วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Pavilion of Dreams ได้รับความนิยมสุดๆ ไอทีอาร์ไออยู่เบื้องหลัง

หลังจากที่มหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2553 ผ่านการทดสอบเป็นเวลา 20 วันเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าประชาชนให้ความสนใจกับ Pavilion of Dreams หรือ ศาลาแห่งความฝัน ที่ตั้งอยู่ในสวนซินเซิง ผู้อยู่เบื้องหลังศาลาดังกล่าวคือสถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมหรือ ไอทีอาร์ไอ ไต้หวันนั่นเอง อาศัยเทคโนโลยี่ของสถาบันประสมประสานกับความคิดสร้างสรรค์ ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับบรรยากาศของเรื่องราวต่างๆ กับระบบดิจิตอลอย่างไม่เคยพบมาก่อน

ในบรรดาศาลา 14 แห่งที่เข้าร่วมมหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2553 ในครั้งนี้ มีเพียง Pavilion of Dreams เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยี่ล้ำสมัยของไต้หวัน และปะรสมประสานกับการออกแบบด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยนครไทเปมอบหมายให้ไอทีอาร์ไอเป็นผู้รับผิดชอบออกแบบดำเนินการทั้งหมด ประสานกับลำโพงที่ทำจากกระดาษ จอแสดงผลสามมิติแนวตั้ง จอระบบสัมผัส ประกอบด้วยการประสานกับกล้องโปรเจกเตอร์จำนวนมากกับการฉายภาพเทคนิคแสงสีตระการตา ความคิดสร้างสรรทางศิลปะ ให้ระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของผู้เข้าชมได้ตื่นตาตื่นใจ

นางเหยียน ไน่เจวียน ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์ไอทีอาร์ไอไต้หวันผู้รับผิดชอบผลงานดังกล่าวระบุว่า “ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของพวกเราเหมือนกันที่รับหน้าที่ออกแบบศาลาจัดแสดงขนาดใหญ่อย่างนี้ เราใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งอะไหล่ วัสดุต่างๆ และอาศัยเทคโนโลยี่เป็นตัวแสดงผลงาน ผู้ชมจะได้ชมความสวยสดงดงามตระการตาของเทคโนโลยีสุนทรียศาสตร์ คิดว่าผู้ชมสามารถใช้เวลาชื่นชมศาลาแห่งนี้ด้วยความสุนทรีย์”

กต.ไต้หวันเตือนนักท่องเที่ยวไต้หวันเที่ยวไทยระวังความปลอดภัยทางน้ำ

กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน สาธารณรัฐจีนได้ติดตามสภาพน้ำท่วมในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และประกาศเตือนว่า สภาพน้ำท่วมในเขตภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของไทยที่เป็นมาตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. 2553 เป็นต้นมา เริ่มดีขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตามในเขตปริมณฑลได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี นครราชสีมา และชัยภูมิ ยังคงอยู่ในสภาพน้ำท่วม นอกจากนี้ เดิมที่คาดว่าในวันที่ 26 ต.ค. 2553 จะเกิดน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำเจ้าพระยาท่วมกรุงเทพฯ นั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในไทยเช่น เชียงใหม่ เชียงราย พัทยา และภูเก็ต ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมแต่อย่างใด เส้นทางคมนาคมต่างๆ ยังคงเป็นไปตามปกติ ดังนั้น สัญญานเตือนการท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันจึงยังคงอยู่ในระดับ “สีเหลือง” เหมือนเดิม ชาวไต้หวันที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือประกอบธุรกรรมในไทย ควรติดตามการพยากรณ์อากาศ และสภาพการคมนาคมในแต่ละท้องที่ ส่วนการจัดกำหนดการ “ล่องเรือ” นั้น เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาค่อนข้างเชี่ยวและระดับน้ำค่อนข้างสูง ดังนั้น ก่อนออกเดินทางควรตรวจสอบความปลอดภัยจากบริษัทนำเที่ยวให้แน่ชัดก่อนใช้บริการ

ไต้หวันอาจขยายช่วงเวลาแรงงานต่างชาติทำงานได้ถึง 12 ปี

ในวันที่ 27 คณะกรรมการกิจการแรงงานประชุมป้องกันแรงงานหลบหนี ที่ประชุมมีความเห็นชอบต่อการขยายช่วงเวลาทำงานในไต้หวันของแรงงานต่างชาติ แต่จะขยายโดยยกเว้นข้อจำกัดเวลาหรือขยายเพิ่มช่วงจากเป็น 9 ปี 12 ปี ยังไม่แน่ชัด

อุบัติเหตุการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 6 เป็นการเปิดโปงปัญหาการหลบหนีของแรงงานต่างชาติ กรมฝึกหัดแรงงาน คณะกรรมการกิจการแรงงานแถลงว่า ในวันที่ 27 ได้มีการประชุมเรื่องการขยายช่วงเวลาทำงานของแรงงานต่างชาติในไต้หวัน

ไช่ม่งเหลียง (蔡孟良) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแรงงานต่างชาติ กรมฝึกหัดแรงงานเปิดเผยว่า การขยายช่วงเวลาทำงานมีประโยชน์ในด้านความมั่นคงของแรงงาน ทำให้แรงงานมีโอกาสกลับมาทำงานในที่เดิมได้ ลดการหลบหนี ที่ประชุมเห็นชอบต่อการขยายช่วงเวลาทำงาน

นอกจากนี้ จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการกิจการแรงงานชี้ว่า อาจจะมีการยกเลิกระเบียบที่บังคับให้แรงงานเดินทางออกนอกประเทศ 1 ครั้ง ทุก 3 ปีด้วย

มหกรรมท่องเที่ยวกำลังจะเริ่มขึ้น

Taipei ITF มหกรรมท่องเที่ยวซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นประจำในช่วงปลายปีกำลังจะเริ่มขึ้น ในวันที่ 5 พฤศจิกายน เป็นเวลา 4 วัน ในปีนี้มีผู้ร่วมงานจากพื้นที่ต่าง ๆ 60 แห่ง จำนวน 1200 คูหา บางรายกระหน่ำลดราคา ห้องพักปกติ ลดเหลือ 999 เหรียญไต้หวัน

โจวชิ้งโสง (周慶雄) ประธานสมาคมการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า งาน ITF เป็นงานที่มีผู้ร่วมจัดแสดง และผู้ชมงานมากที่สุดในเอเชีย

โจวชิ้งโสงกล่าวด้วยว่า ในปีนี้เศรษฐกิจฟื้นตัว ภาวะกิจการท่องเที่ยวดีขึ้นด้วย ในเดือน มกราคม – กันยายน ชาวไต้หวันไปท่องเที่ยวต่างประเทศ 9.20 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.52% เทียบกับปีที่แล้ว ชาวต่างชาติมาเที่ยวในไต้หวัน 4.02 ล้านคน เพิ่มขึ้น 27% คาดว่าถึงปลายปีจะทะลุ 5.50 ล้านคน

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไต้หวันทุบสถิติสูงสุดในรอบ 6 ปี

ศูนย์วิจัยพัฒนาเศรษฐกิจไต้หวัน มหาวิทยาลัย National Central University เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนตุลาคม ขยับมาอยู่ที่ระดับ 80.19 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.05 จุด และนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับแต่เดือนมีนาคม ปี 2547 เป็นต้นมา

ศูนย์วิจัยพัฒนาเศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเผยว่า ผลการสำรวจครั้งนี้ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุน ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไต้หวันโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำ และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ปรับขึ้นทั้ง 4 รายการ ขณะที่ความเชื่อมั่นในด้านมาตรฐานราคาสินค้าและการซื้อสินค้าคงทนลดลงทั้ง 2 รายการ

ผลสำรวจยังพบว่า ในเดือนต.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำมีการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ระดับ 87.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 1.9 จุด และยังทำสถิติเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2548 เป็นต้นมา ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหมวดที่ลดลงมากที่สุดคือมาตรฐานราคาสินค้า

ไต้หวันติดอันดับประเทศร่ำรวยอันดับสามของเอเชีย

ผลการสำรวจ เรื่องระดับความร่ำรวยของประเทศในเอเชียซึ่งจัดทำโดย Allianz Group ยักษ์ใหญ่ของวงการธุรกิจประกันภัยโลกสัญชาติเยอรมัน ซึ่งนำออกเผยแพร่ในวันที่ 26 ต.ค. ศกนี้พบว่า ณ สิ้นปี 2552 ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยต่อครัวเรือนของชาวไต้หวันคือ 50,000 ยูโรต่อปี (ประมาณ 2,200,000 เหรียญเอ็นทีหรือประมาณ 2,150,000 บาท)สูงเป็นอันดับสามของเอเชียและเป็นอันดับที่ สิบแปดของโลก รองจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์ซึ่งติดอันดับหนึ่งและสองของเอเชีย ในขณะที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ติดอันดับประเทศร่ำรวยที่สุดในโลก อันดับสองคือสหรัฐอเมริกา อันดับสาม เดนมาร์ก อันดับสี่ ฮอลแลนด์ อันดับห้า ญี่ปุ่น

รายงานการสำรวจดังกล่าวยังระบุว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่อัตราการเติบโตของทรัพย์สินทางการเงินยังคงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยคือ 0.37%เท่านั้น ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.34% นอกจากนี้มูลค่าทรัพย์สินทางการเงินโลกยังลดต่ำลงกว่าช่วงเกิดวิกฤตการเงินโลก 4% อย่างไรก็ดี เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่และอินเดียยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ทรัพย์สินทางการเงินของประเทศเศรษฐกิจใหม่ของเอเชียเหล่านี้เพิ่มขึ้นเกินกว่า 10% ขณะที่ไต้หวันซึ่งส่งออกสินค้าไปจีนแผ่นดินใหญ่มากกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกทั้งหมดก็มีอัตราการเติบโตของทรัพย์สินทางการเงิน 5.6%

ความพยายามในการปราบคอรัปชั่นของไต้หวัน ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

Transparency International (TI) องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำงานเพื่อแก้ปัญหาคอรัปชั่น เปิดเผยผลการจัดอันดับดัชนีวัดภาพลักษณ์คอรัปชั่นประจำปี 2553 ของประเทศต่างๆ 178 ประเทศทั่วโลก ปรากฏว่าไต้หวันมีคะแนนดีขึ้นจากครั้งก่อนที่ได้ 5.6 คะแนน มาได้ได้ 5.8 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนนในครั้งนี้ ทำให้มีอันดับที่ดีขึ้นจากเดิม 4 อันดับ และเลื่อนมาอยู่ในอันดับที่ 33 จากอันดับที่ 37 ในครั้งที่แล้ว และอยู่ในอันดับที่ 6 ของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วย ซึ่งผลการจัดอันดับความโปร่งใสครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าไต้หวันค่อยๆ หลุดพ้นจากภาพลักษณ์การคอรัปชั่นในยุคที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในขณะนี้ขึ้นบริหารประเทศ

นายหลอจื้อเฉียง (羅智強)โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี เปิดเผยว่า รัฐบาลมือสะอาดนับเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารประเทศของประธานาธิบดีหม่า

วันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2553

แผนพัฒนาแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 12 ของจีนแผ่นดินใหญ่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการกลางเต็มคณะของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เปิดการประชุมสมัยที่ 17 ขึ้น พิจารณาแผนพัฒนาแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 12 ซึ่งเรียกสั้นๆ ว่า “แผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 12” ซึ่งเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมหลักของจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ไปคือตั้งแต่ปีหน้าจนถึงปี 2558

ประการแรก นายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีนได้เสนอหลักการ “เติบโตด้วยการยอมรับกัน” เป็นแกนหลักหัวใจของแผนพัฒนาฉบับนี้ เป้าหมายอยู่ที่การลดความขัดแย้งในสังคมที่ดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นทุกขณะ ให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างทั่วหน้ากัน มิใช่เป็นผู้เคราะห์ร้ายจากการพัฒนาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น

ในปัจจุบันจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ในสภาพที่ทุกอย่าง “เพื่อเงิน” ทั้งสิ้น ความเป็นธรรมในสังคมกำลังมลายหายสูญไป สภาพแวดล้อมชีวิตความเป็นอยู่ถูกทำลาย ในสังคมมีความขัดแย้งต่างๆ มากมาย หากปักกิ่งไม่คิดหาวิธีการรับมืออย่างรอบคอบ ปล่อยให้ปัจจัยที่ทำให้สังคมเกิดความไม่สงบสุขขึ้นเหล่านี้ ก็จะทำให้ความขัดแย้งขยายวงกว้างมากขึ้น ความระส่ำระสายก็จะเพิ่มดีกรีสูงขึ้น เมื่อปะทุขึ้นก็ยากที่จะสกัดกั้นมิให้ลุกลามบานปลายออกไปได้

ประธานาธิบดีสั่งการเร่งช่วยเหลือผู้ติดค้างบนทางหลวงซูฮวา

ในวันที่ 22 ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วตรวจเยี่ยมศูนย์รับมือภัยพิบัติรับฟังรายงานภาวะภัยธรรมชาติ ทางหลวงซูเอ้า เมืองอี๋หลาน พังถล่ม มีผู้ติดค้างอยู่ 400 กว่าคน ประธานาธิบดีหม่าสั่งการให้ช่วยเหลือเต็มที่ และเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความระมัดระวัง หากต้องอพยพประชาชนให้ดำเนินการทันที

พายุเมกีส่งอิทธิพลต่อไต้หวัน ภาคเหนือฝนตกหนัก น้ำท่วมขังในเขตอี๋หลาน ทำให้ทางหลวงซูฮวาเสียหายหนัก

ประธานาธิบดีหม่าสั่งการให้หน่วยกู้ภัยลำเลียงอาหารและเครื่องกันหนาวให้แก่ผู้ติดค้างโดยด่วน “พวกเราเห็นว่าประการแรกคือ เสบียงอาหาร เครื่องกันหนาว เสื้อฝน จะต้องส่งไปให้ถึงมือพวกเขาเร็วที่สุด หากกำลังคนไม่เพียงพอจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพ เนื่องจากคนทั่วไปคงเข้าไปยาก ขอให้ผู้บัญชาการทหารพิจารณาโดยรอบคอบ หากสภาพอากาศดีขึ้น ไม่ว่าจะเดินทางด้วยทางบกหรืออากาศ จะต้องรีบเร่งทันที ต้องให้พวกเขาได้รับการช่วยเหลือ ในขณะเดียวกัน ต้องรีบติดตั้งระบบการติดต่อสื่อสาร อย่างเร่งด่วน เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง”

ทางด้านเกาหัวจู้ (高華柱) รมว. กระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยทหารพิเศษเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว และหน่วยนาวิกโยธิน 800 นาย ได้เข้าไปอยู่ในตำบลซูเอ้า เฮลิคอปเตอร์ S-70C จำนวน 3 ลำ เตรียมพร้อมที่สนามบินโซงซาน หากสภาพอากาศดีขึ้นจะออกปฏิบัติหน้าที่ทันที

ทางหลวงซูฮวาพังถล่ม นักท่องเที่ยวจีนติดค้าง 250 กว่าคน

พายุไต้ฝุ่นเมกีส่งอิทธิพลต่อไต้หวันทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำเซาะทางหลวงซูฮวา ซึ่งเป็นทางหลวงเลียบภูเขาฝั่งตะวันออกของไต้หวันทรุดพังขาดสะบั่น กรมการท่องเที่ยวกระทรวงคมนาคมแถลงในวันที่ 22 นักท่องเที่ยวจีนจำนวน 12 กลุ่ม 255 คน ติดค้างอยู่บนทางหลวงบนภูเขา และมีนักท่องเที่ยวจีนจากมณฑลกวางตุ้งกลุ่มหนึ่งขาดการติดต่อ สวี่เกาชิ่ง(許高慶) เลขาธิการสมาพันธ์การท่องเที่ยวเปิดเผยว่า “ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากกวางตุ้ง ที่ขาดการติดต่อ บนรถมี 18 คน รวมไกด์อีก 1 คน”

กรมทางหลวงเปิดเผยว่า หากนับรวมประชาชนทั้งหมดและนักท่องเที่ยวจีน มีผู้ติดค้างบนทางหลวงประมาณ 400 คน ส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่ง ก.ม. ที่ 114 – 115

คณะกรรมการการเกษตรไต้หวันระบุ บรรจุการควบคุมทรัพยากรประมงไว้ในการหารือเจียง-เฉินครั้งที่ 7

จากการที่ชาวประมงไต้หวันร้องเรียนว่า ในช่วงที่ผ่านมาเรือประมงของจีนแผ่นดินใหญ่ลุกล้ำเส้นแบ่งเขตน่านน้ำเข้ามาจับปลาในบริเวณทะเลของไต้หวัน อีกทั้งทำลายอุปกรณ์จับปลาของชาวประมงไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อปริมาณปูฤดูใบไม้ร่วงทำให้จับได้ลดลงนั้น เฉินหวู่โสง(陳武雄) ประธานคณะกรรมการการเกษตร สภาบริหารไต้หวัน กล่าวขณะตอบกระทู้คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สภานิติบัญญัติไต้หวันย้ำว่า ปริมาณผลผลิตปูที่ลดลงเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศด้วย แต่สำนักงานรักษาความปลอดภัยชายฝั่งได้ดำเนินมาตรการเฉพาะในการปกป้องเรือประมงบริเวณน่านน้ำทะเลฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว

เฉินหวู๋โสงกล่าวว่า “ดังนั้นสำนักงานรักษาความปลอดภัยชายฝั่งได้ดำเนินมาตรการ

ประธานธนาคารกลางระบุ เงินร้อนทะลักเข้าไต้หวันปั่นค่าเงิน 370,000 ล้านเหรียญไต้หวัน

วันที่ 20 ต.ค. เผิงฮวายหนาน (彭淮南) ประธานธนาคารกลางไต้หวัน เปิดเผยว่า เงินทุนต่างชาติที่โอนเข้าสู่ไต้หวันแต่ไม่ได้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีมูลค่าสูงถึง 520,000 ล้านเหรียญไต้หวัน แต่ที่ทำการหมุนเวียนอย่างสมเหตุผลมีเพียง 150,000 กว่าล้านเหรียญไต้หวัน กล่าวเป็นนัยว่ามีเงินร้อนที่ทำการปั่นค่าเงินอยู่สูงถึง 370,000 ล้านเหรียญไต้หวัน แม้จะไม่ทำลายสถิติสูงสุด แต่ถือว่าเกินระดับที่ธนาคารกลางกำหนดคือ 300,000 ล้านเหรียญไต้หวัน

ประธานธนาคารกลางไต้หวันระบุว่า ในจำนวนเงินร้อน 370,000 ล้านเหรียญไต้หวันนี้ แบ่งเป็นเงินฝาก 120,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ที่เหลือ 250,000 ล้านเหรียญไต้หวันนั้น ใช้เพื่อการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินฝากประจำ เผิงฮวายหนานกล่าวว่า พันธบัตรรัฐบาลระยะเวลา 2 ปี มีจำนวนรวมเพียงแค่ 80,000 ล้านเหรียญไต้หวัน ถูกเงินทุนต่างชาติกว้านซื้อทั้งหมด แม้คนนอกวงการก็รู้ได้ว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อปั่นค่าเงิน

ส่วนการกล่าวถึงมาตรการสกัดเงินร้อนด้วยการจัดเก็บภาษีก่อนหน้านี้ ที่หลี่ซู่เต๋อ(李述德) รมว.กระทรวงการคลังระบุว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เพราะช้าเกินไปนั้น วันที่ 20 ต.ค. เผิงฮวายหนานยอมรับว่า การจัดเก็บภาษีเงินร้อนไม่ใช่เรื่องสำคัญและไม่ใช่หน้าที่ของธนาคารกลางแต่อย่างใด แต่มาตรการการเกลี่ยกล่อมให้สำนึกด้านคุณธรรมที่ธนาคารกลางใช้อยู่ในปัจจุบันมีผลดีเป็นที่น่าพอใจ เท่ากับบอกเป็นนัยว่ายังไม่เร่งรีบที่จะใช้มาตรการจัดเก็บภาษีเพื่อสกัดเงินร้อนในขณะนี้แต่อย่างใด

กรมการบินพลเรือนไต้หวันเตรียมทุ่มงบ 6 หมื่นล้านเอนทีสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่สามที่สนามบินนานาชาติเถาหยวน

เพื่อผลักดันสนามบินนานาชาติเถาหยวนให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคมเตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 6 หมื่นล้านเหรียญเอนทีก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 3 ในสนามบินดังกล่าว คาดเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2014 และแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานอย่างเร็วที่สุดในปี 2018

นายอิ่นเฉิงเผิง (尹承蓬) อธิบดีกรมการบินพลเรือนเปิดเผยว่า อาคารผู้โดยสารแห่งที่สาม จะตั้งอยู่ทางตะวันตกของอาคารสอง ประกอบด้วยตัวอาคารหลัก ชั้นผู้โดยสารขาออก ลานจอดเครื่องบินและระบบคมนาคมขนส่งผู้โดยสาร ต่างๆ เป็นต้น โดยมีทางเชื่อมต่อกับอาคารสองทางทิศตะวันออกของอาคาร ส่วนชั้นใต้ดินจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าสนามบิน

อธิบดีกรมการบินพลเรือนชี้ว่า จากข้อมูลการสำรวจภาวะตลาดประจำปี

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วระบุ การเจรจาด้านการเมืองระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันยังไม่มีกำหนดเวลา

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วกล่าวขณะให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวเอพี(Associated Press)ในช่วงเช้าวันที่ 19 ต.ค. ศกนี้ว่า หากปัญหาด้านเศรษฐกิจได้รับการแก้ไขแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือเตรียมเปิดเจรจาทางการเมืองกับจีนแผ่นดินใหญ่ สำนักข่าวเอพียังรายงานว่าผู้นำไต้หวันระบุว่าจะเปิดเจรจาด้านการเมืองกับจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 หลังปี พศ. 2555 อย่างไรก็ดีในช่วงค่ำวันเดียวกันผู้นำไต้หวันได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเจรจาระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันยังคงยึดหลักการเดิมคือ เศรษฐกิจก่อนการเมือง「先經濟、後政治」 ในขณะนี้สองฝั่งช่องแคบไต้หวันยังคงเจรจาหารือกันในประเด็นด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นจะยังไม่มีการจัดประเด็นด้านการเมืองเข้าไว้ในการเจรจา

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วกล่าวว่า『ผมได้บอกกับผู้สื่อข่าวของเอพีว่า ในขณะนี้สองฝั่งช่องแคบไต้หวันยังคงเจรจาหารือกันในประเด็นด้านเศรษฐกิจในอนาคตจึงจะหารือเรื่องการเมือง ปัจจุบันยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจมากมายที่เพิ่งจะเริ่มเจรจากัน หลังจากที่เจรจาปัญหาด้านเศรษฐกิจเสร็จสิ้นลงแล้วจึงจะเปิดเจรจาด้านการเมืองต่อกัน ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเมื่อไหร่จะเปิดเจราจาด้านการเมืองผมบอกเขาว่า ยังไม่มีกำหนดเวลา แต่ข่าวที่ตีพิมพ์ออกไปต่างจากที่ผมพูด ที่ผมให้สัมภาษณ์นั้นไม่ได้นำเอาเรื่องการเปิดเจรจาทางการเมืองระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันไปรวมกับการเข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 แต่อย่างใด』

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วระบุ ไต้หวันควรเป็นผู้สร้างสรรสันติภาพบนเวทีโลก

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว(馬英九) แห่งไต้หวัน สาธารณรัฐจีน กล่าวขณะเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมมสุดยอดนักธุรกิจชาวจีน 2010 ครั้งที่ 8 ระบุว่า ไต้หวันควรเป็นผู้สร้างสรรสันติภาพบนเวทีโลก ดังเช่นการผลักดันพัฒนาความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวันเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด ประธานาธิบดีหม่าระบุว่า เมื่อท่านเข้ารับตำแหน่งได้พยายามอย่างเต็มที่ในการใช้สันติภาพลบล้างความขัดแย้ง ใช้วิธีหารือแทนการต่อต้าน ซึ่งได้เห็นผลงานบ้างแล้วในปัจจุบัน สามารถลดความตึงเครียดของสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ให้สองฝ่ายมีโอกาสในการติดต่อแลกเปลี่ยนมากขึ้น ท่านเชื่อว่าในอนาคตจะทำได้ดียิ่งขึ้นได้

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วกล่าวว่า “ข้าพเจ้าคิดว่า 60ปีแล้ว สองเกาหลียังคงอึมครึมด้วยควันแห่งสงคราม เรากลับมีโอกาสทำให้ช่องแคบไต้หวันที่เคยเป็นสนามรบคร่าชีวิตผู้คนกลายเป็นช่องทางแห่งสันติภาพ ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าเราสามารถทำให้ดียิ่งขึ้นได้”

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วระบุว่า ยังมีปัญหาความอดอยากและภัยพิบัติบนโลกใบนี้มากมาย ดังนั้นไต้หวันต้องทำตัวเป็นผู้อุทิศตนด้านมนุษยธรรม ให้การช่วยเหลือแก่ผู้ที่มีความต้องการ ไต้หวันยังต้องกลายเป็นผู้ผลักดันการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและเป็นผู้สร้างสรรเทคโนโลยีใหม่ตลอดจนโอกาสทางการค้า เหล่านี้ล้วนถือเป็นกำลังของไต้หวันที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลก

ไต้ฝุ่นเมกีขึ้นบกที่ฟิลิปินส์ กรมอุตุฯไต้หวันเตือนเขตอี๋หลาน-ฮัวเหลียนระวังฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันระบุว่า พายุไต้ฝุ่นเมกี( ปลา-ตั้งชื่อโดยประเทศเกาหลี) ได้เพิ่มความรุนแรงเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น และจะพัดขึ้นบกบริเวณเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ในช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 18 ต.ค. นี้ แม้ไต้ฝุ่นเมกีจะไม่ได้พัดเข้าสู่ไต้หวัน แต่รัศมีรอบนอกของไต้ฝุ่นเสริมด้วยลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ส่งผลกรทบต่อไต้หวันตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 18 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่า วันที่ 18 ต.ค. เขตอี๋หลานและ ฮัวเหลียนมีโอกาสเกิดฝนตกหนักมาก ส่วนเขตไถตง เกาะเหิงชุน ชายทะเลเมืองจีหลง บริเวณภูเขาเขตไทเปและบริเวณภูเขาเขตผิงตงมีโอกาสเกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง ฟ้าผ่าและระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น บริเวณภูเขาต้องระวังดินโคลนถล่ม และบริเวณที่ลุ่มควรป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน

กรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า อิทธิพลของรัศมีไต้ฝุ่นและลมมรสุมตะวันออกจะส่งผลกระทบต่อไต้หวันต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 22 ต.ค. ช่วงเวลานี้บริเวณทะเลรอบไต้หวันมีคลื่นลมแรง ภาคตะวันออกและเกาะเหิงชุนทะลมีคลื่นสูง จึงขอเตือนให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือมากยิ่งขึ้น

ไต้หวันเศรษฐกิจฟื้นตัวส่งผลเกิดกระแสเปลี่ยนงานของมนุษย์เงินเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์

หลังวิกฤตการเงินโลกเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปีนี้เศรษฐกิจไต้หวันฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้เกิดกระแสการเปลี่ยนงานของมนุษย์เงินเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากผลสำรวจล่าสุดของสำนักงานสถิติและบัญชีกลาง สภาบริหารไต้หวันพบว่า จำนวนผู้ที่ว่างงานเนื่องจากไม่พอใจต่องานเดิม เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 8 เดือน สร้างสถิตินานที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยในเดือนสิงหาคมมีจำนวนผู้ที่เปลี่ยนงานรวม 153,000 สูงสุดในประวัติศาสตร์

เจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติและบัญชีกลางระบุว่า ผู้ที่ว่างงานเนื่องจากไม่พอใจต่องานเดิม หมายถึงผู้ที่เปลี่ยนงาน ทั้งที่ลาออกจากงานเดิมโดยยังหางานใหม่ไม่ได้ หรือลาออกจากงานเดิมแต่ยังไม่ได้ไปรายงานตัวเริ่มทำงานใหม่ ขอเพียงแต่เป็นผู้ที่ไม่มีรายได้ในช่วงการสำรวจของสำนักงานสถิติและบัญชีกลาง ล้วนนับรวมเป็นผู้ที่ว่างงานเนื่องจากไม่พอใจต่องานเดิมทั้งหมด

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ที่ผ่านมาการเปลี่ยนงานจะมีจำนวนมากที่สุดหลังรับเงินโบนัสผ่านพ้นเทศกาลตรุษจีน โดยทั่วไปแล้วหลังกลางปีจำนวนผู้เปลี่ยนงานจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด และยิ่งน้อยลงเมื่อใกล้ปลายปี แต่ในปีนี้กลับมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นติดต่อกัน 8 เดือน นับว่ามีความ

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เงิน เอ็น.ที. แข็งขึ้น 0.98 % สูงสุดในเอเชีย

เงินเหรียญสหรัฐฯ อ่อนตัว เงินร้อนไหลเข้าเอเชียต่อเนื่อง ทำให้เงินในเอเชียแข็งค่าขึ้น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินเอ็น.ที.ของไต้หวัน แข็งค่าถึงระดับ 30.540 เอ็น.ที. ต่อ เหรียญสหรัฐฯ ขณะที่วันศุกร์ที่ 15 อยู่ในระดับ 33.793 แข็งค่าขึ้น 0.98% สูงสุดในเอเชีย

ในปีนี้ เงินในเอเชียแข็งค่าถ้วนหน้า เงินเยนแข็งขึ้นสูงสุด 14.51% รองลงมาคือเงินบาทของไทย 11.90% มาเลเซีย 11.12% ฟิลิปปินส์ 6.84% อินเดีย 5.58% อินโดนิเซีย 5.4% เกาหลีใต้ 4.72% เงินไต้หวัน 4.02% เงินเหรินหมินปี้ของจีน 2.78%

สตรีหมายเลข 1 ไต้หวันเสร็จสิ้นการนำคณะนาฏศิลป์หมิงหัวหยวนไต้หวันตระเวณแสดงในยุโรป เดินทางกลับถึงไต้หวันแล้ว

นางโจว เหม่ยชิง ภรรยาผู้นำไต้หวัน เสร็จสิ้นการนำคณะนาฏศิลป์หมิงหัวหยวนตระเวณแสดงในยุโรปในฐานะหัวหน้าคณะกิตติมศักดิ์เดินทางกลับจากเยอรมันถึงไต้หวันแล้วในตอนเช้าวันที่ 16 ต.ค. 53

คณะนาฏศิลป์ร่วมสมัยหมิงหัวหยวนไต้หวัน เดินทางไปตระเวณแสดงในยุโรปตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ตระเวณแสดงใน 7 เมือง 6 ประเทศ โดยมีสตรีหมายเลข 1 เป็นหัวหน้าคณะกิตติมศักดิ์ นอกจากจะชมการแสดงของคณะนาฏศิลป์แล้ว ยังได้ชมแหล่งวัฒนธรรม และร่วมกิจกรรมศิลปะวัฒนธรรมหลายรายการ

นางโจว เหม่ยชิง สตรีหมายเลข 1 ไต้หวัน เดินทางกลับถึงไต้หวันเมื่อเวลา 6.30 น. ของวันนี้ เมื่อลงจากเครื่องบินมีหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มทักทายกับสื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าวที่สนามบินเเหมือนเดิมเท่านั้น

ฉลองวันชาติดับเบิ้ลเท็น เปิดศักราชใหม่ให้แก่สันติภาพระหว่างช่องแคบไต้หวัน

การปฏิวัติซินไฮ่ประสบความสำเร็จเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2454 ทำให้ประเทศสาธารณรัฐจีนกลายเป็นประเทศสาธารณรัฐประเทศแรกในเอเชีย ซึ่งเวลาได้ล่วงเลยไปจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 99 ปีแล้ว และหากนับตั้งแต่ปี 2492 ที่สาธารณรัฐจีนอพยพมายังไต้หวันแล้ว เวลาก็ล่วงเลยมานานถึง61 ปีเต็มๆ ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ช่องแคบไต้หวันพัฒนาตัวเอง ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนไม่เพียงแต่สร้างปาฏิหารย์ทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสร้างปาฏิหารย์ทางด้านประชาธิปไตยให้แก่สังคมชาวจีนด้วย หลังการปฏิวัติวัฒนธรรมแล้ว จีนแผ่นดินใหญ่ได้ดำเนินนโยบายเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ และประสบความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นที่ตื่นตาตื่นใจของชาวโลก ช่องแคบไต้หวันได้แปรเปลี่ยนจากการเผชิญหน้ากันด้วยสงครามในอดีตเป็นการเจรจาอย่างประนีประนอมระหว่างกันในวันนี้

ไต้หวันเรียกร้อง Google ใช้คำว่า “หมู่เกาะเตี้ยวหยีไถ” บนแผนที่อิเลคทรอนิคส์

สืบเนื่องจากแผนที่อิเลคทรอนิคส์ของ Google Map มิได้ใช้ชื่อเรียก “หมู่เกาะเตี้ยวหยีไถ” ซึ่งเป็นชื่อที่สาธารณรัฐจีนใช้เรียกอย่างเป็นทางการ แต่ใช้ชื่อ “หมู่เกาะเตี้ยวหยี” ที่จีนแผ่นดินใหญ่ใช้เรียก นั้น นายจาง จี้ผิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน สาธารณรัฐจีนได้กล่าวอย่างหนักแน่นในวันนี้ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานไต้หวันในซานฟรานซิสโกเรียกร้องให้ Google Map ระบุชื่อ “หมู่เกาะเตี้ยวหยีไถ” ในแผนที่ของตนแล้ว

Google Map ซึ่งเป็นแผนที่อิเลคทรอนิคส์ชื่อดังของโลก ได้ระบุชื่อหมู่เกาะดังกล่าวทั้งที่ญี่ปุ่นใช้เรียกคือ “เซนซากุ” และชื่อที่จีนแผ่นดินใหญ่ใช้เรียกคือ “หมู่เกาะเตี้ยวหยี” แต่ไม่ได้ระบุชื่อที่ไต้หวันใช้เรียกว่า “หมู่เกาะเตี้ยวหยีไถ” นายจางฯ ระบุว่า “เมื่อกระทรวงการต่างประเทศทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ได้สั่งการให้สำนักงานไต้หวันในซานฟรานซิสโก แสดงความไม่พอใจในเรื่องดังกล่าวโดยทันที และเรียกร้องให้ Google Map ระบุชื่อที่ไต้หวันใช้เรียกไว้ในแผนที่อิเลคทรอนิคส์ดังกล่าวด้วย”

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ Google Map ยังมิได้ทำตามคำร้องขอของทางการไต้หวัน ส่วนการระบุชื่อที่ญี่ปุ่นและจีนแผ่นดินใหญ่ใช้นั้น ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ลบชื่อเรียกของอีกฝ่ายออก แต่ Google Map ปฏิเสธ

รองผู้นำไต้หวันย้ำ ประชาธิปไตยไต้หวันเป็นแบบอย่างสำหรับชาวจีนทั่วโลก

รองประธานาธิบดีเซียว ว่านฉาง ได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถา ณ มหาวิทยาลัยสมุทรศาสตร์จีหลง ไต้หวัน เมื่อวานนี้ มีนักศึกษาจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนได้ถามรองผู้นำไต้หวันว่า ในช่วงประวัติศาสตร์ร้อยปีที่ผ่านมา ไต้หวันมีอะไรที่จะเป็น “กระจกเงา” ให้แก่จีนแผ่นดินใหญ่ รองผู้นำไต้หวันย้ำว่า การปฏิรูปสู่ประชาธิปไตยอย่างสันติของไต้หวัน เป็นประสบการณ์อย่างดีสำหชาวจีนทั่วโลก

รองผู้นำไต้หวันได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “สร้างประเทศร้อยปี” ณ มหาวิทยาลัยสมุทรศาสตร์จีหลง ไต้หวัน ระบุว่า โอกาสครบรอบร้อยปีสร้างประเทศ ร้อยปีมีเพียงครั้งเดียว มีความหมายทางประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง จะอาศัยการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองสร้างความยอมรับในประเทศชาติให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน

รองผู้นำไต้หวันได้กล่าวตอบคำถามของนักศึกษาจีนแผ่นดินใหญ่รายหนึ่งว่า ในยุคต้นๆ ไต้หวันเป็นประเทศอาณานิคม เผด็จการ และค่อยๆ ก้าวสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ กระจายการศึกษา และต่อมาประชาชนก็เริ่มต้องการที่จะเป็นเจ้าของประเทศ จนกลายเป็นประชาธิปไตยในที่สุด

รองประธานาธิบดีเซียว ว่านฉาง ระบุอีกว่า คุณค่าเหล่านี้ได้ก่อตัวขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว เวลาผ่านไปหลายสิบปี การเมืองและเศรษฐกิจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น บางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ผลของประชาธิปไตยนี้ มีลักษณะพิเศษของไต้หวันในวัฒนธรรมจีน เป็นประสบการณ์ที่สังคมชาวจีนในจีนแผ่นดินใหญ่และทั่วโลกสามารถยึดเป็นแบบอย่างได้

ซีแอลเอเร่งสปีดให้บริการจ้างตรงทางอินเตอร์เนท

นางหวาง หยูเสวียน ประธานคณะกรรมการกิจการการแรงงานหรือซีแอลเอไต้หวันระบุในวันนี้ว่า ที่ผ่านมาระบบการจ้างตรงแรงงานต่างชาติมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมาก ทำให้ไม่น่าสนใจ ขณะนี้ซีแอลเอกำลังพิจารณาปรับปรุงให้มีขั้นตอนที่กระทัดรัด ซึ่งได้มีการปรึกษาหารือกับฝ่ายฟิลิปปินส์ หวังว่าจะสามารถลดขั้นตอนให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

เพื่อลดการขูดรีดแรงงานต่างชาติ ระบบการจ้างตรงเป็นรูปแบบที่ดีมากอย่างหนึ่ง แม้ซีแอลเอจะเริ่มใช้ระบบดังกล่าวมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน แต่ขั้นตอนต่างๆ ยุ่งยากซับซ้อน จึงไม่มีจุดเด่นที่สามารถดึงดูดนายจ้างให้มาใช้ระบบดังกล่าวได้
นายไช่ ม่งเหลียง ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการการว่าจ้างแรงงานต่างชาติ ซีแอลเอไต้หวันระบุว่า ขณะนี้กำลังเจรจากับประเทศผู้ส่งแรงงานมาทำงานในไต้หวันเพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลบุคคลากร เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็จะสามารถเลือกคนงานผ่านระบบอินเตอร์เนท มาทำงานในไต้หวันได้ ไม่จำเป็นต้องผ่านบริษัทจัดหางาน ซึ่งจะช่วยแรงงานต่างชาติประหยัดค่านายหน้าได้ประมาณ 80,000-100,000 ดอลลาร์ไต้หวัน นายจ้างเองก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณปีละ 20,000 ดอลลาร์ไต้หวัน

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กรมการท่องเที่ยวแจกคูปองเที่ยวไนท์มาร์เก็ตดึงดูดนักท่องเที่ยวแบคแพคเกอร์ท่องไต้หวัน

กรมการท่องเที่ยวไต้หวันเตรียมแจกคูปองท่องไนท์มาร์เก็ตมูลค่า 10 ล้านเหรียญไต้หวัน แก่นักท่องเที่ยวจากยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อดึงดูดเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไต้หวันทุกคนจะได้รับคูปองมูลค่า 100 เหรียญไต้หวัน ซึ่งสามารถใช้ลิ้มรสอาหารจากร้านค้ากว่า 1,000 แห่งในไนท์มาร์เก็ตใหญ่ 9 แห่งทั่วไต้หวัน นับเป็นกลยุทธ์เสริมการท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดประเทศแรกของโลก

ไล่เซ่อเจิน(賴瑟珍) อธิบดีกรมการท่องเที่ยวระบุว่า เพื่อดึงดูกนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาไต้หวัน พร้อมทั้งลิ้มลองอาหารเลิศรสในไนท์มาร์เก็ตของไต้หวัน กรมการท่องเที่ยวเกิดความคิดใช้รูปแบบของคูปองเพื่อการบริโภค ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองหรือแบคแพคเกอร์ ที่เดินทางมาไต้หวันระหว่างวันที่ 25 พ.ย. ศกนี้ จนถึงปลายเดือน ก.พ. ศกหน้า จะได้รับคูปองเพื่อการบริโภคมูลค่า 50 เหรียญไต้หวันจำนวน 2 ใบ และคาดว่าจะทำการแจกจ่ายราว 100,000 ราย

กรมการท่องเที่ยวประเมินว่า แม้มูลค่ารวมของคูปองเพื่อการบริโภคราว 10 ล้านเหรียญไต้หวัน แต่ขอเพียงสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชมไนท์มาร์เก็ตได้ ก็จะมีการใช้จ่ายเพื่อการลิ้มลองอาหาร ซื้อสินค้าของฝาก เล่นเกมส์ต่างๆเป็นต้นอย่างแน่นอน คาดว่าระยะเวลาสั้นๆเพียง 3 เดือนเศษ จะสามารถสร้างมูลค่าการค้าแก่ไนท์มาร์เก็ตได้หลายร้อยล้านเหรียญไต้หวัน หากรวมกับที่พักอาศัย บัตรโดยสารเครื่องบินและการจับจ่ายเพื่อการบริโภคด้านอื่นๆด้วยแล้ว คิดจากจำนวนนักท่องเที่ยว 100,000 ราย อย่างน้อยสามารถสร้างมูลค่าการค้ารวมได้ถึง 2,000 ล้านเหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ในโอกาสย่างเข้าสู่การสถาปนาสาธารณรัฐจีน 100 ปี ยังสามารถประชาสัมพันธ์ผลักดันอาหารเลิศรสของไนท์มาร์เก็ตไต้หวันให้เป็นที่รู้จักบนเวทีโลกได้ด้วย

ทั้งนี้กรมการท่องเที่ยวไต้หวันจะทำการแจกจ่ายคูปองท่องไนท์มาร์เก็ต แก่นักท่องเที่ยวแบคแพคเกอร์จากยุโรป สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินเดินทางมาไต้หวัน ผ่านทางบริษัทสายการบินและบริษัทท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. ศกนี้เป็นต้นไป

รมว.มหาดไทยไต้หวันระบุ เลิกลงโทษผู้ขายบริการทางเพศ สามารถดำเนินกิจการส่วนตัวได้

หลังที่ประชุมประธานศาลฏีกาพิจารณาตีความกฎหมายการลงโทษผู้ขายบริการทางเพศแต่ไม่ลงโทษผู้ซื้อบริการทางเพศขัดต่อรัฐธรรมนูญ กระทรวงมหาดไทยไต้หวันได้จัดการสัมมนาและประชาพิจารณ์ขึ้นหลายครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาการยกเลิกลงโทษผู้ทำงานขายบริการทางเพศ
วันที่ 14 ต.ค.เจียงอี๋ฮว้า (江宜樺) รมว.กระทรวงมหาดไทยกล่าวขณะตอบกระทู้คณะกรรมาธิการมหาดไทย สภานิติบัญญัติระบุว่า นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องยกเลิกการลงโทษขายบริการทางเพศเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะให้การส่งเสริมพัฒนาอาชีพขายบริการทางเพศ ดังนั้นการดำเนินกิจการไม่สมควรสนับสนุนให้ทำแบบบริษัทใหญ่ แต่สามารถดำเนินกิจการลักษณะส่วนตัวหรือราว 3-5 คน มีลักษณะเป็นห้องทำงานขนาดเล็กได้ วิธีการเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมที่จำเป็นต้องทำงานด้านนี้ไม่ให้ถูกขูดรีด และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์

เจียงอี๋ฮว้าระบุว่า นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นว่า ไม่ควรจัดรวมกิจการไว้ในบริเวณพื้นที่เฉพาะ เพราะหากในตัวเมืองมีพื้นที่จัดไว้ขายบริการทางเพศ จะทำให้ท้องที่นั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนการจัดการควบคุมผู้ขายบริการทางเพศนั้น รัฐบาลส่วนกลางจะเป็นผู้จัดทำหลักการควบคุมโดยรวม แต่เทศบาลเขตสามารถตัดสินใจต่อพื้นที่อนุญาตให้ขายบริการทางเพศได้เอง กระทรวงมหาดไทยระบุว่า การขายบริการทางเพศในความเป็นจริงมีอยู่ทั่วไปในสังคมทั้งที่หลบซ่อนและเปิดเผย การดำเนินการทุกอย่างก็เพื่อปรับปรุงสภาพการณ์ปัจจุบันให้มีความถูกต้องยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีไต้หวันระบุ ต้องไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ ในการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน

นายอู๋ตุนอี้ นายกรัฐมนตรีไต้หวันเปิดเผยว่า ยังไม่ถึงเวลาที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันจะเปิดเจรจาทางการทหารหรือการเมืองต่อกัน โดยหากสองฝั่งช่องแคบไต้หวันต้องการที่จะสะสมความเชื่อมั่นระหว่างกันให้มากกว่านี้ จะต้องไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ
นายจงเส้าเหอ (鍾紹和) สส.พรรคก๊กมินตั๋งเสนอในสภาว่า ไต้หวันสามารถแสดงให้จีนแผ่นดินใหญ่เห็นถึงเจตนารมณ์ที่ดีได้ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบกองกำลังทหารบนหมู่เกาะรอบนอกที่จินเหมินและมัตสุ เป็นการกระตุ้นให้จีนแผ่นดินใหญ่เร่งกำหนดเวลาถอนขีปนาวุธที่เล็งมายังไต้หวันเร็วขึ้น และเป็นการสร้างรากฐานความเชื่อมั่นทางทหารระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันให้เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นการประกาศให้นานาชาติได้รับรู้ว่าไต้หวันมีความต้องการที่จะแสวงหาสันติภาพระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
ต่อกรณีดังกล่าว นายอู๋ตุนอี้ นายกรัฐมนตรีไต้หวันเปิดเผยว่า สองฝั่งช่องแคบไต้หวันมีความร่วมมือกันอย่างดีทั้งในด้านกระบวนการตุลาการและ

ไล่ห้าวหมิ่น ประธานสภาตุลาการไต้หวันคนใหม่เสนอแนวคิด 4C ปฏิรูประบบตุลาการ


วันที่ 13 ต.ค. ที่สภาตุลาการได้มีการจัดพิธีมอบตำแหน่งประธานและรองประธานสภาตุลาการไต้หวันอย่างเป็นทางการ โดยมีนายเซียววั่นฉางรองประธานาธิบดีไต้หวันเป็นประธาน ซึ่งนายไล่ห้าวหมิ่นประธานสภาตุลาการคนใหม่ได้เสนอแนวคิด 4C ในการปฏิรูประบบตุลาการ โดยหวังว่าจะสามารถเรียกความมั่นใจที่มีต่อตุลาการของประชาชนกลับคืนมาอีกครั้ง

นายไล่ห้าวหมิ่นเปิดเผยว่า คดีความที่มีผู้พิพากษาพัวพันก่อนหน้านี้ ทำให้ระบบตุลาการต้องเผชิญกับวิกฤตความเชื่อมั่นอย่างร้ายแรง การปฏิรูประบบตุลาการจึงเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในขณะนี้ ที่จะดึงความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับคืนมา ซึ่งนายไล่ได้เสนอแนวคิด 4Cขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางและวิธีปฏิบัติ พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานทั้งหมด ทุ่มเทเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ
นายไล่ห้าวหมิ่น กล่าวว่า อย่างแรกคือ เราต้องมีระบบตุลาการที่สะอาด หรือ Clean สอง เราต้องการระบบตุลการที่โปร่งใส หรือ Crystal ซึ่งผมเคยเสนอไว้ว่าควรหรือไม่ที่จะต้องมีระบบคณะลูกขุน ส่วน C ตัวที่สาม หากเราใช้ภาษาอังกฤษอธิบายก็คือคำว่าConsiderate เคารพและให้ความสะดวกกับประชาชน และสี่คือ เราต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบตุลาการ หากใช้ภาษาอังกฤษมาเปรียบเทียบ อาจใช้คำว่า Competitive

ประธานสภาตุลาการย้ำว่า จะรับฟังเสียงที่แท้จริงของประชาชน อาศัยการพูดคุยในการขจัดความเข้าใจผิด สภาตุลาการพร้อมที่จะเปิดประตู รับประชาชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบตุลาการ เพื่อให้ประชาชนรู้จักและยอมรับในระบบตุลาการ

ไต้หวันเตรียมประชุมเรื่องซูเปอร์บัคกับอินเดีย

ต่อกรณีที่ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อแบคทีเรียซูเปอร์บัค NDM-1(New Delhi-Metallo-1) ในไต้หวันรายแรก ซึ่งเป็นช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ที่เดินทางไปถ่ายทำรายการที่อินเดีย และถูกกลุ่มคนร้ายกราดยิงใส่ โดยสันนิษฐานว่าเกิดติดเชื้อขณะผ่าตัดเอากระสุนออกที่โรงพยาบาลในอินเดีย ขณะที่ทางกระทรวงสาธารณสุขอินเดียได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่า ช่างภาพไต้หวันรายนี้ไม่ได้ติดเชื้อมาจากอินเดีย และเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว ทบวงสาธารณสุขไต้หวันเตรียมประชุมเรื่องซูเปอร์บัคกับทางโรงพยาบาลในอินเดีย

นายซือเหวินอี้ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ทบวงสาธารณสุขไต้หวัน กล่าวว่า เชื้อแบคทีเรียซูเปอร์บัคนี้มาจากไหนกันแน่ ทุกคนยังคงมีข้อมูลบางส่วนที่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เลยทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างคนต่างพูดกันไปเช่นนี้ หากเรานำข้อมูลของโรคติดต่อที่มีการควบคุม ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด และนำประสบการณ์ที่ผ่านมาต่างๆ มาหารือกัน อาจจะทำให้ทราบได้แน่ชัดเร็วขึ้นว่า แท้ที่จริงแล้วเชื้อแบคทีเรียซูเปอร์บัคนี้มาจากไหน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินเดียออกแถลงการณ์ปฏิเสธเรื่องนี้ เป็นเพราะได้รับแรงกดดันจากในประเทศ ขณะที่ สองฝ่ายจะมีการประชุมหารือถึงเคสดังกล่าวร่วมกันโดยผ่านทางโทรศัพท์หรือวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ซึ่งทางกรมควบคุมโรคไต้หวันจะนำผลการตรวจร่างกายของผู้ติดเชื้อรายนี้ให้กับฝ่ายอินเดียประกอบการพิจารณาด้วย

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

กองทัพไต้หวันสั่งซื้อโทรศัพท์ดาวเทียมใช้ในภารกิจกู้ภัย

เพื่อสนองรับแนวคิดของประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว แห่งไต้หวัน สาธารณรัฐจีน เกี่ยวกับการให้ความสำคัญภารกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม แถลงในวันที่ 12 ต.ค. ศกนี้ว่า ภายหลังเหตุอุทกภัยเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ปีที่แล้วกระทรวงกลาโหมได้มีการทบทวนปัญหาทรัพยากรที่จะนำมาใช้ในการกู้ภัย โดยได้มีการจัดซื้อโทรศัพท์ดาวเทียมเพื่อใช้ในการโทรคมนาคมพร้อมทั้งจัดทำระบบบริหารทรัพยากรด้านการทหารเพื่อการกู้ภัยขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พลตรีหวางเต๋อเปิ่น ผู้อำนวยการกองความปลอดภัยด้านข้อมูลข่าวสารแถลงว่า 『ระบบบริหารทรัพยากรด้านการทหารเพื่อการกู้ภัยที่ว่านี้ ก่อนเกิดเหตุอุทกภัย 8 ส.ค.ยังไม่มีการจัดทำระบบนี้มาก่อน หลังเสร็จสิ้นภารกิจกู้ภัยแล้วจึงพบว่ากำลังทหาร และอุปกรณ์ ที่เรานำไปช่วยกู้ภัยนั้นขาดซึ่งระบบการบริหาร เมื่อพบปัญหาแล้วเราจึงรีบแก้ไขทันทีด้วยการจัดฝึกอบรมบุคคลากร และการรวบรวมอุปกรณ์ รวมไปถึงการเตรียมจัดกำลังพลเพื่อออกไปปฎิบัติภารกิจกู้ภัยทุกขณะเมื่อมีความต้องการ』

ทบวงสาธารณสุขไต้หวันสั่งห้ามขายยาลดความอ้วน Meridia

ทบวงสาธารณสุข ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนประกาศในวันที่ 11 ต.ค. ศกนี้ ห้ามร้านขายยาทุกแห่งทั่วไต้หวันขายยาลดความอ้วนยี่ห้อ Meridia หากฝ่าฝืนจะถูกปรับสูงสุด 100,000 เหรียญเอ็นที และหลังจากนี้ไปเป็นเวลาหนึ่งเดือนหรือเริ่มจากวันที่ 11 พ.ย. เป็นต้นไปจะถือว่ายาลดความอ้วนยี่ห้อ Meridia เป็นยาต้องห้าม ผู้ที่ลักลอบผลิตหรือนำเข้า ถือว่ามีความผิดตามกฏหมายมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และปรับไม่เกิน 10ล้านเหรียญเอ็นที ผู้ขายมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 5 ล้านเหรียญเอ็นที สำหรับผู้ที่ซื้อไปแล้วสามารถนำไปคืนที่ร้านขายยาที่ซื้อได้ โดยหากยังไม่ได้แกะกล่องร้านขายยาต้องจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ซื้อครบตามจำนวน หากมีการแกะกล่องใช้ไปบางส่วนให้ร้านขายยาจ่ายคืนตามอัตราส่วน

ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์แล้วมีพยาบาลคนหนึ่งใช้ยาลดความอ้วน Meridia ติอต่อกันเป็นเวลาสองเดือนเกิดเสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน จากการวิเคราะห์ส่วนผสมของยาลดความอ้วนยี่ห้อดังกล่าวพบว่ามีส่วนผสมของยา Sibutramine (ชื่อการค้า Reductil, Meridia) เป็นยาตัวหนึ่งที่ใช้ในการลดความอ้วน โดยตัวยานี้มีกลไกการออกฤทธิ์โดยจะไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทในสมอง ทำให้ความอยากอาหารลดลง (กลไกคล้ายๆกับยากลุ่มที่เป็นยาบ้า แต่ยานี้จะไม่มีฤทธิ์ให้เสพย์ติดเหมือนบาย้า) อาการข้างเคียงของยาที่พบบ่อยคือ ปากแห้ง เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ ท้องผูก และปวดหัว ที่ต้องระวังคือยานี้ สามารถเพิ่มความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจได้ ดังนั้น ควรมีการควบคุมเรื่องความดันโลหิตด้วยทั้งก่อนและหลังได้รับยาแล้ว

10 หมู่บ้านเศรษฐี 8 แห่งอยู่ในกรุงไทเป

ผลการจัดอันดับ 10 หมู่บ้านที่มีรายได้สูงที่สุดในไต้หวันซึ่งจัดทำโดยบริษัท Trend-go.com Inc. ร่วมกับกระทรวงการคลัง ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน พบว่า 10หมู่บ้านที่มีรายได้สูงที่สุด จากจำนวน1600 หมู่บ้านทั่วไต้หวันมี 8 แห่งอยู่ในกรุงไทเป ที่เหลือมีหนึ่งแห่งอยู่ในเมืองซินจู๋และอีกหนึ่งแห่งอยู่ในเมืองไทหนาน โดยหมู่บ้านที่มีรายได้มากที่สุดคือหมู่บ้านจิงจงซึ่งมี 3,000 ครัวเรือน รวมครอบครัวของนายหวางหย่งฉิ่ง อภิมหาเศรษฐีของไต้หวันด้วย แต่ละครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ย 9,899,000 เหรียญเอ็นทีต่อปี สูงกว่ารายได้เฉลี่ยต่อปีของครัวเรือนในไต้หวันคือ 758,000 เหรียญเอ็นที 13.05 เท่า

รองผู้นำไต้หวันระบุ อุตสาหกรรมไอซีทีควรประสานเข้ากับการสร้างสรรค์

วันที่ 11 ต.ค. เซียวว่านฉาง(蕭萬長) รองประธานาธิบดีไต้หวัน สาธารณรัฐจีน กล่าวขณะเป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงสินค้าร่วม 3 งาน ได้แก่งานมหกรรมอิเลคทรอนิกส์สากลไทไป( TAITRONICS ) ครั้งที่ 36 งานการใช้ระบบตรวจสอบด้วยคลื่นวิทยุนานาชาติไต้หวัน(Taiwan RFID ) ครั้งที่ 4 และงานมหกรรมบรอดแบรนด์ไต้หวันครั้งที่ 3 (Broadband Taiwan ) ระบุว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)ของไต้หวัน จะสามารถเอาชนะการแข่งขันรักษาการเป็นผู้นำโลกได้ ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีเท่านั้น แต่ควรผสมผสานเข้ากับความเป็นมนุษย์ ความคิดสร้างสรรค์และเครือข่ายแนวโน้มของสังคม

รองประธานาธิบดีเซียวกล่าวว่า อุตสาหกรรมไอซีทีของไต้หวันถือเป็นยักษ์ใหญ่ของโลก เทคนิค RFIDช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าทางการค้าและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เทคโนโลยีบรอดแบรนด์เป็นกุญแจสำคัญที่รัฐบาลใช้เพื่อสร้างสรรค์ไต้หวันให้กลายเป็นเกาะแห่งอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ในปีนี้รวมการจัดงาน 3 อย่างไว้ด้วยกัน ถือเป็นการประชาสัมพันธ์นวัตกรรมใหม่โดยรวม

อู๋เหวินหย่า(吳文雅) รองประธานสมาคมพัฒนาการค้าต่างประเทศไต้หวันระบุว่า การจัดงานในปีนี้ มีผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่จาก 68 ประเทศทั่วโลกที่มีมูลค่าประกอบการมากกว่า 50 ล้านคอลล่าร์สหรัฐ เช่นญี่ปุ่น สหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโกเป็นต้นมาร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน

สนามบินโซงซานพร้อมรับบินตรงฮาเนดะปลายเดือนต.ค.นี้

สนามบินโซงซาน(松山機場) กรุงไทเป ซึ่งได้ทำการปรับปรุงเป็นสนามบินเส้นทางบินทองในเอเชียตะวันออก ซึ่งวันที่ 30 ต.ค. ศกนี้ จะเริ่มเปิดบินตรงกับสนามบินฮาเนดะกรุงโตเกียว เปิดศักราชการติดต่อกับโตเกียวได้ในวันเดียว สนามบินโซงซานที่เพิ่งครบรอบ 60 ปีไปไม่นาน ได้มีการดำเนินการปรับปรุงสนามบินตามโครงการผลิกโฉมเป็นเส้นทางบินทอง โดยการปรับปรุงสนามบินขั้นตอนแรกจะแล้วเสร็จในปลายเดือนต.ค. ศกนี้ เมื่อเปิดบินตรงสนามบินฮาเนดะ นอกจากจะสามารถใช้เครื่องบินแอร์บัส A330 ที่บรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่า 252 คนแล้ว ผู้โดยสารยังสามารถเดินทางเข้าออกประเทศทางอาคาร 1 ได้ด้วย

หลังการเปิดบินตรงสนามบินหงเฉียวนครเซี่ยงไฮ้ วันที่ 10 ต.ค. ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว(馬英九) แห่งไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ขณะกล่าวสุนทรพจน์วันชาติ ได้ระบุถึงการเปิดบินตรงระหว่างสนามบินโซงซานและสนามบินฮาเนดะในปลายเดือนตุลาคม หมายถึงความสำเร็จครั้งสำคัญต่อการคมนาคมและความสัมพันธ์กับต่างประเทศ สร้างสรรค์ให้สนามบินโซงซานเป็นศูนย์รวมเส้นทางบินทองในเอเชียตะวันออก และนับเป็นผลงานการบริหารประเทศของประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว
อิ่นเฉิงเผิง(尹承蓬)อธิบดีกรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคมไต้หวันระบุว่า วันที่ 30 ต.ค. ศกนี้ เปิดบินตรงสนามบินฮาเนดะวันแรก ในเวลา 06.00 น. จัดพิธีเปิดบินเที่ยวแรกของบริษัทอีว่าแอร์บินสู่สนามบินฮาเนดะ และเวลา 09.00 น. เป็นพิธีต้อนรับเที่ยวบินแรกจากสนามบินฮาเนดะถึงโซงซานของบริษัทไชน่าแอร์ไลน์

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การแสดงพลุดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองวันชาติไต้หวัน 10 ต.ค. 2553

การแสดงพลุดอกไม้ไฟกว่า 51,000 นัด ที่แม่น้ำตั้นสุ่ย เฉลิมฉลอง 10 ต.ค. 2553 วันครบรอบ 99 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐจีน (วันชาติไต้หวัน)



ถ้าเปิดแล้วภาพไม่ติดหรือวิ่งช้า กรุณากดปุ่ม "เพลย์" อีกครั้งนะครับ

(คลิกชมภาพบรรยากาศงานฉลองวันชาติไต้หวันได้ที่นี่)

ของขวัญวันชาติ จวงเจียหรง นักเทนนิสไต้หวันชนะเลิศ ในรายการ China Open 2010

การแข่งขันเทนนิสหญิงคู่รอบชิงชนะเลิศ China Opein 2010 ของ Women's Tennis Association,WTA จวงเจียงหรง นักเทนนิสหญิงไต้หวันจับคู่กับ Olga Govortsova สัญชาติรัสเซีย เอาชนะนักเทนนิสอาเจนติน่าและอิตาลี (Dulko/Pennetta) ขับเคี่ยวกันตั้งแต่ตอนดึกวันที่ 9 จนถึง ตี 1 ครึ่งของวันที่ 10 ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกับ 44 นาที จวงเจียหรงครองแชมป์ในที่สุด นับเป็นของขวัญวันชาติ 10 ตุลาคม ของสาธารณรัฐจีน

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไต้หวันจัดงานฉลองวันชาติครบรอบ 99 ปี อย่างยิ่งใหญ่

วันที่ 10 ต.ค. 2553 เป็นวันครบรอบการสถาปนาสาธาณรัฐจีน ปีที่ 99 ไต้หวันจัดพิธีเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ณ ทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีขบวนพาเหรดและการสวนสนามจากกองทหารสามเหล่าทัพ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ยังมีการจัดขบวนรถบุปผชาติและขบวนการแสดงต่างๆ ร่วมไปกับขบวนพาเหรดตลอดทางด้วย โดยมีชาวจีนโพ้นทะเลจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางกลับมาร่วมงานเฉลิมฉลองวันชาติไต้หวันปีนี้อย่างคับคั่ง

จัดทำความตกลงคุ้มครองการลงทุน แก้ปัญหาของนักลงทุนไต้หวัน

เมื่อเร็วๆ นี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งชาติไต้หวันได้จัดทำ “หนังสือปกขาวสภาอุตสาหกรรมแห่งชาติไต้หวันประจำปี 2553 – ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับบรรยากาศการประกอบธุรกิจและลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่” โดยได้เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนไต้หวัน และระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการจัดทำความตกลงคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนไต้หวันในจีนแผ่นดินใหญ่ และเสนอว่าควรยกฐานะของสำนักงานกิจการไต้หวันในแต่ละท้องที่ให้สูงขึ้น ให้สิทธิอำนาจที่แท้จริงให้มากขึ้น ช่วยเหลือนักลงทุนไต้หวันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ในส่วนของการคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนไต้หวันนั้น แม้จีนแผ่นดินใหญ่จะมีการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองการลงทุนของนักลงทุนไต้หวัน และระเบียบปฏิบัติของกฎหมายฉบับนี้ในปี 2537 และ 2542 ตามลำดับแล้วก็ตาม ซึ่งได้ระบุชัดที่จะให้การคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุนไต้หวัน แต่สาระสำคัญส่วนใหญ่เป็นเพียงการประกาศย้ำในเชิงสัญญลักษณ์เท่านั้น มิได้มีผลบังคับใช้เช่นเดียวกับความตกลงคุ้มครองการลงทุนที่จีนจัดทำกับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมีสาระครอบคุลมถึงการให้คำจำกัดความของคำว่า ลงทุน และผลประโยชน์ ขอบข่ายที่กฎหมายครอบคลุมถึง ผลตอบแทนของการลงทุน การให้เงินชดเชย หากมีการเวนคืน การแปรเป็น

ผู้นำไต้หวันภาวนาให้สังคมสงบสุข ช่องแคบไต้หวันสันติ

ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ผู้นำไต้หวันได้เข้าร่วมพิธีสวดอาหารเช้าแห่งชาติ หรือ National Prayer Breakfast in Taiwan โดยได้ระบุว่า สาธารณรัฐจีนกำลังก้าวสู่ปีที่ 100 แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐจีน หวังว่าสังคมจะสงบสุข เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง และช่องแคบไต้หวันสันติ


ประธานาธิบดีหม่าฯ ระบุว่า “ทุกท่านคงทราบดีแล้วว่า พรุ่งนี้เป็นวันชาติสาธารณรัฐจีน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เราก็จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 ณ ที่นี้ ข้าพเจ้าปราถนาเป็นอย่างยิ่งว่า สังคมของเราจะเต็มไปด้วยความสงบสุข ปรองดอง เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง ช่องแคบไต้หวันเต็มไปด้วยสันติภาพ และหวังว่าทุกท่านจะร่วมกันอธิษฐานให้แก่ประเทศชาติของเราในโอกาสครบรอบ 100 ปี”

ผู้นำไต้หวันแสดงความยินดีหลิว เสี่ยวโป นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนจีนแผ่นดินใหญ่คว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

นายหลัว จื้อเฉียง โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน สาธารณรัฐจีนได้ระบุในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว ผู้นำไต้หวันได้แสดงความยินดีต่อนายหลิว เสี่ยวโป ซึ่งคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ผู้นำไต้หวันเห็นว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ชาวโลก หากสามารถก้าวหน้าทางด้านสิทธิมนุษยชนแล้ว ก็จะสอดคล้องกับเป้าหมาย “การเติบใหญ่แห่งสันติภาพ” มากยิ่งขึ้น และจะได้รับการยอมรับจากชาวไต้หวันและสังคมโลก นอกจากนี้ ประธานาธิบดีหม่าฯ ยังเห็นว่า การคว้ารางวัลของนายหลิว เสี่ยวโป ในครั้งนี้ มิใช่เป็นเกียรติยศส่วนตัวของเขาเท่านั้น แต่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของจีนแผ่นดินใหญ่ กระทั่งต่อสังคมของชาวจีนทั่วโลกด้วย นายหลัว จื้อเฉียงระบุอีกว่า ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ได้ระบุไว้ในสุนทรพจน์รำลึกเหตุการณ์เทียน

วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มหกรรมพืชสวนโลกนานาชาติไทเปเปิดฉากทดลองให้เข้าชม 20 วัน

งานมหกรรมพืชสวนโลกนานาชาติไทเป 2553 มีกำหนดการเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการในอีก 1 เดือนข้างหน้า นครไทเปในฐานะเจ้าภาพเริ่มทดลองเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยเชิญชาวนครไทเปจำนวน 500,000 คน ร่วมเป็น “อาสาสมัครทดสอบ” ความพร้อมของมหกรรม และในวันนี้ เจ้าภาพได้เปิดตัวเพลงประจำงานที่มีชื่อว่า “พลังแห่งความสวยงาม” โดยมอบให้ หลิน จื้อหลิง นางแบบและดารานักแสดงชื่อดังในไต้หวันเป็นผู้เขียนบทเพลงเอง

มหกรรมพืชสวนโลกนานาชาติ 2553 ใช้เวลาในการเตรียมการนานถึง 3 ปี 9 เดือน เหลือเวลาเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการเพียง 31 วันเท่านั้น เจ้าภาพ

สหรัฐฯ หนุนไต้หวันเข้าเป็นสมาชิก ICAO

เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐฯ สนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมขององค์กรระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย ที่เหมาะสม รวมถึง องค์การการบินระหว่างประเทศ (ICAO)ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ประกาศอย่างเปิดเผยสนับสนุนไต้หวันเข้าเป็นสมาชิก ICAO

นาย Mark Toner โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในการแถลงข่าวประจำของกระทรวงการต่าปงระเทศสหรัฐฯ ว่า กล่าวโดยทั่วไปแล้ว ประเด็นองค์กรระหว่างประเทศ สหรัฐฯ เห็นว่า ไต้หวันควรเข้าร่วมอย่างมีความหมาย ส่วนจะเข้าร่วมอย่างไร จะตัดสินใจโดยองค์กรระหว่างประเทศแต่ละองค์กร

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ชี้แจงว่า จุดยืนที่แน่ชัดของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็คือ สหรัฐฯ สนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมขององค์กรระหว่างประเทศอย่างมีความหมายและเหมาะสม ซึ่งรวมถึง ICAO

ขณะนี้ ICAO กำลังเปิดการประชุมใหญ่สมัยที่ 37 ที่แคนาดา พิจารณาประเด็นความปลอดภัยด้านการบิน แม้ไต้หวันจะต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของเขตน่านฟ้าค่อนข้างมาก และมีเที่ยวบินปีละนับล้านเที่ยวบินจากสายการบิน 49 บริษัทบินผ่านก็ตาม แต่เนื่องจากไต้หวันมิใช่เป็นสมาชิกของ ICAO จึงไม่มีสิทธิเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวได้

ไต้หวันคงเตือนการท่องเที่ยวไทย “สีเหลือง” ระมัดระวัง ทบทวนการเดินทาง

กระทรวงการต่างประเทศ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนได้ประกาศเกี่ยวกับกรณีที่เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 รัฐบาลไทยได้ประกาศยกเลิก พรก.ฉุกเฉินในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น และนครราชสีมา และคง พรก.ฉุกเฉินในเขตพื้นที่ 4จังหวัดได้แก่ กรุงเทพ นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี

กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุว่า หลังจากที่การเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยุติลง แม้ยังเกิดเหตุการณ์ประปรายขึ้นตามที่ต่างๆ ในไทยก็ตาม แต่สถานการณ์โดยรวมในกรุงเทพและประเทศไทยมีแนวโน้มมั่นคงมากขึ้น ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ ยกเว้นในเขต 4 จังหวัดภาคใต้ได้แก่ นราธิวาส ยะลา สงขลา และปัตตานี รวมทั้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงมีระดับการเตือนสีส้มเช่นเดิม กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้ประกาศให้พื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทยอยู่ในระดับ “สีเหลือง” และจะติดตามสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อรายงานให้ประชาชนทราบต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ยังระบุเตือนว่า แม้สถานการณ์ในไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่เพื่อความปลอดภัยของชาวไต้หวัน กต.ไต้หวันขอเตือนผู้ที่จะเดินทางไปประเทศไทยให้ระมัดระวังความปลอดภัย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ที่อยู่ในประเทศไทย ก็ควรเพิ่มความระมัดระวัง หากมีเหตุฉุกเฉินกรุณาติดต่อกับสำนักงานผู้แทนไต้หวันประจำประเทศไทย หมายเลขโทรศัพท์ 002-66-81-666-4006

กลุ่มมิตรไต้หวันในยุโรปส่งสารแสดงความยินดีวันชาติไต้หวัน

วันชาติสาธารณรัฐจีน 99 ปี กำลังจะมาถึง กลุ่มมิตรไต้หวันในสภายุโรป ชาร์ล แทนน็อค (Charles Tannock) ชาวอังกฤษและสมาชิกหลายคนส่งจดหมายแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว พร้อมทั้งให้คำมั่น จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แนบแน่นต่อไป

แก๊งค์ต้มตุ๋นชาวไต้หวันถูกจับในไทย 13 คน

ทางการไต้หวันปราบปรามเข้มงวด ทำให้แก๊งค์ต้มตุ๋นย้ายฐานไปจีนและประเทศเอเชียอาคเนย์เพื่อทำการหลอกลวงต่อไป ในวันที่ 6 ตำรวจไทยแถลงทลายแก๊งค์ต้มตุ๋นจับกุมชาวไต้หวัน 13 คน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีชาวไต้หวัน 200 กว่าคนถูกจับกุมในประเทศไทยข้อหาหลอกลวงทรัพย์

ในวันที่ 6 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยเปิดเผยว่าได้ทำการจับกุมแก๊งค์จัดตั้งศูนย์โทรศัพท์หลอกลวง เป็นชาวไต้หวัน 13 คน จีน 1 คน พม่า 5 คน และชาวไทย 1 คน กับชาวจีนที่ไม่มีสัญชาติอีก 3 คน ยึดของกลางเครื่องโทรศัพท์บ้าน โทรมือถือ โน้ตบุคคอมพิวเตอร์ ตำรวจแถลงด้วยว่า ยังมีผู้ต้องหาสำคัญอีก 1 คนหลบหนีไปได้

ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2008 เป็นต้นมา ตำรวจไทยและไต้หวันร่วมมือกัน ทำการทลายแก๊งค์ต้มตุ๋นที่เชียงใหม่ กรุงเทพ ภูเก็ต ในช่วงเวลา 2 ปี มีผู้ต้องหาถูกจับกุมแล้ว 200 กว่าคน
ปัจจุบัน ชาวไต้หวันรับโทษจำคุกอยู่ในประเทศไทย 230 คน ในอดีตผู้ต้องโทษคดียาเสพติดมีจำนวนมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 90% หลังจากแก๊งค์หลอกลวงทรัพย์เข้าไปตั้งฐานในเอเชียอาคเนย์มากขึ้น ทำให้มีผู้ต้องโทษทั้ง 2 ประเภทมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ ช่วยเหลือหญิงไทยอยู่เกินกำหนด 8 พันกว่าวัน ได้รับใบกาม่า

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกิจการชาวต่างชาติ ดำเนินโครงการการให้บริการเคลื่อนที่ ช่วยเหลือหญิงไทยอาศัยอยู่ในไต้หวันเกินกำหนด 8 พันกว่าวันได้รับบัตรชาวต่าง ด้าวราบรื่น

ศูนย์ให้คำปรึกษาชาวต่างชาติเมืองหยุนหลินร่วมมือกับหน่วยรถเคลื่อนที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกิจการชาวต่างชาติ ช่วยเหลือหญิงไทยรายหนึ่งซึ่งแต่งงานกับชาวไต้หวันอาศัยอยู่ที่ตำบลไม่เลียว (麥寮) เดินทางเข้าไต้หวันด้วยวีซ่าประเภทพำนักอาศัย อายุ 60 วัน เดินทางถึงไต้หวันตั้งแต่ เดือนมีนาคม 1988 อยู่อาศัยกับสามีแซ่เยี่ย มีบุตรธิดารวม 4 คน เนื่องจากสามีไม่ทราบวิธีการขอบัตรชาวต่างด้าว ทำให้ภรรยาชาวไทยอยู่อาศัยเกินกำหนดเป็นเวลานานถึง 8,171 วัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ แถลงว่า เนื่องจากสภาพน่าสงสาร ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม จึงยกเว้นโทษปรับ และได้ช่วยเหลือออกใบต่างด้าวให้เรียบร้อยแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

พาเหรดวันชาติไต้หวันปีนี้ นักศึกษาต่างชาติระดมธงชาติร่วมอวยพรวันเกิดไต้หวัน สาธารณรัฐจีน

มูลนิธิสถาปนาสาธารณรัฐจีน 100 ปี ได้จัดขบวนพาเหรด “สุขสันต์วันเกิดก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน พาเหรดโชติช่วงชัชวาลย์100 ปี” ร่วมในพิธีฉลองวันชาติปีนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100,000 คน เดินพาเหรดจากอนุสรณ์สถานอดีตประธานาธิบดีเจียง ไคเช็คไปยังหอรำลึก ดร.ซุนยัดเซ็น บิดาผู้สถาปนาสาธารณรัฐจีน ประกอบไปด้วยขบวนบุปผาชาติ วงดุริยางค์ วงโยธวาทิต และขบวนรถจักรยาน

นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนในไต้หวันจำนวนนับร้อยคน จากเอลกวาดอร์
(คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่)

ซีอีโออินเทลเตรียมลงนาม MOU ด้าน Cloud Computing กับไต้หวันปลายเดือนต.ค.นี้

พอล โอเทลลินี (Paul Otellini) ประธานคณะกรรมการผู้บริหารหรือซีอีโอ ของบริษัทอินเทล เตรียมเดินทางมาไต้หวันวันที่ 28 ต.ค. นี้ เพื่อลงนามบันทึกช่วยจำหรือเอมโอยู ว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนา Cloud Computing กับกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน โดยการลงนามบันทึกช่วยจำครั้งนี้นับเป็นการลงนามเอ็มโอยูครั้งที่ 3 ระหว่างอินเทลกับกระทรวงเศรษฐการไต้หวัน โดยสองครั้งแรกนั้นเป็นการลงนามเกี่ยวกับการพัฒนาและขยาย WiMAX ซึ่งทำขึ้นเมื่อปี 2005 และ ปี 2008

เจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐการเปิดเผยว่า หลังพิธีลงนามบันทึกช่วยจำในวันที่ 28 ต.ค. เสร็จสิ้นลง นายซือเหยียนเสียง รมว.กระทรวงเศรษฐการและนายพอล โอเทลลินี ซีอีโอของอินเทลจะจัดแถลงข่าวร่วมกัน โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรม Cloud Computing ร่วมกันในทุกด้าน

ไต้หวันมีเงินทุนสำรองต่างประเทศรั้งอันดับ 4 ของโลก

ธนาคารกลางแห่งชาติ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน เผยตัวเลขเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไต้หวัน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2553 อยู่ที่ 380,505 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 8,442 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงสุดติดต่อกันในรอบ 23 เดือน โดยนอกจากผลตอบแทนจากการนำเงินทุนสำรองต่างประเทศไปลงทุนแล้ว การที่ค่าเงินยูโรแข็งค่ากว่าเงินดอลล่าร์ และค่าเงินต่างประเทศอื่นๆ ที่มีอยู่หลังเทียบเป็นค่าเงินดอลลาร์มีค่าเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไต้หวันมีเงินตราต่างประเทศมากขึ้น และยังคงเป็นประเทศที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากเป็นอันดับ 4 ของโลก
ส่วนประเทศที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกยังคงเป็นจีนแผ่นดินใหญ่ โดย ณ สิ้นเดือนมิ.ย. มี 2,454,300 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับสองคือ ญี่ปุ่น มี 1,014,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ สิ้นเดือนส.ค. และอันดับสามคือ รัสเซีย 436,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนเกาหลีใต้ที่จัดว่าเป็นคู่แข่งกับไต้หวัน มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากเป็นอันดับ 5 ของโลก โดย ณ สิ้นเดือนก.ย. มีทั้งสิ้น 285,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับสิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งเป็นประเทศในกลุ่มสี่เสือเศรษฐกิจเอเชียเช่นเดียวกับไต้หวันและเกาหลีใต้นั้น เมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม สิงคโปร์มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 208,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนฮ่องกงมี 255,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

เปิดตัวมาสคอตและของที่ระลึกงานมหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2010 เกือบ 400 ชนิด

เหลือเวลาอีก 33 วันจะถึงวันเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2010 ซึ่งมีกำหนดจะเปิดงานในวันที่ 6 พ.ย. ศกนี้ เทศบาลกรุงไทเปซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดงานได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวมาสคอต 5 ตัวและของที่ระลึกงานมหกรรมพืชสวนโลก 10 รายการใหญ่ เกือบ 400 ชนิด คาดจะทำรายได้มากกว่า 50 ล้านเหรียญเอ็นที

นายเฉินสงเหวิน กรรมการผู้จัดการงานมหกรรมพืชสวนโลกไทเป 2010 กล่าวว่า มาสคอตทั้งห้าตัวให้ชื่อว่า เทพธิดาแห่งบุปผชาติ 「花精靈」 ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปอย่างมาก เป็นตัวแทนของดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ ดอกกล้วยไม้ฟาแลน ดอกไฮเดรนเยีย และดอกทานตะวัน ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ปลูกมากไต้หวัน และมีสีแตกต่างกันเป็นตัวแทนของทวีปทั้ง 5 ในโลก

WHO มั่นใจไต้หวันรับมือกับซูเปอร์บัคได้

นาง  Fadela Chaib  โฆษกองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงภายหลังได้รับแจ้งจากทบวงสาธารณสุขไต้หวันเกี่ยวกับการพบผู้ติดเชื้อซูเปอร์บัค NDM-1 รายแรกในไต้หวันว่า องค์การอนามัยโลกมั่นใจว่ามาตรฐานด้านสาธารณสุขของไต้หวันจะสามารถรับมือกับแบคทีเรียซูเปอร์บัค NDM-1ได้และสามารถดูแลรักษาผู้ติดเชื้อให้หายได้ พร้อมกันนี้ยังย้ำว่า นโยบายขององค์การอนามัยโลกคือ ส่งเสริมให้ทุกประเทศเตรียมมาตรการรับมือกับการแพร่กระจายของซูเปอร์บัค NDM-1 และเร่งวิจัยยาต้านซูเปอร์บัคออกมาโดยเร็วที่สุด และแนะนำให้โรงพยาบาลของประเทศต่างๆที่ให้การรักษาผู้ติดเชื้อซูเปอร์บัค NDM-1ต้องมีมาตรการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อดังกล่าว ขณะเดียวกันทุกประเทศต้องใช้ยาปฎิชีวนะอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรีย

พบผู้ติดเชื้อซูเปอร์บัค NDM-1รายแรกในไต้หวัน

ทบวงสาธารณสุข ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน แถลงในวันที่ 4 ต.ค. ศกนี้ว่าพบผู้ติดเชื้อแบคทีเรียซูเปอร์บัค NDM-1(New Delhi-Metallo-1) ในไต้หวันรายแรกแล้วเป็นช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ที่เดินทางไปถ่ายทำรายการที่อินเดียแล้วถูกผู้ก่อการร้ายกราดยิงใส่ จากนั้นเข้าทำการผ่าตัดเอากระสุนออกที่โรงพยาบาลในอินเดีย สันนิษฐานว่าจะติดเชื้อขณะผ่าตัด

นายซือเหวินอี๋ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ทบวงสาธารณสุขแถลงว่า ขณะนี้ผู้ป่วยซึ่งเดินทางกลับมาจากอินเดียเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในไทเป หายดีและกลับไปพักผ่อนที่บ้านแล้ว เนื่องจากตรวจพบเชื้อ NDM-1 ในลำไส้แต่ไม่แสดงอาการใดๆดังนั้นไม่เข้าข่ายโรคติดต่อที่ต้องมีการควบ

งานฉลองวันชาติปีนี้ รัฐบาลไต้หวันจะจัดขบวนแห่รถบุปผชาติรอบกรุงไทเป

วันที่ 10 ต.ค. ของทุกปีเป็นวันชาติของไต้หวันสาธารณรัฐจีน ปีนี้เป็นปีที่ 99 ประกอบกับเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ปีที่แล้วเกิดเหตุอุทกภัยน้ำท่วมทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปหลายร้อยคนรัฐบาลจึงงดจัดงานฉลองวันชาติหนึ่งปี ดังนั้นงานวันชาติปีนี้จึงจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา

ทำเนียบประธานาธิบดีแถลงว่า งานฉลองวันชาติปีนี้จะเริ่มจากช่วงเช้าไปจนถึงกลางคืน โดยช่วงเช้าเป็นพิธีรำลึกการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐจีนอย่างเป็นการจัดขึ้นที่ลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดี ช่วงบ่ายจะเป็นการแห่ขบวนรถบุปผชาติรอบกรุงไทเป โดยเริ่มแห่จากอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็คไปตามถนนเหรินอ้ายถึงปลายทางที่ พิพิธภัณต์ดร. ซุนยัดเซ็น ช่วงกลางคืนนอกจากจะมีการจุดดอกไม้ไฟจำนวน 51,000 ดอกที่ริมแม่น้ำต้านสุย ในกรุงไทเปในเวลา19.00 น.แล้วยังจะมีการจัดงานราตรีฉลองวันชาติที่เกาะเผิงหู ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดนอกเกาะไต้หวัน

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันสายตาโลก นักธุรกิจไต้หวันจัดกิจกรรมขี่จักรยานรับบริจาครอบเกาะ

เพื่อสนองรับวันสายตาโลก(World Sight Day) ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดีที่สองของเดือนตุลาคมของทุกปี มูลนิธิ Orbis Taiwan ร่วมกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์(Standard Chartered Bank) จัดกิจกรรมขี่จักรยานรับบริจาคทั่วเกาะขึ้น เพื่อร่วมสมทบกองทุนป้องกันและช่วยเหลือการพิการทางสายตาจากทั่วโลก โดยทีมจักรยานซึ่งใช้ชื่อว่า「ทีมจักรยานสีฟ้า」ได้เริ่มออกเดินทางแล้วในวันที่ 4 ต.ค. นี้

เกาซู่เหนียน(高恕年)ผู้จัดการใหญ่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ระบุว่า ทีมจักรยานได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยการรวมตัวของพนักงานของธนาคารที่ชื่นชอบการขี่จักรยาน ปีนี้เป็นปีที่ 2 ของการจัดกิจกรรมขี่จักรยานรับบริจาคทั่วเกาะ โดยในปีที่แล้วมียอดรับบริจาครวม 1.3 ล้านเหรียญไต้หวัน และในปีนี้ได้มีการขยายการรับบริจาค เพิ่มเป็น 7 ทีม รวมพนักงาน 112 คน ร่วมกันรับบริจาคทุกภาคทั่วไต้หวัน โดยหวังจะสามารถเชิญชวนผู้คนเข้าร่วมกิจกรรมช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาได้มากยิ่งขึ้น

หลินเจี้ยนเหลียง(林建良)หัวหน้าทีมจักรยานกล่าวว่า “ปกติก็มีการขี่จักรยานอยู่แล้ว จากนั้นคิดว่าน่าจะรวมการขี่จักรยานกับงานกุศลเข้าด้วยกัน ตามคำกล่าวในภาพยนตร์เรื่อง 「ISLAND ETUDE」ที่ว่ามีบางสิ่งหากไม่ทำตอนนี้ ก็คงไม่ได้ทำตลอดชีวิต ผมคิดว่าการขี่จักรยานรอบเกาะเพื่องานกุศลเช่นนี้ ตลอดชีวิตได้ทำสักครั้งก็มีคุณค่าเพียงพอแล้ว”

มวลอากาศเย็นพัดผ่านไต้หวัน ภาคเหนืออุณหภูมิลดต่ำลงอยู่ที่ระดับ 20 องศาเซลเซียส

วันที่ 4 ต.ค.กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันระบุว่า เนื่องจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้สภาพอากาศโดยทั่วไปมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งภาคเหนือจะรู้สึกได้ว่าอากาศเย็นลงอย่างชัดเจน ในตอนกลางวันอุณหภูมิจะลดลงจากวานนี้ราว 6-7 องศาเซลเซียส ในตอนค่ำจนถึงเช้าวันที่ 5 ต.ค. จะเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือส่งผลรุนแรงที่สุด บริเวณชายฝั่งและที่โล่งอาจมีอุณหภูมิลดต่ำลงอยู่ในระดับ 20 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางและภาคใต้อุณหภูมิช่วงกลางวันในวันนี้และวันพรุ่งนี้จะลดลงราว 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิช่วงเช้าและค่ำจะลงต่ำลง 3-4 องศาเซลเซียส อยู่ที่ราว 22 องศาเซลเซียส โดยในวันพุธที่ 6 ต.ค.ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มอ่อนกำลังลง และอุณหภูมิทุกภาคจะเริ่มสูงขึ้น

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รู้จักไต้หวันให้มากขึ้น จากเพลง 台灣心跳聲(Heartbeat Of Taiwan)



台灣心跳聲(Heartbeat Of Taiwan) หรือเสียงเต้นของหัวใจไต้หวันเป็น Theme Song ของ Taiwan Pavillion ในงานเวิลด์ เอ็กซ์โป เซี่ยงไฮ้ 2010 ขับร้องโดยโจลินไช่ (蔡依林)โดยเนื้อเพลงได้พูดถึงความเป็นไต้หวันในด้านต่างๆ วันนี้เลยขอนำเอามิวสิควีดีโอพร้อมทั้งเนื้อเพลงมาให้ได้ชมกันนะคะ

เนื้อเพลง : 台灣心跳聲 (Heartbeat Of Taiwan)
คำร้อง      : ฟังเหวินซัน (方文山)(Rap:โข่วเจียลุ่ย (寇家瑞))
ทำนอง  : หลินม่ายเข่อ (林邁可)

那長春藤攀上 生繡的消防栓            像蝴蝶離不開 有花香的地方

寧靜的小巷  一杯永和豆漿               我在細細品嘗 恬淡的家鄉

霓虹燈點亮  關於夜市的想像           孩子們捉迷藏 在找愛吃的糖

昏黃的夕陽  龍山寺的老牆               我虔誠點著香 手拿一柱希望


少一點傷痕  多一點的掌聲               少一點戰爭  多一點的單純

認真用棒球魂 揮汗去體會青春        用心聽著  那台灣的心跳聲

(Rap)
嘉南平原等待收割 是一整遍幸福的顏色

屏東黑鮪魚直接等於快樂 一路蜿蜒的是淡水河

那陡峭的是太魯閣 一派樂天的性格

美濃紙傘怎麼折 三義木雕怎麼刻

這塊土地上有很多很多的選擇

仔細看著八家將的妝獨特

我說親愛親愛的 我們故事說到這


少一點仇恨  多一點的我們                少一點寒冷  多一點的溫存

用狂草寫雲門 用蜂炮築一座城            媽祖永恆  世世代代的虔誠

天燈冉冉上升 可以許下願望就別等

 (คลิกรับฟังแนะนำเพลงได้จากชุดเอเชียสัมพันธ์ รายการอะไรอะไรในไต้หวัน วันที่ 27 ก.ย. 2553 )


ไต้หวันแสดงความเสียใจภรรยาลีกวนยูเสียชีวิต

กระทรวงการต่างประเทศแถลงในวันที่ 3 ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วได้ส่งสารแสดงความเสียใจต่อลีกวนยู รัฐบุรุษอาวุโสของสิงคโปร์ต่อการจากไปของ "มาดามลี"อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งสิงคโปร์

วันที่ 2 ต.ค. "มาดามลี" หรือ นาง "กวา ก๊อก ชู" วัย 89 ปี. ภรรยาของนายลี กวน ยู รัฐบุรุษอาวุโสแห่งสิงคโปร์ และมารดาของนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 89 ปี ที่บ้านพักเมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 ตามเวลาท้องถิ่น

ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์แถลงว่า รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามาร่วมแสดงความไว้อาลัยการจากไปของ"มาดามลี" ณ. ที่พักของนายกรัฐมนตรีในระหว่างวันที่ 4-5 ต.ค.นี้ ตั้งแต่ 10.00 น.- 17.00 น. หลังจากนั้นจะมีการจัดพิธีฝังศพในวันที่ 6 ต.ค. ที่ฌาปนสถาน " มันได"

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ไต้หวันอุดหนุนทำกิฟต์ ตั้งเป้าเพิ่มทารก ปีละ 2 พันคน

รัฐบาลการกระตุ้นอัตราเกิดในไต้หวันแนวใหม่ กรมสุขภาพประชาชนวางแผนอุดหนุนคู่สมรสที่มีบุตรยาก เพื่อแก้ปัญหาอัตราเกิดลดลง การอุดหนุนการรักษาโรคมีบุตรยากกำหนดไว้ 2 วิธี จะทำการอุดหนุนสามีภรรยาคู่ละ 50,000 – 150,000 เหรียญไต้หวันต่อปี คาดว่าใช้งบประมาณรวมปีละ 600 – 2,200 ล้านเหรียญไต้หวัน หากโครงการผ่านการอนุมัติคาดว่าจะทำให้อัตราเด็กเกิดใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 2 พันคน

ตามมาตรการดังกล่าวจะให้การอุดหนุนเฉพาะผู้ที่ผ่านการสมรสตามกฎหมาย และให้การรักษาเพื่อทำเด็กหลอดแก้วหรือการผสมเทียม รวม 2 วิธี ทั้งนี้อัตราการทำเด็กหลอดแก้วมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งประมาณ 120,000 เหรียญไต้หวัน และการผสมเทียมครั้งละ 2-30,000 เหรียญไต้หวัน

ฟิจิยกเว้นวีซ่าให้ไต้หวัน สิ้นปีอียูยกเว้นวีซ่าให้ชาวไต้หวันเป็นของขวัญวันเกิดสาธารณรัฐจีน

กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน สาธารรณรัฐจีนได้ประกาศข่าวดีในวันนี้ระบุว่า รัฐบาลประเทศฟิจิได้ให้ความเห็นชอบอย่างเป็นทางการให้การยกเว้นการตรวจลงตราแก่ชาวไต้หวันแล้ว โดยผู้ที่ถือหนังสือเดินทางสาธาณรรัฐจีนที่มีอายุหนังสือเดินทาง 6 เดือนขึ้นไป พร้อมแสดงบัตรโดยสารไป-กลับ และหลักฐานเหตุผลการเดินทางเข้าฟิจิก็จะได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราประเภทห้ามทำงานและพำนักในฟิจิได้เป็นเวลา 4 เดือน

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้ออกแถลงข่าวแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าวของรัฐบาลฟิจิ และเชื่อว่า การยกเว้นวีซ่าดังกล่าวให้

การกระทบกระทั่งกันระหว่างจีนกับญี่ปุ่นในทะเลจีนตะวันออก

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2553 เรือประมงสัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่ “หมิ่นจิ้นหยีหมายเลข 5179” (「閩晉漁5179號」)เกิดอุบัติเหตุชนกับเรือลาดตระเวนของญี่ปุ่นบริเวณน่านน้ำหมู่เกาะเตี้ยวหยีไถหรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่าหมู่เกาะ “เซนซากุ” ทางการญี่ปุ่นได้ยึดเรือและควบคุมตัวกัปตันเรือชาวจีนแผ่นดินใหญ่ดังกล่าวในข้อหากระทำผิดกฏหมายประมงของญี่ปุ่น ทางการญี่ปุ่นได้แสดงความเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และระบุว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เรือประมงรุกล้ำเข้าสู่เขตน่านน้ำของญี่ปุ่น” กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตจีนประจำญี่ปุ่นเข้าพบเพื่อประท้วงในเรื่องดังกล่าว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศจีนก็ได้แสดงท่าทีโดยทันที และยกระดับการประสานงานในเรื่องนี้กับฝ่ายญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเชิญทูตญี่ปุ่นเข้าพบ และนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าของจีนเป็นผู้ออกมากล่าวแสดงจุดยืนของรัฐบาลจีนโดยทันที เตือนฝ่ายญี่ปุ่นอย่าได้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด ต้องใช้สติปัญญาอันชาญฉลาดของตนมาตัดสินใจทางการเมือง ส่งตัวกัปตันและเรือประมงจีนคืน จุดยืนของปักกิ่งคือการปล่อยตัว และยุติการสกัดกั้นในทะเลอย่างผิดกฏหมาย กระทั่งเช้าวันที่ 25 ก.ย. 2553 ทางการญี่ปุ่นจึงได้ปล่อยตัวกัปตันเรือจีน ทำให้เหตุการณ์นี้เริ่มเห็นจุดยุติของมันแล้ว แต่คงจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

(คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ทุนต่างชาติลงทุนไต้หวันระลอกแรก 3 แสนล้าน

หลังจากที่สภาบริหารไต้หวัน สาธารณรัฐจีนได้จัดตั้ง “สำนักงานชักจูงการลงทุนทั่วโลก” เป็นเวลาร่วม 2 เดือนเต็ม เมื่อวานนี้ คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจไต้หวันได้ประกาศผลงานการชักชวนนักลงทุนต่างชาติลงทุนในไต้หวันระลอกแรกระบุว่า จนถึงวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา มีวิสาหกิจต่างๆ แสดงความประสงค์ที่จะลงทุนในไต้หวันมูลค่าสูงถึง 302,500 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน นางหลิว อี้หยู ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจไต้หวันระบุว่า ไตรมาสแรกของปีหน้า ตนจะนำคณะเดินทางเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ อินเดีย เกาหลีใต้ และประเทศในเอเชียอาคเนย์ เพื่อโรดโชว์ระลอกต่อไป

ขณะเดียวกัน เพื่อสนองความต้องการของนักลงทุน นายกรัฐมนตรีอู๋ ตุนอี้ได้สั่งการให้คณะกรรมการวิทยาศาสตร์แห่งชาติและกระทรวงเศรษฐการไต้หวันสำรวจนิคมสวนวิทยาศาสตร์และนิคมอุตสาหกรรมของกระทรวง

นายกฯไต้หวันสั่งสอบด่วนกรณีนั่งร้านโครงการก่อสร้างทางด่วนหมายเลข 6 ไต้หวันถล่มทับคนงานตาย

โครงการก่อสร้างทางด่วนหมายเลข 6 ทางภาคกลางของเกาะไต้หวันซึ่งเชื่อมกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไต้หวันคือทะเลสาปสุริยันจันทรา เหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือนก็จะแล้วเสร็จ ได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงนั่งร้านสูง 55 เมตร ยาวกว่า 80 ม. ถล่มลงมาขณะกรอกปูนซิเมนต์ผสมเมื่อตอนบ่ายวานนี้ อย่างไม่คาดฝัน ซึ่งมีคนงานทำงานอยู่บนนั่งร้านหลายคนร่วงหล่นลงมาและถูกเหล็กนั่งร้าน ซิเมนต์น้ำหนักรวมกว่า 2000 ตันที่ถล่มลงมาทับร่างและศีรษะ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 คน เป็นคนงานอินโดนีเซียผิดกฎหมาย 6 คน คนงานไต้หวัน 1 คน บาดเจ็บ 3 คน อุบัติเหตุร้ายแรงในครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุดของโครงการก่อสร้างทางด่วนในไต้หวัน

นายกรัฐมนตรีอู๋ ตุนอี้ ได้สั่งการให้สอบสวนหาสาเหตุในเรื่องนี้เป็นการด่วน “เราพยายามมานาน ซึ่งจะต้องพยายามสอบสวนหาสาเหตุของเรื่องนี้ให้ได้ ไม่งั้นเหตุการณ์ที่เป็นโครงการก่อสร้างที่ห้ามว่าจ้างแรงงานต่างชาติก็จะเกิดขึ้นอีก เราต้องระวังว่าทำไมผู้รับเหมาจึงว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายได้ ต้องสอบสวนให้ถึงที่สุด ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จะมอบหมายให้หน่วยงานผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบ เพื่อป้องกันมิให้

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รองผู้นำไต้หวันให้การต้อนรับดร.กระแส ชนะวงษ์

ในวันที่ 30 รองประธานาธิบดีเซียวว่านฉางของไต้หวัน (ขวา)ให้การต้อนรับ ดร.กระแส ชนะวงษ์ (ซ้าย) นักวิชาการไทย ทั้งสองรู้จักกันเป็นเวลายาวนาน โดยรองผู้นำไต้หวันรู้สึกยินดีอย่างยิ่งต่อการพบปะกันอีกครั้ง

เซียวว่านฉางกล่าวว่า ข้อเสนอของ ดร. กระแส ที่ให้จัดตั้งศูนย์อบรมแรงงานไทยที่ จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีแรงงานไทยเดินทางมาไต้หวันมากที่สุด รองประธานาธิบดีกล่าวว่า “โครงการอบรมแรงงาน หวังว่าก่อนที่จะมาไต้หวัน จะมีการอบรมที่นั่น เพื่อให้พวกเขาได้รู้จักไต้หวัน เรียนรู้ภาษา การปรับตัวใช้ชีวิต”
เซียวว่านฉางกล่าวด้วยว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นช่วยปกป้องสิทธิมนุษยชนและเป็นการเพิ่มสวัสดิการให้แก่แรงงานไทย จึงได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการกิจการแรงงาน ศึกษาวิธีการเพื่อดำเนินโครงการต่อไป

ทางต่างระดับที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถล่ม คนงานผิดกฎหมายอินโดนีเซียตาย 6 ชาวไต้หวันตาย 1 บาดเจ็บ 3

วันที่ 30 ก.ย. เกิดอุบัติเหตุทางต่างระดับที่แยกออกจากทางด่วนสายที่ 6 ช่วงต.กั๋วซิ่ง เมืองหนานโถว ภาคกลางของไต้หวัน ซี่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายชาวอินโดนีเซีย 6 คน หัวหน้างานชาวไต้หวัน 1 คน ผู้บาดเจ็บ 3 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวไต้หวัน 2 คน และชาวเวียดนาม 1 คน ประธาน CLA ลั่นหากผู้รับเหมาจ้างงานผิดกฎหมายจะถูกลงโทษสถานหนัก ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาด