างมาก การเลือกตั้ง 5 ผู้ว่าการนครครั้งแรก พรรคก๊กมิ่นตั๋งไม่ได้แพ้ และพรรคดีพีพีก็ไม่ได้เป็นผู้แพ้เช่นเดียวกัน ทั้งสองพรรคยังมีปัญหาอีกมากที่จะต้องทบทวนและมุมานะพยายามต่อไป

วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เฉินสุ่ยเปี่ยนย้ายเข้าคุก ในวันที่ 2 ธ.ค.

หลังจากการตัดสินคดีอดีตประธานาธิบดีเฉินสุ่ยเปี่ยนและอู๋สูเจิน-ภรรยาทุจริตการซื้อที่ดินที่โหลงถัน และเฉินเหมิ่นสวินรับสินบนมีความผิดจริง ศาลสูงไต้หวันส่งคำพิพากษาและหลักฐานให้แก่กรมอัยการระดับสูงแล้ว สำนักงานเฉินสุ่ยเปี่ยนได้รับแจ้งว่า เฉินจะถูกย้ายจากสถานกักกันไทเป ไปยังเรือนจำไทเปในเวลา 10 น. ของวันที่ 2 เฉินจื่อจง บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีเฉิน จะระดมฝูงชนมาให้กำลังใจในเวลา 9.00 น. ที่สถานกักกันไทเป

ในส่วนของอู๋สูเจิน นั้น เนื่องจากปัจจุบันพำนักอยู่ที่เกาสง คาดว่าสำนักอัยการไทเปจะมอบหมายให้สำนักอัยการเกาสงดำเนินการ ต่อกรณีที่ว่า

แก๊สหุงต้ม ขี้นราคา 40 เอ็น.ที. เริ่ม 2 ธ.ค.

บริษัทไชน่าปิโตรเลี่ยมไต้หวันประกาศว่า ตั้งแต่เวลา 0.00 น. ของวันที่ 2 เป็นต้นไปจะปรับราคา แก๊สหุงต้มที่ใช้ตามบ้านเรือน ก.ก.ละ 2 เหรียญไต้หวัน แก๊สถังขนาด 20 ก.ก. ปรับขึ้นราคาถังละ 40 เหรียญไต้หวัน แก๊สธรรมชาติส่งตามท่อไม่ปรับราคา และแก๊สรถยนต์ปรับราคาลิตรละ 1.1 เหรียญไต้หวัน

รมว.กลาโหมไต้หวัน ตั้งชุดทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบข้อเท็จจริง หลัง วิกิลีกส์ เผยแพร่บันทึกลับทางการทูตของกต.สหรัฐ

ก่อนหน้านี้ วิกิลีกส์ เว็บไซต์จอมแฉนำบันทึกลับทางการทูตของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาตีแผ่ผ่านทางเว็บไซต์ จำนวนนับแสนฉบับ ซึ่งในจำนวนนี้มีบางส่วนที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับไต้หวันรวมอยู่ด้วย ทำให้สส.ของไต้หวันจับตามองเป็นกรณีพิเศษและเกรงว่ากระทรวงกลาโหมมีข้อมูลทั้งหมดแล้วหรือไม่ โดยนายเกาหัวจู้ รมว.กระทรวงกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยระหว่างตอบข้อซักถามในสภาว่า ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เล็ดลอดออกไปจากไต้หวัน ขณะนี้กระทรวงกลาโหมได้จัดตั้งชุดทำงานเฉพาะกิจขึ้นแล้วเพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายเกาหัวจู้ เปิดเผยว่า ระบบข้อมูลทางทหารของไต้หวันมีการแยกจัดเก็บอย่างชัดเจน ดังนั้น เอกสารที่วิกิลีกส์นำออกเผยแพร่ ไม่ได้เล็ดลอดออกไปจากไต้หวันแน่นอน แต่รั่วไหลอกจากกองทัพหรือหน่วยงานต่างประเทศของสหรัฐ และขณะนี้ได้สั่งการให้ นายหยางเนี่ยนจู่ (楊念祖)รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมจัดตั้งชุดทำงานเฉพาะกิจขึ้น เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ด้วย ว่าเป็นเอกสารลับจริงหรือไม่ โดยที่หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงกลาโหม จะมีการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับสถาบันอเมริกันในไต้หวันต่อไป

นายเกาหัวจู้ กล่าวว่า เราจะมีการทบทวนกัน ตอนนี้เอกสารดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปแล้ว เรื่องไหนมีความเกี่ยวข้องกับไต้หวัน เรื่องไหนเกี่ยวกับฝ่ายทหารของไต้หวัน เราจะทำการจัดแบ่งประเภทออกมา

จากข้อมูลบันทึกลับทางการทูตของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาที่ถูกตีแผ่ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า จีนคัดค้านสหรัฐไม่ให้ขายเครื่องบินรบ F-16 C/D และเฮลิคอปเตอร์ 60 ลำให้ไต้หวัน ซึ่งนายเกาหัวจู้เปิดเผยว่า จีนได้แสดงท่าทีคัดค้านต่อแผนขายอาวุธให้ไต้หวันของสหรัฐอย่างชัดเจน แต่ไต้หวันจะยังคงเสนอความต้องการดังกล่าวต่อไป ซึ่งกระทรวงกลาโหมมีความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุตามเป้าหมายได้

Computex Taipei 2011 ครบรอบ 31 ปี คาดเงินสะพัด 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

Computex Taipei 2011 งานแสดงสินค้าและอุปกรณ์ไอทีที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเอเชีย มีกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. – 4 มิ.ย. 2554 ในกรุงไทเป สมาคมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศชี้ วางแผนใช้พื้นที่ศูนย์แสดงสินค้าสำหรับงาน Computex ในปีหน้าทั้งหมด 5 แห่ง เป็นงานที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการแสดงความจำนงร่วมจัดแสดงสินค้าในงานแล้ว 1,800 ราย และจะมีบูธแสดงสินค้าเกินกว่า 5,000 บูธ คาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้สนใจจากต่างประเทศเข้าร่วมงานได้ราว 4 หมื่นคน และสร้างโอกาสทางธุรกิจได้มากถึง 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


นายหลี่เหวินเจิง (李文鉦) รองหัวหน้าฝ่ายจัดงานและนิทรรศการ สมาคมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า งานคอมพิวเทคไทเป ปี 2011 ซึ่งจัดขึ้นในปีหน้านี้ จะมีการจัดแสดง 4 ส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ เทคโนโลยี 3D คลาวด์ คอมพิวติ้ง Tablet PC และ เทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ เรายังได้เพิ่มส่วนจัดแสดงในปีหน้าอีก 2 ส่วนคือ สินค้าเทคโนโลยีระบบแบบฝังตัว และ การเชื่อมโยงสรรพสิ่งเข้ากับอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่า Internet of Things (IOT)

กต.ไต้หวันเผย ประธานเอไอทีเดินทางเยือนไต้หวันถือโอกาสหารือเรื่องการเปิดเจรจาTIFA

นายเรย์มอนด์ เบิร์กฮาร์ดท์ (Raymond Burghardt) ประธานสถาบันอเมริกันในไต้หวัน(American Institute in Taiwan : AIT) เดินทางมาเยือนไต้หวันเมื่อค่ำวันที่ 29 พ.ย.ศกนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนแถลงว่าน่าจะมีโอกาสหารือเรื่องการเจรจากรอบความตกลงทางการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Framework Arrangement :TIFA) ระหว่างสหรัฐฯกับไต้หวัน
นายจางจี้ผิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงในวันที่ 30 พ.ย. ศกนี้ว่า นายเรย์มอนด์ เบิร์กฮาร์ดท์มีกำหนดจะเข้าพบปะกับประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว นายหวังจินผิง ประธานสภานิติบัญญัติ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงเศรษฐการรวมถึงนักการเมืองคนสำคัญจากพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน ส่วนการเปิดเจรจา TIFA ซึ่งเดิมนายหยางจิ้นเทียน รมว.ต่างประเทศเคยแถลงว่าน่าจะเปิดเจรจาต่อกันได้ในเดือน ธ.ค. ศกนี้นั้น ต้องรอให้มีการหารือกันในรายละเอียดปลีกย่อยก่อนจึงจะเปิดเผยได้

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า เราเข้าใจว่าการที่เขาเดินทางมาเยือนไต้หวันก็น่าจะมีการหารือกันถึงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯกับไต้หวัน รวมถึงประเด็นอื่นๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเด็นเรื่องการเปิดเจรจา TIFA เช่นจะเปิดเจรจากันเมื่อไหร่ ผมคิดว่าคงจะมีการหารือกันหรือมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ต้องรอให้มีการพบปะพูดคุยกันก่อน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะรีบรายงานให้ประชาชนได้ทราบเป็นอันดับแรก
สำหรับกำหนดการของนายเรย์มอนด์ เบิร์กฮาร์ดท์ ประธานสถาบันอเมริกันในไต้หวันในวันที่ 30 พ.ย.นี้คือแสดงปาฐกถาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับไต้หวันที่สมาคมนักธุรกิจอเมริกันในไต้หวัน

ธนาคารกลางไต้หวันเตรียมออกธนบัตรหนึ่งร้อยเหรียญรุ่นที่ระลึกครบรอบร้อยปีการสถาปนาประเทศ

ปี พ.ศ. 2554 จะเป็นปีที่ประเทศ สาธารณรัฐจีนสถาปนาประเทศครบรอบหนึ่งร้อยปี เพื่อร่วมฉลองการครบรอบหนึ่งร้อยปีของการสถาปนาประเทศ ธนาคารกลางแห่งไต้หวันสาธารณรัฐจีน(Central Bank Of Republic of China(Taiwan)) เตรียมออกธนบัตรหนึ่งร้อยเหรียญเอ็นทีรุ่นที่ระลึกครบรอบหนึ่งร้อยปีของการสถาปนาประเทศ ซึ่งมีทั้งแบบธรรมดาจำนวน 400 ล้านใบกับแบบที่มีซองบรรจุอย่างสวยงามภายในมีธนบัตรรุ่นใหม่ 3 ใบเหมาะสำหรับเก็บสะสมไว้เป็นที่ระลึก จำนวน 300,000 ชุด ราคาชุดละ 500 เหรียญเอ็นทีจะเริ่มนำออกจำหน่ายตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป นอกจากนี้ยังจะมีการออกเงินเหรียญกษาปณ์(สิบเหรียญเอ็นที)ที่ระลึกครบรอบหนึ่งร้อยปีของการสถาปนาประเทศโดยด้านหน้าเป็นภาพของดร. ซุนยัดเซ็นบิดาแห่งประชาชาติจีนหรือผู้นำการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐจีน กำหนดจะนำออกจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปในเดือนต.ค.ปีหน้า

งานเค้าน์ดาวน์รับปีศักราชสาธารณรัฐจีนที่ 100 ไทเป 101 เตรียมจุดดอกไม้ไฟ 3D


ภาพการจุดดอกไม้ไฟที่ตึก 101
เคาน์ดาวน์รับศักราชปี 2552

นายหลิวเจียหาว โฆษกอาคารไทเป 101 เปิดเผยว่า เพื่อร่วมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของการสถาปนาประเทศ งานเค้าน์ดาวน์รับปีศักราชสาธารณรัฐจีนที่ 100 ไทเป 101  เตรียมจุดดอกไม้ไฟแบบสามมิติหรือ 3D เป็นครั้งแรก ตัวอักษรที่ติดบนผนังอาคารจะใช้คำว่า  สถาปนาประเทศครบหนึ่งร้อยปี 「建國百年」  ซึ่งจะออกแบบโดยนายไช่กว๋อเฉียง ศิลปินชาวไต้หวันที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบดอกไม้ไฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก  คาดจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 60 ล้านเหรียญเอ็นที  ซึ่งครึ่งหนึ่งทางไทเป  101  จะเป็นผู้รับผิดชอบเอง  ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นเงินสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจ และกำลังเตรียมของบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลกลางด้วย

ท่องเที่ยวบูม ธุรกิจโรงแรมไต้หวันเตรียมทุ่มทุนเกิน50,000 ล้านขยายกิจการในอีกสามปีข้างหน้า

คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ สภาบริหาร ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนแถลงหลังการประชุมในวันที่ 29 พ.ย. ศกนี้ว่า จากรายงานความคืบหน้าของแผนพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ 6 ประเภทที่คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติกำลังเร่งผลักดันอยู่ในขณะนี้อันได้แก่ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ การท่องเที่ยว พลังงานสีเขียว การรักษาพยาบาล การเกษตรปราณีต และความคิดสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม นั้นพบว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีผลคืบหน้ามากที่สุด โดยจากสถิติในช่วง 10 เดือนของปีนี้ คือม.ค.-ต.ค. พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไต้หวันเพิ่มขึ้น 27.5 % คาดตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไต้หวันทะลุหลัก 5,400,000 คน โดยในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ 1,340,000 คนหรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่านักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และเกาหลีก็เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ธุรกิจโรงแรมในไต้หวันเตรียมทุ่มทุนเพื่อขยายกิจการในอีกสามปีข้างหน้าเป็นมูลค่ามากกว่า50,000 ล้านเหรียญเอ็นที คาดจะสามารถสร้างตำแหน่งงานได้มากกกว่า 7,000 อัตรา

นายจันฟางก้วน รองผู้อำนวยการกองวางแผนนโยบาย คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ กล่าวว่า แผนการนี้เราผลักดันมาเป็นเวลาปีกว่าแล้ว นับได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในปัจจุบันมีกลุ่มธุรกิจโรงแรมข้ามชาติหลายกลุ่มทยอยเข้ามาลงทุนในไต้หวัน จากสถิติของกรมการท่องเที่ยว พบว่าในอนาคตอีกสองถึงสามปีข้างหน้า จะมีเงินลงทุนในธุรกิจโรงแรมมากกว่า 50,000 ล้านเหรียญเอ็นที