วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มองความขัดแย้งในทะเลจีนใต้จากมุมมองไทเป

ในช่วงที่ผ่านมา หมอกควันสงครามได้ปกคลุมไปทั่วทะเลจีนใต้ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีนแผ่นดินใหญ่ หรือแม้กระทั่งไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ต่างมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ในแง่ของไต้หวันแล้ว การย้ำอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหนานซา เป็นสิ่งที่จะต้องทำ แต่หากพิจารณาจากการดำเนินการอย่างเงียบๆ ของไต้หวันแล้ว ชี้ชัดว่า ไต้หวันไม่ประสงค์ที่จะให้น่านน้ำแถบนี้เกิดความวุ่นวายขึ้น

เวียดนามกับฟิลิปปินส์ต่างไม่เคยยอมรับการใช้ชื่อ “ทะเลจีนใต้” หรือ “ทะเลใต้” และยิ่งไม่ต้องไปกล่าวถึงที่จะให้พวกเขายอมละทิ้งอธิปไตยเหนือน่านน้ำเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น เวียดนามได้เปลี่ยนชื่อ “ทะเลจีนใต้” หรือ “ทะเลใต้” เป็น “ทะเลตะวันออก” ส่วนทางการมะนิลาได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ เปลี่ยนชื่อเป็น “ทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก”

(คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่)

ไต้หวันเจ๋ง เทคนิคแสดงผลคว้ารางวัลยอดเยี่ยมระดับโลก

สถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมไต้หวันหรือ ITRI (Industrial Technology Research Institute) ของไต้หวัน ประสบความสำเร็จคว้ารางวัลระดับโลกอีกครั้ง จากผลงานการวิจัยเทคโนโลยี “HyTAC” และ “i2R e-Paper” คว้ารางวัลเทคโนโลยีอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจาก Society for Information Display’s (SID) ในการประกวด R&D 100 Awards ซึ่งจะคัดเลือกผลงานเทคโนโลยียอดเยี่ยมระดับโลกจำนวน 100 รายการ

ผลงาน i2R e-Paper ของ ไอทีอาร์ไอ เป็นการอาศัย “ความร้อน” ในการส่งหรือเก็บข้อมูล ภาพ ไว้บนจอแสดงผลแอลซีดีแบบอ่อน ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถเก็บภาพความละเอียดได้สูงถึง 300dpi หากยังมีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูล เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใหม่ก็เพียงแต่เปลี่ยนแผ่นกระดาษอิเล็กทรอนิคส์เท่านั้น ประหยัดกระดาษ พลังงาน และมีขนาดกระทัดรัดด้วย ไม่จำเป็นต้องลบทิ้งข้อมูลเก่า ทำให้ต้นทุนต่ำ

ส่วน HyTAC เป็นเทคโนโลยีที่นำเอานาโนทั้งชีวภาพและอชีวภาพมาผสมกัน กลายเป็นแผ่นกรองแสงโปร่งใสที่มีความโปร่งแสงสูงและมีพิษต่ำในกระบวนการผลิต สามารถนำมาใช้แทนแผ่นเคลือบ TAC ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ สอดคล้องกับแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน

ทั้งนี้ จะมีการมอบรางวัลผลงานเทคโนโลยียอดเยี่ยม 100 อันดับแรกของโลก ในเดือนตุลาคม ศกนี้ ที่เมืองออลันโด ฟลอลิด้า ในสหรัฐฯ

แหล่งที่มา : Rti
วันที่ : 24 มิ.ย. 2554

ไต้หวันพัฒนาพันธุ์ลิ้นจี่พันธุ์ใหม่ ลูกใหญ่ หอมหวาน “จี๋ลี่” สู่ตลาดแล้ว

ฤดูร้อนในไต้หวันเป็นฤดูลิ้นจี่ ลิ้นจี่พันธุ์ดีๆ ในไต้หวันหลายพันธุ์เช่น พันธุ์นิล พันธุ์ข้าวเหนียว และพันธุ์รสลำใย ทางภาคกลางคือไถจง เข้าสู่ตลาดแล้ว เป็นที่ถูกปากของผู้บริโภค ส่วนลิ้นจี่พันธุ์อื่นๆ ที่เป็นพันธุ์รองลงมา มีผลผลิตมากพอที่จะเก็บเกี่ยวนำไปคั้นเป็นน้ำลิ้นจี่ได้เป็นครั้งแรก ราคาประกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 17 ดอลลาร์ไต้หวัน สูงกว่าหลายปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ กก.ละเพียง 10 ดอลลาร์ไต้หวันเท่านั้น นอกจากนี้ ในปีนี้ ยังมีลิ้นจี่พันธุ์ใหม่ออกสู่ตลาดด้วยคือพันธุ์ “จี๋ลี่” ลูกยักษ์ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก

นายสวี จงสง รองผู้ว่าไถจงเปิดเผยว่า ไถจงเป็นเขตเพาะปลูกลิ้นจี่ที่สำคัญในไต้หวัน มีพื้นที่เพาะปลูกถึง 2,028 เฮกตาร์ ผลผลิตสูงถึง 18,000 ตันต่อปี 70% เป็นพันธุ์นิล ฤดูเก็บเกี่ยวจะเป็นช่วงเดือนมิ.ย. และ ก.ค. ของทุกปี

แหล่งที่มา : Rti
วันที่ : 24 มิ.ย. 2554
Photo : CNA

เดือน กรกฎาคม เป็นต้นไปร้านค้าบางแห่งคืนภาษีนักท่องเที่ยวได้

กระทรวงการคลังแถลงว่า เพื่อเป็นการลดความแออัดในการเข้าแถวขอคืนภาษีของนักท่องเที่ยวที่สนามบิน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวที่มีสิทธิ์ได้รับคืนภาษีไม่เกิน 1000 เหรียญไต้หวัน (ซื้อของต่ำกว่า 21,000 เหรียญไต้หวันโดยประมาณ) สามารถขอรับคืนเงินภาษีจากร้านที่กำหนดได้ในวันที่ซื้อสินค้า

กระทรวงการคลังเน้นว่า การคืนภาษีมูลค่าน้อยให้แก่นักท่องเที่ยว ไม่สามารถใช้กับผู้เดินทางเข้าประเทศโดยวีซ่าพำนักอาศัยชั่วคราว แต่ใช้ได้กับผู้เดินทางที่ผ่านการประทับตราเข้าประเทศ ส่วนชาวจีนแผ่นดิน

ไช่อิงเหวินจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งผู้นำไต้หวัน ซูเจินฉาง และเซี่ยะฉางถิงร่วมสนับสนุนเต็มที่

(จากซ้ายไปขวา) นายซูเจินชาง
น.ส.ไช่อิงเหวิน และนายเซี่ยะฉางถิง
พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า จัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งลงตัวแล้วหลังใช้เวลานาน 1 เดือนกว่า โดยในวันที่ 22 มิ.ย. น.ส.ไช่อิงเหวิน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี)ตัวแทนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันสมัยหน้า ของพรรคดีพีพี จัดแถลงข่าวประกาศแผนสู้ศึกเลือกตั้ง โดยมีนายซูเจินฉาง เป็นประธานคณะกรรมการหาเสียงเลือกตั้ง

น.ส.ไช่อิงเหวิน เปิดเผยว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของพรรคทั้งสามคน ได้แก่ นายซูเจินฉาง จะรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการหาเสียงเลือกตั้ง ส่วนนายเซี่ยะฉางถิงจะรับหน้าที่ผู้อำนวยการกองอำนวยการหาเสียง

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อัตราฆ่าตัวตายในกลุ่มผู้สูงอายุในกรุงไทเปเพิ่มขึ้น 5.6%

จากการประกาศล่าสุดของทบวงสาธารณสุขไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การฆ่าตัวตายเป็นสาเหตุการตายของคนไต้หวันอันดับที่ 11 แต่จากข้อมูลทางสถิติของกองสาธารณสุขกรุงไทเป พบว่า อัตราการฆ่าตัวตายในกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในปี 2010 มีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น 5.6% จากปี 2009

ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตาย กรุงไทเปวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการฆ่าตัวตาย โดยพบว่าผู้สูงอายุ 25% มีความคิดต้องการฆ่าตัวตายเนื่องจากมีอาการเจ็บป่วยเป็นเวลานาน จนส่งผลต่อภาวะจิตใจและร่างกาย ขณะที่ 23% มีสาเหตุจากภาวะซึมเศร้าทำให้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง และอีก 18% มีสาเหตุจากความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ดี

ในภาพรวมแล้วพบว่า ผู้สูงอายุที่มีความคิดต้องการฆ่าตัวตายเกือบ 30% มักจะมีสาเหตุมาจากสองประการขึ้นไป สะท้อนให้เห็นว่าการฆ่าตัวตายของผู้สูงอายุนับเป็นปัญหาหลายด้าน เมื่อผู้สูงอายุมีอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย หรือเผชิญกับความเครียดและแรงกดดันในชีวิตประจำวัน เช่นคนในครอบครัวมีการทะเลาะเบาะแว้ง มักจะส่งผลต่อภาวะจิตใจได้ง่าย ซึ่งหากความทุกข์ใจและไม่สบายใจเหล่านี้ถูกสะสมต่อเนื่องและไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลให้เกิดการทำร้ายตัวเองหรือจบชีวิตตัวเอง

ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตาย กรุงไทเป เตือนประชาชนที่มีผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัว ให้พยายามใช้เวลาอยู่กับผู้สูงอายุเหล่านี้ให้มาก เพื่อช่วยเหลือให้พวกเขาผ่านพ้นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภาวะจิตใจและร่างกายจะส่งผลซึ่งกันและกัน โดยหากพบว่าผู้สูงอายุมีพฤติกรรมหรืออารมณ์ที่เปลี่ยนไปจากปกติ ให้พาไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุ เป็นการหลีกเลี่ยงและป้องกันการเกิดผลเสียหายที่รุนแรงในภายหลัง

แหล่งที่มา : Rti
วันที่ : 21 มิ.ย. 2554

ผู้นำไต้หวันระบุ มหกรรมพืชสวนโลกพิสูจน์ซอฟท์เพาเวอร์ของไต้หวันผงาดบนเวทีโลก

ปธน. หม่าอิงจิ่ว ผู้นำไต้หวัน
ไต้หวันประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ วันที่ 20 มิ.ย. ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว(馬英九) แห่งไต้หวัน สาธารณรัฐจีน กล่าวขณะให้การต้อนรับองค์กรที่ร่วมจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับในงานระบุว่า มหกรรมพืชสวนโลกไม่เพียงสร้างมูลค่าประกอบการสูงถึง 43,000 ล้านเหรียญไต้หวันเท่านั้น ยังแสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จในวงการไม้ดอกไม้ประดับและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของไต้หวันด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการจัดกิจกรรมระดับโลกที่มีระยะเวลานานของไต้หวัน ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วกล่าวว่า “ในประเทศ ยังไม่เคยจัดงานกิจกรรมระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ ติดต่อกันเป็นเวลานานมา

นักท่องเที่ยวสหรัฐซาบซึ้ง โชเฟอร์ไต้หวันเก็บเงินแสนได้แล้วส่งคืน

แจ๊คเกอลีนชาวสหรัฐและเพื่อนชายเดินทางมาท่องเที่ยวไต้หวัน วันที่ 16 มิ.ย. เมื่อเดินทางถึงสนามบินนานาชาติเถาหยวน ได้ลืมกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินเยนจำนวน 320,000 เยนหรือราว 116,000 เหรียญไต้หวัน ไว้ในรถบัสของบริษัทกว่อกวงที่ทั้งสองโดยสารไปยังไทเป เมื่อลงจากรถจึงพบว่าลืมกระเป๋าสตางค์ ทั้งสองคนจึงได้รีบกลับไปยังบริษัทกว่อกวง พบว่ากระเป๋าสตางค์ของตนถูกเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟของบริษัท และเงินเยนในกระเป๋าอยู่ครบจำนวน แจ็คเกอลีนและเพื่อนชายสามารถเก็บเงินคืนได้ ในเวลาเพียงไม่ถึง 1.5 ชม.


ไช่อี้จี๋(蔡益吉) โชเฟอร์รถบัสบริษัทกว่อกวงที่แจ็คเกอลีนและเพื่อนชายโดยสาร เป็นผู้เก็บเงินได้ และส่งคืนให้กับสำนักงานโดยไม่มีการเปิดกระเป๋า เพื่อรอเจ้าของรับคืน แจ็คเกอลีนและเพื่อนชายแสดงความขอบคุณต่อคนขับรถ พร้อมกล่าวว่ารู้สึกซาบซึ้งใจต่อคุณธรรมของชาวไต้หวัน ที่เก็บเงินได้แต่ไม่คิดอยากได้เป็นของตนเอง

แหล่งที่มา : Rti
วันที่ : 20 มิ.ย. 2554

หม่า-อู๋ จับคู่เลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว ผู้นำไต้หวัน
ในวันที่ 19 มิ.ย. ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วประกาศตัวผู้ร่วมสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยหน้าซึ่งก็คือ นรม. อู๋ตุนอี้ ประธานาธิบดีกล่าวว่า อู๋ตุนอี้มีความแม่นยำในการจับทิศทางความต้องการของประชาชนและมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา ในขณะเดียวกันชมเชยรองประธานาธิบดีเซียวว่านฉางเป็นผู้ที่สร้างคุณประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ในอนาคตจะต้องขอคำชี้แนะจากเซียวว่านฉางต่อไป

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วแถลงข่าวที่ศูนย์อำนายการเลือกตั้งในตอนเช้าวันที่ 19 มิ.ย.  ประกาศตัว อู๋ตุนอี้ เป็นผู้ร่วมสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีไต้หวันอย่างเป็นทางการ “ผมจัดงานแถลงข่าวในวันนี้ ต้องการประกาศว่า ผู้ร่วมสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสมัยที่ 13 ของไต้หวัน คือ นรม. อู๋ตุนอี้”

นายหม่าอิงจิ่ว (ซ้าย) และนายอู๋ตุนอี้ (ขวา)
จับคู่เป็นตัวแทนพรรคก๊กมินตั๋ง ลงชิงตำแหน่ง
ปธน.ไต้หวันและรองปธน.ไต้หวัน สมัยที่ 13

ไต้หวันจับมือฝรั่งเศสผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

นายหวง หลง โจว ผู้จัดการทั่วไปศูนย์ทดสอบวิจัยรถยนต์ไต้หวัน เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของไต้หวันอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก การร่วมมือกันระหว่างไต้หวันกับฝรั่งเศสจะทำให้ทั้งการลงทุนและเทคโนโลยีประสบผลสำเร็จที่มากยิ่งขึ้น

นายหวง หลงโจว ได้นำคณะจากสถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเดินทางไปดูงานที่ฝรั่งเศส โดยได้เยี่ยมชมบริษัทรถยนต์เรโนล์ด ซีตรองท์ Schneider Electric และ องค์กรเตรียมงานจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์ฝรั่งเศส

เขาระบุว่า ปัจจุบันจีนแผ่นดินใหญ่กำลังเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่ยังมีเทคโนโลยี การผลิต และการออกแบบ ล้าหลังกว่าของไต้หวัน ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสยังไม่สู้เข้าใจตลาดจีนแผ่นดินใหญ่มากนัก ดังนั้น การร่วมมือกันระหว่างไต้หวันกับฝรั่งเศส จะทำให้ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และเนื่องจากไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ได้จัดทำความตกลง ECFA ระหว่างกันแล้ว ทำให้สามารถเข้าสู่ตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ได้ง่ายขึ้น

แหล่งที่มา : Rti
วันที่ : 18 มิ.ย. 2554

นักเปียโนเยาวชนฝีมือดีไต้หวัน คว้ารางวัลในการแข่งขันระดับนานาชาติ

นายหลิน ก้วนถิง ซึ่งศึกษาด้านเปียนโนที่รัสเซีย คว้ารองแชมป์การแข่งขันเปียนโนมุ่งสู่ปรมาจารย์ดนตรีโลก ครั้งที่ 8 ที่จัดให้มีขึ้นรัสเซีย ด้วยผลงานเพลง Feux follets
หลังการแข่งขัน นายเฉิน จวิ้นเสียน ผู้แทนไต้หวันประจำรัสเซียได้แสดงความยินดีกับนายหลิน และครอบครัว เป็นพิเศษ ชื่นชมความสามารถของนายหลินฯ และความเหน็ดเหนื่อยของคุณแม่

การแข่งขันเปียโนระดับนานาชาติในคราวนี้ นายหลิน ก้วนถิง ต้องผ่านการแข่งขันถึง 3 รอบ บรรเลงเพลงอมตะนิรันดร์กาลของนักเปียโนระดับโลกหลายคน กว่าจะฝ่าด่านสู่จุดสุดยอด คว้ารองแชมป์มาครองได้

แหล่งที่มา : Rti
วันที่ : 18 2554
Photo : CNA

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ตึกไทเป 101 จัดวิ่งแข่งขึ้นตึกประจำปี 2554

นายเผิงหงเหนียน วัย 94 ปี
ผู้ร่วมแข่งขันที่อายุมากที่สุด
การวิ่งแข่งขึ้นตึกไทเป 101 ฉลอง 100 ปีสาธารณรัฐจีนเริ่มขึ้นในวันที่ 5 โทมัส โดล์ด (Thomas Dold) จากเยอรมันชนะเลิศ สำหรับบุคคลที่สื่อมวลชนให้ความสนใจมากคือ ชายวัย 94 ปี ร่วมแข่งขันติดต่อกันเป็นปีที่ 7 แล้ว

การวิ่งแข่งขึ้นตึกไทเป 101 จัดขึ้นปีละครั้ง ในวันที่ 5 มิ.ย. มีผู้ร่วมแข่งขัน 6 พันคน ร่วมกันปืนตึก 91 ชั้น 2,046 ขั้นบันได ผลปรากฎว่า โทมัส โดล์ด จากเยอรมันชนะเลิศ ใช้เวลา 11 นาที 9 วินาที สำหรับในปีที่แล้วผู้ชนะเลิศคือ มาร์โค เดอ กาสเปรี(Marco De Gasperi) ชาวอิตาลี ทำเวลา 11 นาที 31 วินาที ผู้แข่งขันชาวไต้หวันที่ทำคะแนนดีที่สุดคือ เฉินฝูไฉ (陳福財) ใช้เวลา 12 นาที 47 วินาที


โทมัส โดล์ด จากเยอรมัน
แชมป์ประเภทชาย กระโดดสวมกอด
เจ้าหน้าที่ด้วยความดีใจ

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ควรให้ความสำคัญกับการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำทหารจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ไม่จำเป็นต้องประเมินสูงเกินไป

พลเอกเฉิน ปิ่งเต๋อ (陳炳德) เสนาธิการทหารสูงสุดของจีนแผ่นดินใหญ่ได้เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการตามคำเชิญของประธานคณะเสนาธิการกองทัพสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 15-22 พ.ค. 2554 ที่ผ่านมา

ทางการปักกิ่งระบุอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า การเยือนสหรัฐฯ ในคราวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ “สร้างความสัมพันธ์ทางทหารรูปแบบใหม่ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับสหรัฐฯ ที่เคารพซึ่งกันและกัน ร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน” นั่นเอง

แม้เจ้าหน้าที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนแผ่นดินใหญ่ที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ ในคราวนี้จะเป็นระดับบิ๊กๆ ในกองทัพ ทำให้การพูดคุยกันระหว่างกองทัพของสองประเทศเข้าสู่ขั้นตอนการเจรจาที่เป็นจริงก็ตาม แต่หากจะมองว่า การติดต่อแลกเปลี่ยนด้านการทหารระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับสหรัฐฯ ได้ก้าวสู่ความร้อนระอุมากขึ้นอย่างทั่วด้านแล้ว ก็คงจะเร็วเกินไป

(คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่)