วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

เปิดโฉมอั่งเปาตรุษจีนผู้นำไต้หวัน ใส่เงินมูลค่า 1 เหรียญสัญลักษณ์สถาปนาประเทศ 100 ปี

เทศกาลตรุษจีนทุกปี ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว(馬英九) แห่งไต้หวัน สาธารณรัฐจีน จะทำการแจกซองมงคลหรืออั่งเปาให้กับประชาชนทุกปี โดยภายในจะบรรจุช็อคโกแลตรูปเหรียญทอง แต่ในปีนี้ซึ่งตรงกับการสถาปนาประเทศครบรอบ 100 ปี หลอจื้อเฉียง(羅智強) โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยแสดงความคิดเห็น หวังว่าอั่งเปาปีนี้จะมีคุณค่าในการเก็บรักษา ดังนั้นประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่วจึงได้สั่งการ ให้มีการออกแบบแตกต่างจากทุกปี

อั่งเปาของผู้นำไต้หวันปีนี้มีสีแดงและสีทองเป็นหลัก ขณะเดียวกันเพื่อให้สอดคล้องกับปีนักษัตรปีนี้คือปีเถาะ ด้านหลังออกแบบเป็นรูปกระต่ายมงคล ส่วนด้านหน้าซองเป็นรูปทำเนียบประธานาธิบดี ภายในซองบรรจุเงินเหรียญมูลค่า 1เหรียญไต้หวันจำนวน 2เหรียญ เป็นสัญลักษณ์ฉลองก่อตั้งประเทศครบ 100ปี หลอจื้อเฉียงกล่าวว่า “เราใช้เงินเหรียญมูลค่า 1 เหรียญไต้หวัน 2 เหรียญ พร้อมด้วยการออกแบบรูปภาพ คือมีสัญลักษณ์สถาปนาประเทศ 100 ปี นอกจากนี้บนรูปภาพมีตัวหนังสือที่ประธานาธิบดีเขียนคือ「ร้อยปีฉลองก่อตั้งประเทศ เปิดศักราชใหม่แห่งโชควาสนา」 2 เหรียญไต้หวันมีความหมายเป็นมงคล อยู่คู่กันยาวนาน และร่ำรวยหมื่นปี เหล่านี้เป็นแนวหลักของการออกแบบในครั้งนี้”


หลอจื้อเฉียงระบุว่า ประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี จะทำการแจกจ่ายอั่งเปาในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยปีนี้เตรียมการแจกจ่ายให้ประชาชนจำนวน 200,000 ซอง อวยพรให้ทุกคนอนาคตรุ่งโรจน์ในปีเถาะ และหวังว่าทุกคนจะร่มเย็นและสุขสันต์ในปีก่อตั้งสาธารณรัฐจีน 100 ปีนี้ด้วย

รัฐบาลตั้งเป้าประชาชนลดน้ำหนัก 600 ตัน นรม.ไต้หวันนำขบวนลด 2 กก. ภายในปีนี้

จากผลสำรวจในปี 2008ประชาชนวัยเจริญพันธุ์ของไต้หวันมีอัตราส่วนน้ำหนักเกินหรืออ้วนเกินถึงร้อยละ 44.1 โดยเป็นเพศชายสูงถึงร้อยละ 50.8เพศหญิงร้อยละ 36.9 ในจำนวนนี้เด็กทุก 4 คน จะมีอยู่ 1 คนที่มีหนักเกินหรืออ้วน

เพื่อผลักดันแผนงานลดน้ำหนัก ทบวงสาธารณสุขไต้หวันจัดให้ปีนี้เป็นปีแห่งการออกกำลังกาย พร้อมตั้งเป้าหมายให้ประชาชนลดน้ำหนักลงให้ได้รวม 600 ตัน(600,000 กก.) โดยนอกจากมีการเชิญชวนให้ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว(馬英九) รณรงค์การลดน้ำหนักในบันทึกบริหารประเทศวันที่ 22 ม.ค.แล้ว วันที่ 24 ม.ค.ยังได้เชิญชวนให้นรม.อู๋ตุนอี้(吳敦義) และหยางจื้อเหลียง(楊志良) รมว.ทบวงสาธารณสุข เป็นผู้นำตัวแทนจากทุกหน่วยงานของภาครัฐและเทศบาลเขต ตั้งเป้าหมายลดน้ำหนัก พร้อมจัดพิธีปฏิญานเริ่มปฏิบัติการด้วย 


อู๋ตุนอี้กล่าวขณะเป็นประธานในพิธีระบุว่า ตนเองน้ำหนักมากที่สุดคือ 88 กก. จากนั้นตัดสินใจลดความอ้วน เนื่องจากมีโอกาสออกกำลังกายน้อย จึงใช้วิธีทานให้น้อย ดื่มสุราน้อยลง และขึ้นบันไดให้มากๆ ในที่สุดสามารถลดน้ำหนักลงได้ 8 กก.

อู๋ตุนอี้และหยางจื้อเหลียงได้ทำการวัดส่วนสูงและน้ำหนัก พบว่ามีค่าดัชนีมวลกาย(BMI) 25 และ 24.6 ตามลำดับ ซึ่งเกินจากค่ามาตรฐานเล็กน้อย ดังนั้นทั้งสองท่านจึงเป็นผู้นำขบวน ตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักให้ได้ 2 กก. ภายในปีนี้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

สหรัฐฯ เล่นแง่เจรจา TIFAเหตุสารเร่งเนื้อแดง

สืบเนื่องจากกรณีไต้หวันตรวจพบสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ จนกลายเป็นเหตุมึนตึงระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ซึ่งมีรายงานข่าวระบุว่า เดิมทั้งสองฝ่ายมีกำหนดการเปิดการเจรจาความตกลงกรอบการค้าและการลงทุนหรือ TIFA ระหว่างกันในปลายเดือนมกราคม ศกนี้ ต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการเลื่อนการเจรจาดังกล่าวออกไปจากสาเหตุสินค้าเกษตร โดยครั้งแรกเป็นเหตุจากปัญหาการนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯ ระบุว่า เนื้อวัวสหรัฐฯ มีส่วนแบ่งในตลาดถึง 37% - 40% เนื่องจากไต้หวันสั่งห้ามเนื้อวัวและเนื้อสุกร ห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง ทำให้ฝ่ายสหรัฐฯ แสดงความวิตกกังวล ซึ่งสหรัฐฯ หวังว่า ไต้หวันจะกำหนดมาตรฐานปริมาณตกค้างของสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อวัวและเนื้อสุกร (MRL) เช่นเดียวกับวิธีการของประเทศต่างๆ กว่า 26 ประเทศ เช่นสหรัฐฯ แคนาดา นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย

จีนเปิดตัวเครื่องบินรบ J-20 สะเทือนขวัญไปทั่วโลก

ปลายปีที่แล้ว ในช่วงก่อนที่นาย รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เยือนจีนแผ่นดินใหญ่ ทางการจีนคอมมิวนิสต์ได้ประกาศความสำเร็จของการสร้างเครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุดของตนคือเครื่องบินรบ J-20 โดยผ่านเวปไซต์ของตน และในช่วงระหว่างการเยือนจีนแผ่นดินใหญ่ของเขา ทางการปักกิ่งก็ได้ประกาศความสำเร็จของการทดสอบการบินของเครื่องบินรบดังกล่าวในวันที่ 11 ม.ค. 2554 โดยใช้เวลาทดสอบ 15 นาที การเปิดตัวเครื่องบินรบของจีนในครั้งนี้ สร้างความตกตะลึงให้แก่สังคมนานาชาติ โดยจะต้องมีการประเมินสมรรถนะทางด้านอุตสาหกรรมการบินของจีนใหม่

จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเครื่องบินรบรุ่นล่าสุดดังกล่าว แต่การพัฒนาเครื่องบินรบ J-20 เป็นการเปิดศักราชสำคัญของการพัฒนาเครื่องบินรบขนาดใหญ่ของจีน นายจ้าว ซวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบังคับการบิน และวิศวกรประจำศูนย์ฝึกทดสอบอาวุธทางอากาศของจีนคอมมิวนิสต์เปิดเผยว่า เครื่องบินรบ J-20 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบรุ่นที่ 4 ของจีน ได้เริ่มศึกษาพัฒนามาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2550 ซึ่งคาดว่า จะต้องใช้เวลาในการพัฒนานานถึง 7 ปี จึงจะประสบความสำเร็จ เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว เครื่องบินรบ J-20 จะมีสมรรถนะที่เหนือกว่าเครื่องบินรบ F-22 ของสหรัฐฯ เขาย้ำว่า จีนแผ่นดินใหญ่มีความสามารถที่จะเอาชนะอัตราส่วนระหว่างการหลบหลีกและวัสดุอะไหล่ และความเร็วบินเหนือเสียง ซึ่งถือเป็นดัชนีสำคัญของเครื่องบินรบ

นักวิชาการจีนระบุ แถลงการณ์ร่วมสหรัฐฯ-จีนหนุนสันติภาพช่องแคบไต้หวัน

นักวิชาการจีนแผ่นดินใหญ่ได้วิเคราะห์แถลงการณ์ร่วมระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อวานนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับไต้หวันชี้ชัดว่า สหรัฐฯ มีท่าทีที่เป็นบวกต่อการพัฒนาไปอย่างสันติของความสันติภาพของช่องแคบไต้หวัน ซึ่งได้เพิ่มเติมข้อความว่า “สหรัฐฯ ชื่นชมต่อการจัดทำความตกลง ECFA ระหว่างช่องแคบไต้หวัน และยินดีที่ทั้งสองฝ่ายเปิดช่องทางการทำความเข้าใจกันใหม่”

ในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวได้ระบุในข้อที่ 6ว่า “จีนกับสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำประเด็นไต้หวันเป็นประเด็นที่มีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ”

ศ.อู๋ เหนิงเยวี่ยน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไต้หวันศึกษายุคใหม่ แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์สังคมฝูเจี้ยน ของจีน ระบุว่า ข้อความดังกล่าวในแถลงการณ์ร่วม สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายควรมีจุดยืนและหลักการที่แจ่มชัดมากขึ้นต่อประเด็นไต้หวัน และควรยึดหลักการดังกล่าวดำเนินการกับประเด็นนี้ต่อไปในอนาคตด้วย

ทางด้าน นายเสิ่น อี้ อาจารย์คณะการเมืองระหว่างประเทศ สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกิจการสาธารณะ มหาวิทยาลัยฟู่ต้าน เซี่ยงไฮ้ ระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้กับฉบับปี 2552 ที่ประธานาธิบดีโอบามาเยือนจีนแล้ว ประเด็นไต้หวันไม่มีอะไรใหม่มีสาระเหมือนกัน แต่สหรัฐฯ ชื่นชมการจัดทำความตกลง ECFA ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างช่องแคบไต้หวันก้าวไปอย่างมั่นคง

ไต้หวันตามเด็กกลับประเทศ มีพาสปอร์ตให้บัตรประชาชน

กระแสการมีบุตรน้อยทำให้ไต้หวันเผชิญกับภาวะขาดแคลนบุคคลากร หลิวอี้หรู ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแสดงความเห็นเกี่ยวกับการให้บัตรประชาชนแก่เด็กไต้หวันที่เกิดในต่างประเทศว่า ควรจะตามเด็กไต้หวันกลับไต้หวัน ซึ่งจะมีการประชุมระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในเร็ว ๆ นี้

หลิวอี้หรูกล่าวว่า ในขณะที่นางทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ได้ผลักดันให้มีการแก้ไข “กฎหมายการเข้าออกประเทศและการอพยพ” กำหนดให้เด็กที่เกิดในต่างประเทศอายุไม่เกิน 12 ปี สามารถกลับมาไต้หวันเพื่อขอบัตรประชาชนได้ หากเกินกว่า 12 ปี จะต้องอาศัยอยู่ในไต้หวันครบ 1 ปี จึงจะยื่นขอได้ ประชาชนบางส่วนไม่ทราบระเบียบดังกล่าว จึงพลาดการขอบัตรประชาชนก่อนอายุครบ 12 ปี หากอายุเกิน 12 ปี จะต้องอยู่ไต้หวันครบ 1 ปีก่อน ผลเสียของการไม่มีบัตรประชาชนคือ ไม่มีสิทธิ์ทำงาน

หลิวอี้หรูกล่าวว่า เด็กไต้หวันที่เกิดในต่างประเทศหากมีพาสปอร์ตไต้หวัน ควรจะได้บัตรประชาชน แต่ในส่วนของการประกันสุขภาพควรงดไว้ก่อน เพื่อลดภาระรายจ่ายของรัฐบาล

เหลียนเซิ่งเหวินถูกยิง อัยการสรุปยิงผิดคน

กระแสข่าวระบุว่ากรณีเหลียนเซิ่งเหวิน ส.ส.พรรคก๊กมินตั๋ง บุตรชายอดีตรองประธานาธิบดีเหลียนจ้านถูกยิงก่อนวันเลือกตั้ง อัยการจะสรุปการสอบสวนว่า เหลียนเซิ่งเหวินถูกยิงเพราะมือปืนจำคนผิด ตระกูลเหลียนต้องการให้อัยการสอบสวนให้แน่ชัดก่อนสรุปสำนวนฟ้อง

สวีหงถิง(徐弘庭)ผู้ช่วยพิเศษของเหลียนเซิ่งเหวินแถลงว่า ตระกูลเหลียนได้มอบหมายให้ทนายความส่งหนังสือแจ้งต่ออัยการแล้วว่าขอให้สอบสวนอย่างแน่ชัดก่อนการฟ้องร้อง
ทางด้านติงโซ่วจง(丁守中) ส.ส. พรรคก๊กมินตั๋งชี้ว่า การสรุปสำนวนฟ้องว่าเป็นการยิงผิดคนไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากในวันเกิดเหตุเหลียนเซิ่งเหวินไปถึงเวทีหาเสียงตั้งแต่ 10.00 น. ในตอนเช้า และได้รับการแนะนำตัวถึง 3 ครั้ง มือปืนยืนอยู่ข้างล่างตลอด จึงไม่น่าเชื่อว่าจำผิดคน



หากอัยการสรุปว่าการยิงเหลียนเซิ่งเหวินเป็นเพราะจำผิดคน พรรคดีพีพียังจะฟ้องร้องให้การเลือกตั้งผู้ว่าการ 3 นคร เป็นโมฆะหรือไม่ หลินอิ่วชัง(林右昌) โฆษกพรรคดีพีพี (พรรคฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า พรรคดีพีพีเน้นว่าหลังเกิดเหตุแล้วพรรคก๊กมินตั๋งได้อาศัยประโยชน์จากเหตุการณ์หรือเปล่า เพราะฉะนั้นจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจฟ้องร้อง อย่างไรก็ตาม ทนายความ ไช่เม่าโซง(蔡茂松) ระบุว่า หากอัยการสรุปว่าจำผิดคน ถือว่าเป็นการกระทำที่ต่างจากการซื้อเสียง โกงคะแนน หรือนับคะแนนผิด การยิงปืนอาจส่งผลต่ออารมณ์ของประชาชน แต่พิสูจน์ได้ยาก โอกาสที่ศาลไม่รับฟ้องเป็นไปได้สูง

เรือนจำไทเปส่งตัวนายเฉินสุยเปี่ยนเข้ารพ. หลังมีอาการโรคหัวใจ เบื้องต้นอาการคงที่และถูกส่งตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำไทเปแล้ว

นายเฉินสุยเปี่ยน อดีตประธานาธิบดีไต้หวัน ที่ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำไทเปด้วยข้อหาทุจริตคอรัปชั่น มีอาการทางโรคหัวใจเมื่อค่ำวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เรือนจำไทเปจึงนำส่งตัวนายเฉินไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเถาหยวนในช่วงเช้าวันที่ 19 ม.ค. เนื่องจากนายเฉินอ้างว่ารู้สึกหัวใจเต้นไม่ปกติ ทางโรงพยาบาลจึงได้ทำการตรวจร่างกายเกี่ยวกับปอดและหัวใจโดยเฉพาะ


 

เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันหนาแน่น


ไต้หวันเหลือกระบือเพียง 3,000 กว่าตัวทั้งประเทศ

เพื่อเป็นการอนุรักษ์กระบือหรือควายไต้หวันไม่ให้สูญหายไป โดยหลังความพยายามมาเป็นเวลา 20กว่าปี สถาบันวิจัยปศุสัตว์ คณะกรรมการการเกษตรไต้หวัน (農委會畜產試驗所) สามารถจัดทำทะเบียนของสัตว์ประเภทกระบือได้แล้วเสร็จ และตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า ควายไต้หวัน

นายหวงอิงหาว (黃英豪) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยปศุสัตว์ชี้ว่า การปฏิวัติการเกษตรที่หันไปใช้เครื่องจักรกลเกษตรมากขึ้น ทำให้ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา การเลี้ยงควายไต้หวันลดจำนวนลงอย่างมาก ปัจจุบันเหลือเพียง 3,000 กว่าตัวเท่านั้น ทางสถาบันวิจัยปศุสัตว์ได้เริ่มทำการคัดเลือกควายคุณภาพดีจากที่ต่างๆ ทั่วไต้หวันตั้งแต่ปี 1987 อาศัยเทคโนโลยีชีวภาพและเทคนิคการเพาะพันธุ์สัตว์ ทำการวิเคราะห์คัดแยกสารพันธุกรรมและเก็บรักษาเชื้อพันธุ์โดยการแช่แข็ง ตลอดจนผสมพันธุ์ควายเพื่อขยายพันธุ์และเพิ่มจำนวนควายไต้หวันให้มากขึ้น ซึ่งจากความพยายามตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ

พร้อมกันนี้สถาบันวิจัยปศุสัตว์ ยังได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อควายต่างๆ มาโชว์ด้วย โดยเผยว่า ในยุคแรกๆ ควายไต้หวันถูกนำมาใช้ในงานที่ใช้แรงงานเป็นหลัก และมีเพียงส่วนน้อยที่จะนำมาประกอบอาหาร ซึ่งจริงๆ แล้วเนื้อของควายไต้หวันเป็นเนื้อที่มีคุณภาพดี ไขมันต่ำ ให้พลังงานต่ำ คอเลสตอรอลน้อย มีธาตุเหล็กและไขมันไม่อิ่มตัวในสัดส่วนที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ที่เน้นการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก

ผู้นำไต้หวันระบุ การทดลองขีปนาวุธเป็นการเตรียมพร้อมป้องกันประเทศไม่ใช่แข่งขันกันสั่งสมอาวุธ

ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว แห่งไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดแถลงภายหลังเข้าชมการทดลองขีปนาวุธครั้งใหญ่ของกองทัพ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนในวันที่ 18 ม.ค. ศกนี้ว่า การทดลองขีปนาวุธของไต้หวันครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวพันกับการเดินทางเยือนสหรัฐฯของนายหูจิ่นเทา ผู้นำจีนแผ่นดินใหญ่แต่อย่างใด และไม่ใช่เป็นการแข่งขันกันสั่งสมอาวุธ ผู้นำไต้หวันยังเปิดเผยว่า ยังมีขีปนาวุธบางลูกที่ยิงไม่ถูกเป้าหมายต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อรักษาแสนยานุภาพของกองทัพให้อยู่ในระดับที่ได้มาตรฐาน

ด้านกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า การทดลองยิงขีปนาวุธครั้งนี้ใช้ขีปนาวุธมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาขณะเดียวกันก็เป็นการซ้อมรบเพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาด้วย

นักวิชาการระบุ ไต้หวัน สหรัฐฯและญี่ปุ่นควรร่วมมือกันคานอำนาจจีนแผ่นดินใหญ่

ศาสตราจารย์หลินเหอลี่ จากมหาวิทยาลัยอคิตะ อินเตอร์เนชั่นแนล (Akita International University)ได้เขียนบทความลงตีพิมพ์ในนิตยสาร 「SAPIO」ของญี่ปุ่น เรียกร้องให้ไต้หวัน สหรัฐฯและญี่ปุ่นควรร่วมมือกันคานอำนาจจีนแผ่นดินใหญ่ที่เริ่มคุกคามไปทั่วโลกในทุกๆด้านโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ

บทความของศาสตราจารย์หลินเหอลี่ซึ่งอดีตเป็นรองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์SouthChina Morning Post หรือ SCMP ( 南華早報 ) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในฮ่องกงระบุว่า ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจีนแผ่นดินใหญ่ ผงาดขึ้นมาเป็นหนึ่งในสิบของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก แต่ในอีกสิบปีข้างหน้าจะกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลก ผู้นำจีนแผ่นดินใหญ่สมัยต่อไปซึ่งจะกลายเป็นผู้นำโลกนั้นจะถูกคัดเลือกออกมาในปี ค.ศ. 2012 ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นนายสีจิ้นผิง รองประธานกรรมาธิการทหารแห่งชาติคนปัจจุบัน หากมองจากจีดีพีของจีนแผ่นดินใหญ่ ในปี ค.ศ. 2010 สูงเป็นอันดับสองของโลกแซงหน้าญี่ปุ่น คาดการณ์ว่า ในปี ค.ศ. 2020 จะแซงหน้าสหรัฐฯกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง นอกจากนี้จีนแผ่นดินใหญ่ได้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯไว้ถึง 850,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นหนึ่งในห้าของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯทั้งหมด หากจีนแผ่นดินใหญ่โยนพันธบัตรในมือออกขายเพียง 10% ก็เพียงพอที่จะก่อให้เกิดความหวั่นวิตกในตลาดการเงินโลกและสามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่เศรษฐกิจของสหรัฐฯได้ ดังนั้นในอีกสิบปีข้างหน้าผู้นำสหรัฐฯจะถูกสีจิ้นผิงผู้นำจีนแผ่นดินใหญ่ในอนาคตปิดปากด้วยไพ่ใบสำคัญนี้ นอกจากภัยคุกคามทางเศรษฐกิจแล้ว ในด้านการทหารจากข้อมูลทางการทหารสหรัฐฯระบุว่า ในอีกห้าปีข้างหน้า กองทัพปลดแอกจีนคอมนิวนิสต์จะผลิตเรือรบขนาดใหญ่ 6 ลำ โดยคาดว่าได้มีการเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อขยายแสนยานุภาพของกองทัพเรือให้ล้ำหน้ากว่ากองทัพเรือของสหรัฐฯและสามารถรุกเข้าไปในน่านน้ำด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิคได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง กองเรือรบของจีนแผ่นดินใหญ่จะปรากฏให้เห็นตามหมู่เกาะเตี้ยวหยีไถที่เป็นข้อพิพาทเรื่องอธิปไตยระหว่างญี่ปุ่นกับจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ และหมู่เกาะโอกินาวา ถึงเวลานั้นจีนแผ่นดินใหญ่ก็จะกลายเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยของญี่ปุ่นด้วย ดังนั้นการจะคานอำนาจจีนแผ่นดินใหญ่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกันของสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและไต้หวัน โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการทหาร พร้อมกันนี้ญี่ปุ่นจะต้องอาศัยจุดอ่อนของจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งก็คือปัญหาด้านเสรีภาพและประชาธิปไตย รวมถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนมากดดันจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยการเพิ่มความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศตะวันตก

แหล่งที่มา : Rti Thai
วันที่ : 2011/01/18

ไต้หวันเตรียมจัดเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่าสกัดนักเก็งกำไรที่ดิน

กระทรวงการคลัง ไต้หวัน สาธารณรัฐจีนแถลงในคืนวันที่ 17 ม.ค. ศกนี้ว่า สภาบริหารได้มีมติให้ฟื้นฟูกฏระเบียบที่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่า และจะมีผลใช้บังคับในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ถึงเวลานั้นรัฐบาลท้องถิ่นสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่าที่มีราคาสูงกว่าราคาประเมิน 2-5 เท่า คาดจะช่วยลดปัญหาการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ลงได้

กระทรวงการคลังระบุว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่น ดังนั้นรายละเอียดต่างๆรวมถึงขั้นตอนในการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะมีรัฐบาลท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง

ทั้งนี้การจัดเก็บภาษีที่ดินว่างเปล่าถือเป็นมาตรการลงโทษผู้ที่ซื้อที่ดินเก็บไว้เพื่อเก็งกำไรโดยไม่ยอมใช้ประโยชน์หรือก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆซึ่งจะทำให้ต้นทุนของนักเก็งกำไรที่ดินเพิ่มสูงขึ้น บีบให้ต้องเร่งปล่อยขายที่ดินหรือก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง อันจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ที่ใช้ในการปลูกสร้าง และในที่สุดจะส่งผลให้ราคาที่ดินไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนเช่นปัจจุบัน

แหล่งที่มา : Rti Thai
วันที่ : 2011/01/18

สำรวจพบวันหยุดตรุษจีน มนุษย์เงินเดือนในไต้หวันอยากนอนให้เต็มอิ่ม

เหลือเวลาอีกเพียงสองสัปดาห์ก็จะถึงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน( 2 -7ก.พ. ) แล้ว ผลการสำรวจของ ธนาคารแรงงาน 104 บริษัทจัดหางานทางอินเตอร์เนตที่มีชื่อแห่งหนึ่งของไต้หวันที่ทำการสำรวจความคิดเห็นของมนุษย์เงินเดือนในไต้หวันพบว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอยากทำมากที่สุดคือ อยากนอนให้เต็มอิ่มแล้วตื่นขึ้นมาเองโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก โดยเป็นความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าร้อยละ 50 รองลงมาคืออยากเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ตามมาด้วยอยากใช้ช่วงวันหยุดไปทำงานพิเศษเพื่อหาเงิน ช็อปปิ้ง ไปชมภาพยนต์ ขึ้นอินเตอร์เนต นอกจากนี้ร้อยละ 76 ของผู้ถูกสอบถามยังตอบว่ารอคอยวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างใจจดใจจ่อ สาเหตุเพราะต้องการกลับบ้านเพื่อพบหน้าค่าตากับสมาชิกในครอบครัว ไม่ต้องทำงาน รองลงมาคือไม่ต้องตื่นแต่เช้า และได้รับเงินโบนัส สำหรับของฝากที่นิยมซื้อไปฝากญาติมิตรช่วงตรุษจีน จากการสำรวจพบว่า มนุษย์เงินเดือนนิยมซื้อ ทองม้วนหรือคุ๊กกี้ รองลงมาคืออาหารเสริม เมล็ดแตงโมหรือถั่วธัญพืชอบแห้ง
 
แหล่งที่มา : Rti Thai
วันที่ : 2011/01/18


วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

ความงดงามของโลกสีเงินในไต้หวัน ด้วยฝีมือสรรสร้างจากธรรมชาติ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา(15-16ม.ค.) เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่สภาพอากาศทั่วไต้หวันเข้าสู่ความหนาวเหน็บและเย็นจัดสุดๆ นับตั้งแต่ต้นปี 2554 ที่ผ่านมา สาเหตุนั้นก็ไม่ใช่อะไรอื่นใด เป็นเพราะมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่แผ่พัดปกคลุมไต้หวันเช่นเคย ส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วไต้หวันโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคกลางมีอุณหภูมิลดต่ำลงไปอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ขณะที่บนภูเขาสูงเข้าสู่ภาวะติดลบ และทำให้เกิดหิมะตกตามมา ซึ่งมวลอากาศเย็นระลอกนี้แรงจัดสุดขีด โดยนอกจากที่ภูเขาลาลาซัน ในเมืองเถาหยวน และเขาไท่ผิงซันในเมืองอี๋หลานจะเกิดหิมะตกจนขาวโพลนไปทั่วแล้ว ที่เขาหยางหมิงซัน ในกรุงไทเปและที่อุทยานพักผ่อนเซี่ยงหยาง ในเมืองไถตงก็มีหิมะตกปรอยๆ และเกิดแม่คะนิ้งเหมือนกัน งานนี้นักท่องเที่ยวเลยได้แห่กันไปดูวิวสวยๆ ทิวทัศน์งามๆ ของโลกสีเงิน(ชั่วคราว)ในไต้หวัน กันอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวัน ได้เปิดเผยในวันนี้ (17 ม.ค.)ว่า เจ้าลมหนาวที่ทำเอาหลายๆ คนรู้สึกหนาวเหน็บเข้ากระดูกที่ว่า ใกล้จะผ่านพ้นไปแล้ว โดยอิทธิพลของมวลอากาศเย็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบไปจนถึงช่วงเช้าของวันนี้เท่านั้น และอากาศที่อบอุ่นพร้อมกับแสงแดดอันอ่อนโยน จะค่อยๆ คืนมา แต่จะรู้สึกว่าอากาศอุ่นขึ้นจริงๆ คงจะเป็นวันพฤหัสบดีที่ 20 ม.ค. โดยภาคเหนือจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นมาอยู่ที่ 15 องศา ภาคกลาง 17 องศา และภาคใต้ 22 องศา แต่ว่าในช่วงสองสามวันนี้ อากาศตอนเช้ากับตอนกลางคืนจะเย็นกว่าในช่วงกลางวัน

แต่ว่าแหม อุ่นได้ไม่ทันกี่วัน วันศุกร์นี้ก็จะมีมวลอากาศเย็นจากจีนแผ่นดินใหญ่มาหากันอีกครั้ง และถึงแม้อากาศจะเย็นลงและมีอุณหภูมิจะลดต่ำลง แต่ก็จะไม่หนาวเหน็บเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แม้ว่า(ก็หลายแต่กันหน่อยนะครับ) อากาศจะอบอุ่นขึ้น กรมอุตุฯ ยังบอกว่า บางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก มีโอกาสที่จะเกิดฝนตกเป็นหย่อมๆ อยู่ด้วย ส่วนภาคกลางและใต้จะมีฝนตกในบางพื้นที่ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ยังไงใครจะออกจากบ้านไปไหนมาไหน คงต้องแต่งตัวสวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายอย่างพอเพียงด้วยนะครับ ที่สำคัญอย่าลืมพกชุดอุปกรณ์กันฝนติดไม้ติดมือไปด้วย จะเป็นเสื้อกันฝน ร่ม ถุงมือ หรืออะไรก็ตามแต่สะดวกกันนะครับ

 

เก็บภาพสวยๆ ของวิวขาวๆแห่งโลกสีเงิน(ชั่วคราว)ในไต้หวันมาฝากกัน

เก็บภาพสวยๆ ของวิวขาวๆแห่งโลกสีเงินในไต้หวันมาฝากกัน

หิมะตกที่เขาลาลาซัน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของเมืองเถาหยวน



ทิวทัศน์หิมะตกที่เขาไท่ผิงซัน เมืองอี๋หลาน ที่ระดับความสูงเกือบสองพันเมตร ทั้งโรแมนติกและสนุกสนานกับการปั้นตุ๊กตาหิมะ 

วัน ทู ทรี ยิ้มหน่อยสิคะลูก

ส.ส. คัดค้านผ่อนคลายมาตรฐานสารเร่งเนื้อแดง วัวสหรัฐฯ

ไต้หวันตรวจพบสารเร่งเนื้อแดงตกค้างในเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ ส.ส. คัดค้านการผ่อนคลายมาตรฐานสารเร่งเนื้อแดง หวังซิงหนาน (王幸男) ส.ส. พรรคดีพีพีเรียกร้องทบวงสาธารณสุขเพิ่มการสุ่มตรวจเป็น 50% ขึ้นไป ส่วนหยางลี่หวน(楊麗環) ส.ส. พรรคก๊กมินตั๋งต้องการให้สำนักงานตัวแทนในต่างประเทศติดตามข่าวสาร

ทบวงสาธารณสุขแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ตรวจพบสารเร่งเนื้อแดงในเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งมีจำนวน 2 ล็อตยังไม่ได้นำเข้า และจากการสุ่มตรวจในสถานจำหน่ายปลีกในภาคเหนือในเบื้องต้นพบ 3 กรณี ในปีที่แล้วมีการตรวจพบเนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐฯ และแคนาดามีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างด้วย ดังนั้นจะมีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้านำเข้า

รายงานข่าวระบุว่า สหรัฐฯ เรียกร้องให้ไต้หวันผ่อนคลายระเบียบที่กำหนดว่าห้ามมีสารเนื้อแดงตกค้าง
หยางลี่หวนกล่าวว่า ไต้หวันไม่ควรผ่อนคลายระเบียบตามคำเรียกร้องของสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ไม่ควรอ้างว่า วิธีการตรวจสอบไม่เหมือนกัน นอกจากนี้สำนักงานตัวแทนในไต้หวันจะต้องติดตามข่าว หากมีรายงานสิ่งผิดปกติเกี่ยวกับสินค้าเกษตรจะต้องแจ้งหน่วยงานในประเทศให้เพิ่มความระมัดระวัง

ต้อนรับตรุษจีน กรุงไทเปดำเนินมาตรการดูแลผู้อ่อนแอในสังคม

นายห่าวโหลงปิน ผู้ว่าการกรุงไทเป(ซ้าย)
ปีใหม่จีนใกล้เข้ามา กรุงไทเปดำเนินมาตรการดูแลผู้อ่อนแอในสังคมวันตรุษจีน แจกเงินปลอบขวัญและคูปองแลกอาหาร ช่วยซื้ออาหารส่งถึงบ้านและแสดงความห่วยใยต่อคนชราโดดเดี่ยว เป็นการดูแลผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้ได้รับความอบอุ่นในช่วงตรุษจีน ห่าวโหลงปินผู้ว่าการกรุงไทเปเรียกร้องให้องค์กรการกุศลร่วมกันแสดงความห่วงใยเพื่อให้ประชาชนฉลองปีใหม่อย่างเป็นสุข

กรุงไทเปจะแจกเงินปลอบขวัญให้แก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม ได้แก่ผู้ตกงานในวัยกลางคนและสูงอายุ ครอบครัวหย่าร้าง ครอบครัวเลี้ยงดูข้ามรุ่น คนชราโดดเดี่ยว เด็กสตรีอ่อนแอ ผู้พิการทางกายและใจ แจกเงินปลอบขวัญครอบครัวละ 1000 – 5000 เหรียญไต้หวัน สำหรับครอบครัวด้อยโอกาสที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ จะแจกคูปองแลกอาหาร คาดว่าผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือมีจำนวน 2,600 กว่าครอบครัว

ห่าวโหลงปินผู้ว่าการกรุงไทเประบุว่า “พวกเราเริ่มกิจกรรมแสดงความห่วงใยเมื่อมีข่าวลมหนาวพัด ในด้านหนึ่งนั้นมีการไปเยี่ยมเยือนหรือโทรศัทพ์สอบถาม แสดงความห่วงใย สำหรับคนชราที่อยู่โดดเดี่ยวหากจะมาร่วมฉลองที่ศูนย์ดูแลหรือบ้านพักคนชรา พวกเรายินดีต้อนรับ ในช่วงตรุษจีนยินดีต้อนรับพวกเขามาร่วมฉลองปีใหม่ด้วยกัน”

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

ทูตไทยประจำไต้หวันย้ำ เร่งกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้ากับไต้หวันเต็มที่


นายวิบูลย์ คูสกุล
ผอ.ใหญ่ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย

นายวิบูลย์ คูสกุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ประจำกรุงไทเป ในฐานะทูตไทยประจำไต้หวันได้ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการภาคภาษาไทย อาร์ทีไอ ในวันนี้ ย้ำภาระกิจสำคัญของการเป็นผู้แทนไทยประจำไต้หวัน นอกจากจะต้องดูแลคนไทยในไต้หวันอย่างเต็มที่แล้ว ยังต้องเร่งพยายามกระชับความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจและการค้ากับไต้หวันอย่างเต็มที่ด้วย

ทูตไทยประจำไต้หวันระบุว่า ปัจจุบันมีคนงานไทยทำงานในไต้หวันเป็นจำนวนประมาณ 65,000 คน ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักจะมาจากการดื่มสุรา ดังนั้น ทางสำนักงานการค้าฯ จึงมีแนวนโยบายที่จะร่วมมือกับสำนักงานแรงงานในไต้หวันส่งเสริมการไม่ดื่มสุรา แต่ได้ย้ำว่า มิได้เป็นการต่อต้านแรงงานไทยที่ดื่มสุราแต่อย่าง ใดเพียงแต่ต้องทำให้ “จุดอ่อน” กลายเป็น “จุดแข็ง” ของแรงงานไทยเท่านั้น และเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของแรงงานไทยในสายตาของนายจ้างไต้หวันด้วย


ยิ่งใหญ่ตระการตารับปี 2011 กับการแสดงดอกไม้ไฟที่ตึกไทเป 101

การแสดงพลุดอกไม้ไฟที่ตึกไทเป 101
บรรยากาศการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ทั่วไต้หวัน 2010 - 2554
โบกมืออำลา บ๊ายบาย ปีเสือกับการชมพระอาทิตย์ตกในวันสุดท้ายของปี

เศรษฐกิจฟื้นตัว ความต้องการบุคคลากรสูงสุดในรอบ 9 ปี

สำนักงบประมาณ สภาบริหารรายงานตัวเลขตำแหน่งงานว่างในภาคอุตสาหกรรมและการบริการซึ่งต้องการผู้เข้าทำงานมีจำนวน 193,000 คน อัตราความต้องการเท่ากับ 2.81% เป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ปี 2002 ข้าราชการเปิดเผยว่า เป็นสิ่งบ่งชี้เศรษฐกิจฟื้นตัว ผู้ประกอบการต้องการบุคคลากรเพิ่มขึ้น

สำนักงบประมาณรายงานผลการสำรวจภาวะการจ้างงานของผู้ประกอบการปี 2010 ในเดือนสิงหาคมตำแหน่งงานว่าง 58,000 คน อัตราความต้องการบุคคลากรเพิ่มจากปีที่แล้ว 2.06% เป็น 2.81% เพิ่มขึ้น 0.75 จุด

หลิวเทียนซื่อ อธิบดีกรมที่ 4 ของสำนักงบประมาณกล่าวว่า กิจการภาคการผลิตมีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คิดเป็นจำนวน 90,434 คน กิจการค้าส่งและค้าปลีกรองลงมากคือ 34,084 คน

ในส่วนภาคบริการนั้น นายหน้าอสังหาริมทรัพย์มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 5.35% รองลงมาคือกิจการบริการอื่น ๆ 4.56% และอันดับ 3 คือกิจการโรงแรมร้านอาหารมีสัดส่วน 4.07%

เทศกาลโคมไฟไต้หวันเปิดฉากวันที่ 17 ก.พ. ศกนี้

เทศกาลโคมไฟในไต้หวัน ซึ่งถือเป็นงานเทศกาลสำคัญหลังวันตรุษจีน มีกำหนดการเปิดฉากอย่างเป็นทางการที่จังหวัดเหมียวลี่ ในวันที่ 17 ก.พ. 2554 ซึ่งในตอนเช้าวันนี้ การท่องเที่ยวไต้หวันได้เปิดตัวโคมไฟหลักของงานเทศกาลโคมไฟไต้หวันอย่างเป็นทางการ

การท่องเที่ยวไต้หวันระบุว่า โคมไฟรูปกระต่ายซึ่งเป็นโคมไฟหลักของงานเทศกาลโคมไฟปีนี้ สูง 20.5 ม. หนักกว่า 30 ตัน ออกแบบให้เข้ากับความเป็นไฮเทคและไอทีของไต้หวัน โดยเป็นรูปกระต่ายสสวมหูฟัง ใส่เสื้อกั๊ก มือถือหยวนเป่า สัญญลักษณ์ความเป็นสิริมงคลของเทศกาลโคมไฟ เจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมาเทมา ประชาชนอยู่ดีมีสุข

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

เฉิน หยวินหลินขู่ไม่มีฉันทามติ 1992 ไม่มีการต่อต้านการแยกไต้หวันเป็นอิสระ จีนจะทบทวนนโยบายต่อไต้หวัน

สืบเนื่องจากกรณีที่นายเฉิน หยวินหลิน นายกสมาคมความสัมพันธ์ช่องแคบไต้หวัน (ARATS) ของจีนได้กล่าวกับนักธุรกิจไต้หวันในจีนว่า นโยบายเศรษฐกิจต่อไต้หวันตั้งอยู่บนพืนฐานของ “ฉันทามติ 1992 และการต่อต้านการแยกไต้หวันเป็นอิสระ” นั้น นายหลิน อวี้ฟัง สส.พรรคก๊กมินตั๋ง ระบุว่า นายเฉินฯ ย้ำจุดยืนในนโยบายต่อไต้หวันของจีนอีกครั้งหนึ่งเท่นั้น แต่กำหนดเวลาการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันที่กระชั้นชิดเข้ามาทุกขณะนี้ ยิ่งส่งผลให้พรรคดีพีพีมีแรงกดดันมากยิ่งขึ้น

เฉินหยุนหลิน(ขวา) ขณะพบปะพูดคุย
กับนักธุรกิจไต้หวัน
ทั้งนี้ นายเฉินฯ ได้กล่าวกับนักธุรกิจไต้หวันในจีนเมื่อสองวันก่อนว่า หากวันหนึ่ง “การต่อต้านการแยกไต้หวันเป็นอิสระ และฉันทามติปี 1992” หายลับไปแล้ว จีนก็คงจะต้องทบทวนนโยบายเศรษฐกิจต่อไต้หวันใหม่ ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ในไต้หวัน

นายหลิน อวี้ฟัง สส.พรรคก๊กมิ่นตั๋งระบุว่า “เนื่องจากพรรคก๊กมิ่นตั๋งต่อต้านการแยกไต้หวันเป็นอิสระ และย้ำฉันทามติปี 1992 แต่พรรคดีพีพีไม่เห็นด้วยกับทั้งสองอย่าง ดังนั้น จึงกลายเป็นแรงกดดันต่อพรรคดีพีพี ที่จะต้องตอบคำถามนี้ว่า หากพรรคดีพีพีเป็นรัฐบาล แม้จะไม่อาจะเดาได้ว่าเมื่อไร แต่เมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆ คุณจะยอมให้มีการตัดการติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างช่องแคบไต้หวัน เพื่อรักษานโยบายพื้นฐานสองประการนี้ของคุณหรือไม่ ซึ่งพรรคดีพีพีจะต้องตอบคำถามนี้ด้วยตนเอง”

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ผู้นำไต้หวันได้กล่าวว่า อนาคตของไต้หวันอยู่ในกำมือของชาวไต้หวัน 23 ล้านคน ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของไต้หวันเอง ดังนั้น การกล่าวของนายเฉินฯ ครั้งนี้ จึงถูกตีความว่า เป็นการเตือนพรรครัฐบาลของไต้หวัน แต่นายหลินฯ มีความเห็นที่แตกต่างออกไป

ฟรีด้อมเฮ้าส์ชมไต้หวันเป็นประเทศเสรีประเทศหนึ่งของโลก

ฟรีด้อมเฮ้าส์ หรือบ้านแห่งเสรีภาพ (Freedom House) ของสหรัฐฯ ได้ประกาศรายงานสิทธิเสรีภาพโลกประจำปี 2554(Freedom in the World 2011)เมื่อวานนี้ โดยจัดให้ไต้หวันเป็นหนึ่งในประเทศในเอเชียที่เป็นประชาธิปไตยที่แข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา การประเมินไต้หวันในปีนี้อยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว โดยทางด้านสิทธิทางกาเรมืองระดับ 1 เสรีภาพของประชาชนระดับ 2 จัดอยู่ในประเทศเสรี

รายงานดังกล่าวระบุว่า การเลือกตั้ง 5 ผู้ว่าการนครในไต้หวันเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว มีเพียงเหตุลอบยิงก่อนเลือกตั้งเพียงเหตุการณ์เดียว แต่ในภาพรวมการเลือกตั้งเป็นไปอย่างยุติธรรมและเสรี ผลการเลือกตั้งพรรครัฐบาลได้ 3 ที่นั่ง ฝ่ายค้านได้ 2 ที่นั่ง

นอกจากนี้ รายงานนี้ยังได้กล่าวถึงความไม่ชอบมาพาพลในช่วงแรกของการฟ้องร้องดำเนินคดีอดีตประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยน แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ไม่ปรากฏเหตุการณ์เหล่านี้อีก และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553ศาลฎีกาไต้หวันได้พิพากษาจำคุกอดีตประธานาธิบดีเฉินฯ ในข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเวลา 19 ปี

อาสาสมัครรุ่น “อาม่า” วัย 91 ประกาศขอเป็นอาสาสมัครจนกว่าจะมีอายุครบ 100 ปี

จากสถิติพบว่า เยาวชนในประเทศยุโรปและสหรัฐฯ กว่า 30% เป็นอาสาสมัคร ในขณะที่ไต้หวันมีเพียง 15% ซึ่งนับว่าค่อนข้างต่ำ ทั้งนี้ มูลนิธิเยาวชนPrudential ได้รณรงค์ให้ประชาชนเข้าร่วมในโครงการ “อาสาสมัครเต็มร้อย ใจเต็มร้อย” โดยเชิญอาสาสมัครรุ่น “เดอะ” ที่ทำงานอาสาสมัครมานานกว่า 40 ปี คือ “อาม่า” วัย 91 ปี อาม่าอู๋ หลีอิง และเสิ่น ซินหลิง นักศึกษาไต้หวัน เป็นพรีเซ็นต์ของโครงการนี้ เพื่อระดมอาสาสมัครในไต้หวัน

อาม่าอู๋ หลีอิง วัย 91 ปี เป็นบุตรสาวของสมาชิกสภาจังหวัดในยุคที่ไต้หวันถูกญี่ปุ่นปกครอง ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างดี แต่นางได้อุทิศตนและอุทิศใจให้แก่งานอาสาสมัครมาตั้งแต่อายุ 17 ปี พออายุได้ 50 ปี ก็เป็นอาสาสมัครสอนเต้นรำพื้นเมืองให้แก่บรรดาคุณพ่อ คุณแม่ และเป็นอาสาสมัครที่สถานีรถไฟฮัวเหลียน ตอนบ่ายยังต้องไปช่วยงานที่โรงพยาบาลส่งประวัติไข้ สอนคนไข้เต้นรำออกกำลังกาย

อาม่าอู๋ฯ ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า “ดิฉันอู๋ หลีอิง อายุ 91 ปีแล้ว เป็นอาสาสมัครมานาน 50 ปี และหวังว่าจะเป็นอาสาสมัครต่อไปจนอายุร้อยปี ทำงานนี้ทุกคนก็สบายใจ คนอื่นสบายใจ ตัวเองก็สบายใจไปด้วย

ส่วนเสิ่น ซินหลิง เล่าให้ฟังว่า เริ่มเป็นอาสาสมัครสร้างเวปไซต์ให้แก่เด็กยากจนมาตั้งแต่ตอนที่ตนอายุได้เพียง 12 ปีเท่านั้น ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย รู้สึกดีใจและมีความสุขกับการเป็นอาสาสมัครในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา และมีความรู้สึกลึกๆ ว่า “คนที่ไม่มีความสุขจริงๆ แล้วก็คือคนที่ไม่เคยคิดที่จะนำความสุขมาให้แก่ผู้อื่น” ดังนั้น จึงตัดสินใจเดินรอยตามอาม่า มีอายุต่อไปจนถึง 90 ปี เป็นอาสาสมัครต่อไป

ตรุษจีน แท็กซี่นครไทจง เก็บเพิ่ม 40 เอ็น.ที.

กรมการคมนาคม นครไทจง เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม – 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงตรุษจีน รถแท็กซี่ในนครไทจงจะเก็บค่าโดยสารเพิ่มเที่ยวละ 40 เหรียญไต้หวัน นอกจากนี้ กรมการคมนาคมจะประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทีเบาะหลังคาดเข็มขัดนิรภัย

กรมการคมนาคมแถลงว่า หลังจากได้หารือกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่แล้ว มีมติให้เก็บค่าโดยสารเพิ่มในเวลากลางวันเที่ยวละ 20 เหรียญไต้หวัน กลางคืนเที่ยวละ 40 เหรียญไต้หวัน ซึ่งในปีที่ผ่านมาเก็บเพิ่มถึง 85 เหรียญไต้หวัน ในปีนี้กำหนดอัตราต่ำลงมาก

สำหรับในประเด็นเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารเบาะหลังนั้น เป็นเรื่องที่มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง ถึงแม้ยังไม่มีกฎหมายบังคับ แต่นครไทจงจะเริ่มประชาสัมพันธ์โดยแจ้งให้ผู้โดยสารทราบระหว่างการสุ่มตรวจสอบร่วม เพื่อสร้างความเคยชินในการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้โดยสารเบาะหลัง

ฟาส์ตฟู้ดยอมตามกฎหมาย งดแถมของเล่น

สภานิติบัญญัติผ่านมติในวันที่ 12 เสนอให้ทบวงสาธารณสุขห้ามร้านฟาส์ตฟู้ดแถมของเล่นให้แก่เด็ก แมคโดแนลด์ ฟาส์ตฟู้ดซึ่งมียอดจำหน่ายอาหารเด็กสูงที่สุดเปิดเผยว่า จะแถมของเล่นเด็กต่อไป จนกว่ากฎหมายจะมีผล

แมคโดแนลด์แถลงว่า สังคมมองว่าร้านฟาส์ตฟู้ดขายอาหารประเภทเดียว เป็นสาเหตุทำให้เด็กอ้วน ทางบริษัทจึงได้เสนอทางเลือกมากขึ้น ด้วยการเพิ่มอาหารที่มีส่วนผสมของผักผลไม้ เป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค สำหรับของเล่นนั้น เป็นประสบการณ์ที่มีความสุขของเด็กในการมารับประทานอาหาร ดังนั้น จะมีการแถมของเล่นต่อไปจนกว่ากฎหมายจะมีผลบังคับ

เบอร์เก่อร์คิง ในไต้หวันมีการแถมของเล่นเช่นกัน บริษัทแถลงว่าเด็กไม่ใช่ลูกค้าหลัก การขายอาหารเด็กงดแถมของเล่นมีผลกระทบต่อยอดขายไม่มาก และจะทำการหยุดแถมของเล่นเมื่อของเล่นในสต๊อกหมดลงแล้ว

สำหรับเคนตั๊กกี้ หยุดแถมของเล่นเด็กตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว และหันมาทำโปรโมชั่นลดราคาอาหารเด็ก แม้หยุดแถมของเล่นแล้ว ยอดขายไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น

กต.ไต้หวันเตือนประชาชนเที่ยวควีนส์แลนด์ หลังประสบน้ำท่วมหนัก

กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน ประกาศยกระดับเตือนภัยการท่องเที่ยวไปรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลียเป็นสีเหลือง พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือจำนวน 1 แสนดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่นักเรียนนักศึกษาไต้หวันที่ศึกษาและทำงานช่วงปิดภาคการเรียนในออสเตรเลีย ตลอดจนชาวจีนโพ้นทะเลที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียมีความปลอดภัยดี

หลายเมืองในรัฐควีนส์แลนด์ประสบกับภาวะน้ำท่วมเมืองอย่างหนัก หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายคน ประชาชนจำนวนมากถูกบังคับให้ลี้ภัยออกจากที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมทั้งในเมืองบริสเบนและโกลด์โคสต์ด้วย วันที่ 12 ม.ค. กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันประกาศยกระดับการเตือนการท่องเที่ยวในรัฐควีนส์แลนด์เป็นสีเหลือง พร้อมแนะนำชาวไต้หวันให้งดเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว

นายจังจี้ผิง (章計平)โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน กล่าวว่า ในขั้นนี้กระทรวงการต่างประเทศได้จัดตั้งชุดรับมือฉุกเฉินเฉพาะกิจขึ้น เพื่อติดต่อประสานงานกับสำนักงานตัวแทนไต้หวันประจำออสเตรเลียและหน่วยงานเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ รัฐบาลได้ตัดสินใจมอบเงินช่วยเหลือภัยพิบัติจำนวน 1 แสนดอลลาร์ออสเตรเลียให้กับรัฐบาลออสเตรเลียด้วย บนพื้นฐานด้านมนุษยธรรม รวมทั้งเป็นการแสดงความขอบคุณในความช่วยเหลือจากออสเตรเลียเมื่อครั้งไต้หวันเกิดภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นมรกตเมื่อวันที่ 8 ส.ค. สองปีก่อน

นายจังจี้ผิงชี้ว่า นักเรียนนักศึกษาไต้หวันที่ศึกษาและทำงานช่วงปิดภาคการเรียนในออสเตรเลีย ตลอดจนชาวจีนโพ้นทะเลที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียมีความปลอดภัยดี และหากประชาชนไต้หวันพบกับภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานตัวแทนไต้หวันในออสเตรเลียได้ทันที หรือติดต่อสายบริการฉุกเฉินในประเทศได้เช่นกัน

ข้อตกลงการค้า ECFA ครองแชมป์ 10 เหตุการณ์เด่นด้านเศรษฐกิจการค้าช่องแคบไต้หวันประจำปี 2553

สมาคมการจัดการวิชาชีพCPMAOT ไทเป (Chinese Professional Management Association of Taipei:台北市企業經理協進會) เปิดเผยผลการคัดเลือก 10 เหตุการณ์เด่นด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันประจำปี 2553 โดยพบว่า ประเด็นการลงนามข้อตกลงกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน (ECFA) ครองแชมป์เหตุการณ์สำคัญที่สุด อันดับสองคือการกำหนดแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประชาชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 12 ของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เน้นความสำคัญของการประกันและการปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในจีนแผ่นดินใหญ่ให้ดีขึ้น โดยที่การเปิดเสรีการค้าระหว่างอาเซียนและจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งมีผลในปี 2553 เป็นเหตุการณ์เด่นอันดับสาม

สมาคมCPMAOT เปิดเผยว่า งานเซี่ยงไฮ้เวิร์ลเอกซ์โปและมหกรรมพืชสวนโลกไทเป ที่เปิดงานไปเมื่อปีที่แล้ว ได้รับเลือกเป็นเหตุการณ์สำคัญอันดับสี่เท่ากัน ตามมาติดๆ ด้วยเรื่องของการก่อตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนของสมาคม The Association of Taiwan Investment Enterprises on the Mainland และคลังสมองของสมาคม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก้ไขข้อพิพาททางธุรกิจแก่นักธุรกิจไต้หวัน ที่อยู่ในอันดับห้า

ส่วนเหตุการณ์เด่นอันดับ 6-10 ได้แก่ การกระโดดตึกฆ่าตัวตายของพนักงานบริษัทฟอกซ์คอนน์ในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ส่งผลให้นายกัวไถหมิง ซีอีโอฟอกซ์คอนน์กรุ๊ปตัดสินใจเพิ่มเงินเดือนให้พนักงานอยู่ในอันดับ 6 โดยอันดับ 7 เป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายประกันสังคมของจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนกรกฏาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ หลังจากการลงนามข้อตกลง ECFA แล้ว ไต้หวันได้เร่งดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ โดยที่ปธน.หม่าอิงจิ่ว ผู้นำไต้หวันได้ประกาศจัดตั้งศูนย์บริการการลงทุนในไต้หวัน เป็นเหตุการณ์เด่นอันดับที่ 8 และการเปิดให้บัตรอิเล็คทรอนิคส์ซึ่งเป็นทั้งบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดของจีนแผ่นดินใหญ่สามารถใช้กดเงินสดและรูดการ์ดในไต้หวันได้ โดยเริ่มอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2553 ตกเป็นเหตุการณ์เด่นอันดับ 9 ส่วนอันดับที่ 10 เป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าการ 5 นครที่ขึ้นตรงต่อสภาบริหารไต้หวัน เมื่อช่วงสิ้นปี 2553 โดยผู้ได้รับเลือกตั้งเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2553 ที่ผ่านมา

เศรษฐกิจไต้หวันกระเตื้อง คาดการจัดเลี้ยงพนักงานช่วงก่อนและหลังตรุษจีนทั่วไต้หวันเงินสะพัดเกินกว่าร้อยล้าน

ธนาคารทรัพยากรมนุษย์ 104 เวบไซด์จัดหางานชื่อดังของไต้หวัน เผยผลสำรวจแผนจัดเลี้ยงพนักงานช่วงก่อนและหลังเทศกาลตรุษจีนที่เรียกว่า เหว่ยหยา การเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า และชุนจิ่ว การเลี้ยงต้อนรับหลังปีใหม่จีน ของบริษัทและผู้ประกอบการในไต้หวัน โดยพบว่า ผู้ประกอบการ 88% จะจัดงานเลี้ยงดังกล่าวให้กับพนักงาน โดยเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 2,873 เหรียญเอนทีต่อพนักงานหนึ่งคน ซึ่งจากสถิติล่าสุดพบว่าไต้หวันมีการว่าจ้างพนักงานทั้งสิ้น 7.16 ล้านคน และหากคำนวนค่าใช้จ่ายการจัดงานเลี้ยงโดยมีส่วนลด 12% คาดว่าการจัดงานเลี้ยงเหว่ยหยาและชุนจิ่วในประเทศ จะสร้างโอกาสทางธุรกิจมากถึง 18,100 ล้านเหรียญเอนที

ผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มผู้ประกอบการราว 42% เพิ่มงบประมาณสำหรับการจัดเลี้ยงมากกว่าปีที่แล้ว 2% ในจำนวนนี้ผู้ประกอบการ 53% ยังคงงบประมาณการจัดเลี้ยงไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก และมีเพียง 5% ที่ลดงบประมาณลงเล็กน้อย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีแผนใช้จ่ายงบราว 63% ให้กับการจัดเลี้ยงรับประทานอาหาร 28% ในการจัดหาของรางวัลสำหรับจับฉลาก และอีก 5% เป็นการใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดแสดงหรือโปรแกรมอื่นๆ ในงานวันนั้น

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ดัชนีการพัฒนามนุษย์ของไต้หวันเขยิบขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก

สำนักสถิติและบัญชีกลาง สภาบริหาร ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน แถลงในวันที่ 10ม.ค.ศกนี้ว่าจากรายงานว่าด้วยดัชนีการพัฒนามนุษย์ ( Human Development Index: HDI) ของประเทศต่างๆประจำปี 2010 ที่จัดทำโดยโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) ที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อเร็วๆนี้ระบุว่า ไต้หวันถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 18 เขยิบขึ้นมาจากปี 2005 ที่อยู่ในอันดับที่ 26 ในขณะที่ประเทศอื่นๆในเอเชียเช่นญี่ปุ่น ถูกจัดอยู่ในอันดับที่11 เกาหลีใต้อันดับที่ 12 ฮ่องกงอันดับที่ 22 และสิงคโปร์อันดับที่ 28 ก็ล้วนเขยิบขึ้นจากเดิมทั้งสิ้น สำหรับประเทศที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่1-10ได้แก่ นอรเวย์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ ฮอลแลนด์ แคนาดา สวีเดนและเยอรมนี ตามลำดับ

ทั้งนี้ดัชนีการพัฒนามนุษย์เป็นดัชนีวัดและเปรียบเทียบ ความยากจน การรู้หนังสือ การศึกษา อายุขัย การคลอดบุตร และปัจจัยอื่น ๆ ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นวิธีการวัดความอยู่ดีกินดีตามมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กและเยาวชน ดัชนีดังกล่าวได้จัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1990 ) โดยนักเศรษฐศาสตร์ชาวปากีสถานชื่อ มาฮฺบับ อุล ฮาค และองค์การสหประชาชาติได้นำดัชนีดังกล่าวมาใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1993 เป็นต้นมา

กรุงไทเปจะเริ่มเก็บภาษีบ้านหรูตั้งแต่เดือน ก.ค. ศกนี้เป็นต้นไป

นายเซี่ยซงฟาง ผอ.กองสรรพากร เทศบาลกรุงไทเปแถลงในวันที่ 11 ม.ค. ศกนี้ว่าเริ่มจากเดือนก.ค. ปีนี้เป็นต้นไปจะจัดเก็บภาษีบ้านหรูหราในเขตกรุงไทเป ซึ่งจากการตรวจสอบมีอาคารที่พักอาศัยหรูหราจำนวนทั้งสิ้น 389 แห่ง 10,168 ครัวเรือน ที่ตรงตามมาตรฐานบ้านหรูหราที่กำหนดไว้ 8 ประการอันได้แก่ เป็นบ้านเดี่ยว การตกแต่งภายนอกหรูหรา ตั้งอยู่ในทำเลดี มีทิวทัศน์โดยรอบสวยงาม เป็นอพาร์เมนต์บนอาคารหรูที่แต่ละชั้นมีเพียงไม่กี่ยูนิต มีที่จอดรถเป็นของตนเองทุกครัวเรือน มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนา มีการบริหารและจัดการอย่างดีเยี่ยม คาดการจัดเก็บภาษีบ้านหรูหราของเทศบาลกรุงไทเป จะทำให้มีเงินเข้าคลังเพิ่มขึ้นปีละ 1000ล้านเหรียญเอ็นที

ผอ.กองสรรพสากร กล่าวว่า เรามีการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว จึงได้กำหนดเป็นมาตรฐานออกมา ในตอนแรกการจะตัดสินว่าบ้านหรูหราควรเป็นลักษณะใดเป็นเรื่องอยาก เราขอให้บริษัทนายหน้าซื้อขายบ้านส่งข้อมูลให้ก็ไม่ได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ บางคนบอกวาต้องดูจากภายนอก บางคนบอกว่าต้องดูจากพื้นที่รวม บางคนบอกว่าต้องดูจากราคาบ้าน เราจึงได้รวบรวมความคิดเห็นต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกันแล้วจัดทำเป็นมาตรฐานของบ้านหรูหรา ออกมาเป็น 8 ประการซึ่งต่อไปก็จะใช้ตัดสินว่าบ้านใดเป็นบ้านหรูหรา ที่ต้องถูกจัดเก็บภาษีเพิ่ม

สส.ไต้หวันเตรียมเสนอแก้ไขกฎหมาย บังคับรถยนต์ติดตั้งอุปกรณ์กล้องมองภาพถอยหลัง

จากสถิติ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถอยรถจำนวน 73 ราย บาดเจ็บมากกว่า 7,000 ราย ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นเด็กและคนชรา เพื่อลดอุบัติเหตุจากการถอยรถ เจี่ยงหนัยซิน(蔣乃辛)สส.พรรคก๊กมินตั๋ง ได้เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมาย เรียกร้องให้สภาบริหารบรรจุกล้องมองภาพถอยหลัง ไว้ในอุปกรณ์มาตรฐานของรถยนต์ ซึ่งมีสส.บางส่วนสนับสนุน เพราะสามารถเพิ่มความปลอดภัยได้ แต่ก็มีสส.บางส่วนเห็นว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนในการซื้อรถ ต้องทำการหารืออย่างรอบคอบก่อน

PHOTO : TVBS
เจี่ยงหนัยซินยกตัวอย่าง รัฐบาลสหรัฐได้กำหนดให้กล้องมองภาพถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถยนต์และรถบรรทุก และต้องทำการติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นไป “บรรจุไว้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่นเดียวกับเข็มขัดนิรภัย รถยนต์ออกจากโรงงานผลิตต้องมีเข็มขัดนิรภัย ดังนั้นรถยนต์ออกจากโรงงานต้องมีกล้องมองภาพถอยหลัง เพื่อปกป้องความปลอดภัย เราหวังว่ายิ่งเร็วยิ่งดี เช่นเดียวกับสหรัฐเริ่มได้ในปี 2012 ต้องดูการตกลงหารือระหว่างสภาบริหารกับผู้ประกอบการผลิตรถยนต์”เจี่ยงหนัยซิน กล่าว

ไต้หวันสร้างสะพานจินเหมินเชื่อมต่อเกาะใหญ่และเล็ก


ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว เป็นประธาน
ในพิธีเปิดโครงการก่อสร้างสะพานจินเหมิน
การสร้างสะพานเชื่อมต่อระหว่างเกาะที่อำเภอจินเหมินเริ่มขึ้นในวันที่ 9ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว ของสาธารณรัฐจีน และ นรม อู๋ตุนอี้ ร่วมพิธีขุดดิน สะพานจินเหมินใช้เวลาก่อสร้าง 5ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้รถวิ่งผ่านได้ในปี 2016 ต่อไปการเชื่อมต่อระหว่างเกาะใหญ่และเล็กของอำเภอจินเหมินจะสะดวกขึ้น ไม่ต้องถูกจำกัดเฉพาะทางเรือเท่านั้น

สะพานจินเหมินความยาว 5.4 ก.ม. นับเป็นสะพานยาวที่สุดในไต้หวันและเขตฮกเกี้ยน งบประมาณก่อสร้าง 7,500 ล้านเหรียญไต้หวัน รัฐบาลกลางรับผิดชอบ 2 ใน 3 อีก 1 ใน 3 เป็นงบประมาณของท้องถิ่น
ปธน.หม่าอิงจิ่ว (ผู้นำไต้หวัน)(ที่สามจากซ้าย)
ขณะร่วมขุดดินเปิดโครงการ

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินเหรียญไต้หวันแข็งค่ามากที่สุดในเอเชีย

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินเหรียญไต้หวันมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางไต้หวันปล่อยให้เงินไต้หวันแข็งค่าขึ้นผ่านแนวต้าน 30 เหรียญไต้หวัน ปิดตลาดที่ 29.800 เหรียญไต้หวัน ต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 1.91% เพิ่มขึ้นมากที่สุดในเอเชีย

ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้ามา ค่าเงินประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย ส่วนใหญ่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ เงินเยนอ่อนลง 2.86 % เงินรูเปียห์อินเดียอ่อนลง 1.56% เงินบาทอ่อนลง 0.99% เงินเปโซฟิลิปปินส์ อ่อนลง 0.93% เงินเหรินหมินปี้อ่อนลง 0.38% เงินรูเปียห์อินโดนิเซียอ่อนลง 0.30% เงินริงกิตมาเลเซีย อ่อนลง 0.24%

เงินไต้หวันแข็งค่าขึ้น 1.91% มากที่สุดในเอเชีย อันดับสองคือเงินวอนเกาหลีแข็งค่าขึ้น 0.33%

ปีที่แล้วไต้หวันเกิดน้อยสุดๆ แค่ แสนหก

สถิติล่าสุดทางด้านประชากรของกระทรวงมหาดไทยไต้หวันระบุว่า ในช่วงปีที่แล้ว ไต้หวันมีเด็กเกิดใหม่เพียง 166,886 คนเท่านั้น ลดลงจากปี 2552 ถึง 20,000 กว่าคน ทุบสถิติต่ำสุดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ปีที่แล้วมีคู่สมรสเข้าพิธีวิวาห์ถึง 138,819 คู่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 20,000 กว่าคู่

ปีที่แล้ว จำนวนครอบครัวรวมในไต้หวันเท่ากับ 7,937,024 ครอบครัว เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 131,190 ครอบครัว เฉลี่ยครอบครัวละ 2.9 คน

ส่วนทางด้านความหนาแน่นของประชากร ปีที่แล้วเฉลี่ยที่ 640 คนต่อ ตร.กม. นครไทเปหนาแน่นสุดถึง 9,635 คนต่อ ตร.กม. รองลงมาที่เมืองเจียอี้ 4,538 คน/ตร.กม. เมืองซินจู๋ 3,988 คน/ตร.กม. เป็นอันดับ 3 ส่วนจังหวัดไถตงมีประชากรเบาบางที่สุดเพียง 66 คน/ตร.กม. รองลงมาได้แก่จังหวัดฮัวเหลียน 73 คน/ตร.กม. เบาบางสุดอันดับ 3 ได้แก่จังหวัดหนานโถว 128 คน/ตร.กม.

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

ผู้นำไต้หวันสั่งปลด ผบ.ทอ.ด่วน ฐานประพฤติตนไม่เหมาะสม ใช้รถทหารในงานแต่งงานลูกชาย

ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ปธน.หม่า อิงจิ่ว ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมจัดการปัญหานายพลเหลย อวี้ฉี ผบ.ทอ. อย่างเข้มงวดและเร่งด่วน และใช้เวลาเพียงครึ่งวันลงนามในคำสั่งย้ายนายพลดังกล่าวไปเป็นรองเสนาธิการทหารสูงสุด สลับตำแหน่งกับนายพลเหยียน หมิง

การสั่งย้ายด่วนนายทหารระดับสูงของไต้หวันในครั้งนี้สืบเนื่องจากนายพลเหลยฯ ใช้อำนาจหน้าที่สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาช่วยเหลือจัดงานแต่งงานให้บุตรชาย และมีการนำรถทหารมาใช้ในพิธีสมรสของบุตรชายของตนด้วย แม้นายพลเหลยฯ จะขอโทษอย่างเปิดเผยถึง 2 ครั้งเมื่อวันพุธที่ 5 ม.ค. 2554 แล้วก็ตาม แต่ข่าวดังกล่าวได้ทำลายภาพลักษณ์ของกองทัพโดยรวม ดังนั้น ผู้นำไต้หวันจึงสั่งการให้ รมว.กลาโหมไต้หวันจัดการในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด
นายหลัว จื้อเฉียง โฆษกทำเนียบ ปธน.ไต้หวันเปิดเผยว่า ปธน.หม่าฯ เข้มงวดต่อความประพฤติของระดับสูงในรัฐบาลมาก ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการพลเรือนหรือทหาร จะต้องปฏิบัติตามหลัก“คุณธรรมบริสุทธิ์ของข้าราชการ” อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บังคับบัญชาจะต้องทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี
นายพลเหลย อวี้ฉี ผบ.ทอ.
รายงานข่าวระบุว่า ในยุคอดีต ปธน.เฉิน สุยเปี่ยน ทำเนียบ ปธน.ไต้หวันมีระเบียบเกี่ยวกับการจัดตั้งคณะทำงานช่วยเหลือจัดงานพิธีให้แก่บุตร-ธิดา ปธน. โดยมีรองเลขาธิการทำเนียบ ปธน. เป็นประธานคณะทำงาน ช่วยเหลือจัดสถานที่ ส่งบัตรเชิญ รับรองแขก จัดหาของที่ระลึก ฯลฯ เป็นต้น แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกระเบียบดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่เปลี่ยนผู้นำใหม่

ข้าราชการครูและทหาร 370,000 คนต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

นายหวังจินผิง ประธานสภานิติบัญญัติ
สภานิติบัญญัติไต้หวันได้พิจารณาผ่านร่างแก้ไขกฏหมายเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยยกเลิกมาตราที่ยกเว้นภาษีให้แก่ข้าราชการครูและทหาร แล้วในวันนี้ 3 วาระรวด โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีหน้า เป็นต้นไป และทำให้ข้าราชการครู ทหาร ต้องเริ่มเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตั้งแต่ปีภาษี 2555 โดยต้องยื่นแบบรายการแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป การแก้ไขกฏหมายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อข้าราชการครูและทหารในไต้หวันจำนวน 370,000 คน นำเงินรายได้เข้าคลังหลวงปีละ 11,200 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังไต้หวันระบุว่า เงินรายได้จากการนี้จะนำไปใช้จ่ายเกี่ยวกับการยกระดับการศึกษาและสวัสดิการทหารเป็นการเฉพาะทั้งหมด ส่วนกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เพื่อลดผลกระทบต่อรายได้ของนายทหารระดับล่าง จ่ายภาษีเท่าใด ก็จะให้เงินชดเชยเท่านั้น

กระทรวงการคลังไต้หวันขู่หากการบริจาคใบเสร็จรับเงินลดลง จะยกเลิกรางวัลใหญ่ 10 ล้าน

เพื่อป้องกันและหลีกเลี่ยงการบริจาคใบเสร็จรับเงินเพื่อตรวจรางวัลให้แก่องค์กรการกุศลไต้หวัน ที่ประชุมสภานติบัญญัติไต้หวันเมื่อวานนี้มีมติให้เวลาการติดตามผลการเพิ่มรางวัลใหญ่จากใบเสร็จรับเงินเป็น 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวันว่าการบริจาคใบเสร็จรับเงินของประชาชนลดลงหรือไม่ ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า หากส่งผลต่อการบริจาคใบเสร็จรับเงิน กระทรวงการคลังก็ควรยกเลิกรางวัลใหญ่ดังกล่าว

กระทรวงการคลังไต้หวันได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่มเงินรางวัลที่ 1 เป็นรางวัลละ 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวันตั้งแต่การออกรางวัลในวันที่ 25 มี.ค. 2554 เป็นต้นไป ส่วนรางวัลย่อยรางวัลละ 200 ดอลลาร์ไต้หวันก็เพิ่มจากจำนวน 3 รางวัลเป็น 5 รางวัล

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนเงินรางวัลที่ 1 ดังกล่าว ทำให้สส.พรรคก๊กมิ่นตั๋งเกิดความวิตกกังวลว่า จะทำให้การบริจาคใบเสร็จรับเงินให้แก่องค์การกุศลของประชาชนลดน้อยลง เช่น ในแต่ละปีมูลนิธิ Genesis Social Welfare Foundation (GSWF) มีรายได้จากการตรวจรางวัลใบเสร็จรับเงินถึง 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน แต่หลังจากที่กระทรวงการคลังประกาศมาตรการดังกล่าว ทำให้ใบเสร็จรับเงินที่ได้รับบริจาคลดลงเหลือเพียง 30% เท่านั้น จึงวิตกว่าองค์กรเพื่อสาธารณะกุศลเหล่านี้จะประสบปัญหาขาดแคลนค่าใช้จ่าย

นางหลู ซิ่วเยี่ยน สส.พรรคก๊กมิ่นตั๋งได้เสนอญัตติให้เวลากระทรวงการคลังไต้หวัน 6เดือน ติดตามผลกระทบจากการเพิ่มเงินรางวัลใบเสร็จรับเงินก้อนโตนี้ หากตัวเลขการบริจาคใบเสร็จรับเงินลดลงจริง กระทรวงการคลังไต้หวันควรยกเลิกรางวัลใหญ่จำนวน 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน โดยเพิ่มรางวัลย่อยเป็น 6 รางวัล

สองฝั่งจัดตั้งคณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจ


นายเหลียวกว๋อซิน รมช.กระทรวงเศรษฐการ(ขวา)
และนายหลิวเต๋อซวิน รองประธาน
คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ (ซ้าย)
แถลงข่าวการจัดตั้งคณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจ
ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน 
 การจัดตั้งคณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ระหว่างไต้หวันกับจีนเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่และกระทรวงเศรษฐการของไต้หวันร่วมกันแถลงข่าว แกนนำในการจัดตั้งฝ่ายไต้หวันคือ เกาโข่งเหลียน(高孔廉) รองประธานมูลนิธิเพื่อการติดต่อระหว่างสองฝั่งช่องแคบแห่งไต้หวัน ฝ่ายจีนคือ เจิ้งลี่จง (鄭立中) รองประธานสมาคมความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ หัวหน้าผู้แทนฝ่ายไต้หวันคือเหลียงกั๋วซิน (梁國新) รมช. กระทรวงเศรษฐการ หัวหน้าผู้แทนฝ่ายจีนคือ เจียงเจิงเหว่ย (姜增偉) รมช. กระทรวงพาณิชย์ของจีน


หลิวเต๋อซวิน (劉德勳) รองประธาน คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวว่า “แกนนำของพวกเราในการจัดตั้งคณะกรรมการความร่วมมือคือ เกาโข่งเหลียน รองประธานมูลนิธิเพื่อการติดต่อฯ หัวหน้าคณะผู้แทนของพวกเราคือ รมช. เหลียง นอกจากนี้ได้มีการตกลงว่า เนื่องจากมีเนื้อหารายละเอียดงานหลายด้าน ในอนาคตสองฝั่ง สามารถปรับเปลี่ยนรายชื่อ เพิ่มเติมตามเรื่องที่เกี่ยวข้องได้”

ทางด้านซือเอี๋ยนเสียง (施顏祥) รมว. กระทรวงเศรษฐการของไต้หวันได้ตอบกระทู้สอบถามที่สภานิติบัญญัตเกี่ยวกับเรื่องคณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจว่า “คณะกรรมการความร่วมมือเศรษฐกิจเป็นองค์กรเสริม ซึ่งทุกฝ่ายร่วมกันหารือ ผู้ที่ตัดสินใจด้านนโยบาย ยังคงเป็นหน่วยงานในระบบบริหาร ยกตัวอย่างเช่น การตัดสินใจนโยบายสำนักงานการลงทุน จะต้องเสนอต่อกระทรวงเศรษฐการ จากนั้นจึงจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการความร่วมมือเพื่อดำเนินการ”

ซื้อของอินเตอร์เน็ต เปิดเผยข้อมูล ขรก. ถูกหลอก

ตำรวจฝ่ายคดีอาญาเปิดเผยในวันที่ 5 หญิงแซ่ไล่ อาศัยอยู่ในเมืองไทจง ซื้อเสื้อผ้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต จากนั้นได้รับโทรศัพท์หลอกลวง หญิงแซ่ไล่ เป็นข้าราชการไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมจึงถูกหลอกลวงโอนเงินให้แก็งค์ต้มตุ๋น

ตำรวจเปิดเผยว่า หลังจากที่หญิงแซ่ไล่ซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตแล้ว ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า ในขณะที่รับสินค้าจากร้านสะดวกซื้อ เซ็นต์ชื่อผิดช่องกลายเป็นการซื้อระบบผ่อนส่ง ต่อไปจะต้องถูกหักบัญชีทุกเดือน

หญิงแซ่ไล่ เกิดอาการลนลาน ตกหลุมพรางของมิจฉาชีพ โอนเงินออกไป 29,983 เหรียญไต้หวัน นอกจากนี้มิจฉาชีพยังหลอกว่าเป็นพนักงานของธนาคารไปรษณีย์ เรียกร้องให้หญิงแซ่ไล่ถอนเงินที่เหลือในธนาคาร ซื้อบัตรเล่นเกมส์ และบอกให้หญิงแซ่ไล้ แจ้งหมายเลขและรหัสลับของบัตรเกมส์ออนไลน

หญิงแซ่ไล่โอนเงิน 29,983 เหรียญไต้หวัน ซื้อบัตรเกมส์ 17 ใบ ราคาใบละ 5,000 เหรียญไต้หวันมอบให้แก่มิจฉาชีพ ในกระบวนการเหล่านี้ หญิงแซ่ไล เกิดความสงสัย แต่มิจฉาชีพบอกว่า เป็นขั้นตอนของบริษัทไปรษณีย์อธิบายยาก ขอให้รีบปฏิบัติตาม มิเช่นนั้นจะถูกอาญัติเงินในบัญชี

ตำรวจเตือนว่า หากซื้อสินค้าแล้วได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า ทำรายการผิดเป็นการผ่อนชำระรายเดือน ขอให้สงสัยว่าเป็นโทรศัพท์หลอกลวง นอกจากนี้หากได้รับอีเมล์จากคนที่รู้จักขอให้ช่วยซื้อบัตรเกมส์ ส่วนใหญ่เป็นโทรศัพท์หลอกลวงเช่นกัน

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

อากัสซี่ ซาฟิน ดวลแร๊กเก็ตกันอีกครั้งใน Rise of Legends ที่ไต้หวัน

อังเดร อากัสซี่ (Andre Agassi) ยอดตำนานนักเทนนิสมือหนึ่งของโลกจากสหรัฐอเมริกา มารัต ซาฟิน(Marat Safin) อดีตนักเทนนิสหมายเลข 1 ของโลกแดนหมีขาว และมิคาอิล ยุซนีย์(Mikhail Youzhny) มือวางอันดับสิบของโลกจากรัสเซีย ตบเท้าเดินทางเยือนไต้หวันเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันนัดกระชับมิตร ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 6 – 8 ม.ค. ศกนี้

อังเดร อากัสซี ขณะเดินทางถึงสนามบินเถาหยวน
แฟนเทนนิสไต้หวัน รวมตัว
รอต้อนรับอากัสซีที่สนามบินหนาแน่น
โดยอังเดร อากัสซี่ เดินทางถึงไต้หวันในช่วงเช้าวันที่ 5 ม.ค. ท่ามกลางการต้อนรับจากแฟนเทนนิสที่สนามบินอย่างหนาแน่น ซึ่งอากัสซี่เปิดเผยว่า เขารู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างมากที่แม้ว่าเขาจะวางมือจากวงการเทนนิสไปนานแล้ว แต่แฟนเทนนิสไต้หวันยังคงให้การสนับสนุน และถ้ามีเวลาเขาจะหาโอกาสไปลิ้มลองอาหารไต้หวันด้วย

มือเทนนิสระดับโลกมาเองแบบนี้
ต้องขอลายเซ็นต์กันหน่อย
ด้านมารัต ซาฟิน เจ้าของฉายาหนุ่มหล่อประจำวงการเทนนิส ได้เดินทางมาถึงไต้หวันเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมีแฟนๆ รอรับที่สนามบินจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งซาฟินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมเผยว่าจะโชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ไม่ให้แฟนๆ ชาวไต้หวันผิดหวัง แถมยังกล่าวชมนายหลูเยี่ยนสวิน นักเทนนิสดาวรุ่งของไต้หวันด้วยว่า เป็นบุคคลอันตรายคนหนึ่ง ส่วนยุซนีย์เดินทางถึงไต้หวันตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. แล้ว
มารัด ซาฟิน ขณะซ้อมเทนนิสที่ ACC (American Club)
ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสถานีวิทยุอาร์ทีไอในไทเป

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

สารคดีบันทึกการทำงานของแรงงานต่างชาติเมืองจังฮั่ว ไต้หวัน ฉบับย่อ

สารคดีบันทึกการทำงานของแรงงานต่างชาติเมืองจังฮั่ว ไต้หวัน ฉบับย่อ


「彰化.幸福直達站」紀錄片,記錄尼諾、阿春、阿蒂及涼沙等四名來自菲律賓、印尼、泰國、越南的外籍勞工與雇主間的工作紀實精簡版





บทความเกี่ยวข้อง : เมืองจางฮั่วทุ่มงบถ่ายทำภาพยนตร์สารคดี บันทึกการทำงานของแรงงานต่างชาติ พร้อมเรียกร้องชาวไต้หวันเป็นมิตรกับแรงงานต่างชาติ

ผู้นำไต้หวันอวยพรปีใหม่ครบรอบ ๑๐๐ ปีสาธารณรัฐจีนย้ำอนาคตไต้หวันอยู่ในกำมือชาวไต้หวัน ๒๓ ล้านคน เร่งดันการศึกษาภาคบังคับ ๑๒ ปี

ในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี สาธารณรัฐจีนในวันนี้ ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ผู้นำไต้หวันได้ระบุในคำอวยพรปีใหม่ว่า อนาคตของชาติ ของไต้หวัน ล้วนอยู่ในกำมือของชาวไต้หวันจำนวน ๒๓ ล้านคน ตัดสินใจด้วยตนเอง
ผู้นไต้หวันระบุว่า ดร.ซุนยัดเซ็น บิดาแห่งสาธารณรัฐจีนได้สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประเทศแรกขึ้นในเอเชีย ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาชนว่า จะต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น และให้คำมั่นว่าจะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีทัดเทียมกันอย่างเสมอภาคตลอดจนด้านการศึกษาด้วย ปัจจุบันสาธารณรัฐจีนเป็นแบบอย่างของประสบการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศกำลังพัฒนา มีทีม ต่างประเทศกระจายอยู่ทั่ว โลก หนังสือเดินทางไต้หวันได้รับการยอมรับจาก ๙๖ ประเทศทั่วโลก ทำให้สังคมโลกต้องจับตามองไต้หวันด้วยทัศนะใหม่

ผู้นำไต้หวันระบุว่า “พวกเราต้องค้ำจุนซึ่งกันและกัน ให้กำลังใจกัน อนาคตของชาติและของไต้หวัน อยู่ในกำมือของชาวไต้หวันจำนวน ๒๓ ล้านคน เราต้องตัดสินใจเอง เราจะอาศัยพลังของเราปกป้องอำนาจอธิปไตยของสาธารณรัฐจีน อาศัยปฏิบัติการที่เป็นจริงปกป้องศักดิ์ศรีของไต้หวัน อาศัยภูมิปัญญาสร้างอนาคตให้แก่ไต้หวัน ให้พวกเราร่วมกันสร้างผลงานโดดเด่นในอีก ๑๐๐ ปีข้างหน้า”
นอกจากนี้ ผู้นำไต้หวันยังได้ตั้งความหวัง ๔ ประการ ว่า "ข้าพเจ้าขอประกาศ ณ ที่นี้ว่า การศึกษาของไต้หวันกำลังจะก้าวสู่ศักราชใหม่ ปีนี้จะเป็นปีเริ่มต้นของการศึกษาภาคบังคับ ๑๒ ปี โดยแบ่งเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มต้นจากระดับอาชีวะก่อน คาดว่าเมื่อถึงปี ๒๐๑๔ นักเรียนระดับมัธยมปลายสายอาชีพจะได้รับการยกเว้นค่าเล่าเรียน หรือเรียนฟรี และส่วนใหญ่จะเข้าศึกษาโดยไม่ต้องผ่านการสอบคัดเลือก”

ประชาชนแห่ร่วมเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาแน่นลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดี

เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ ๑๐๐ ปีสาธารณรัฐจีน มูลนิธิครบรอบ ๑๐๐ ปีสาธารณรัฐจีนได้เชิญชวนประชาชนร่วมเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ณ ลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน โดยการแต่งชุดธงชาติหรือใช้ผ้าพันคอธงชาติ เข้าร่วมพิธีดังกล่าว

พิธีเริ่มขึ้นเมื่อเวลาตีห้าของวันนี้ ก่อนพิธีจะเริ่มขึ้น ให้ประชาชนที่เข้าร่วมบริหารร่างกายโดยมีนักร้องชื่อดังไต้หวันเป็นผู้นำการออกกำลังกาย พร้อมเสียงบรรเลงเพลงชาติ โดยมีประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว กับรองประธานาธิบดีเซียว ว่านฉางพร้อมด้วยภรรยา รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกระดับเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

แม้อากาศในตอนเช้ามืดของวันนี้จะเย็นยะเยือก อุณหภูมิต่ำกว่า ๑๐ องศาก็ตาม แต่ประชาชนที่เข้าร่วมต่างร่วมกันร้องเพลงชาติฉลองครบรอบวันเกิดสาธารณรัฐจีนปีที่ ๑๐๐ ด้วยความรักชาติอย่างแท้จริง

วันอาทิตย์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2554

บทวิเคราะห์การเลือกตั้งประธานและรองประธานสภา 5 นคร

การเลือกตั้งประธานและรองประธานสภาทั้ง 5 นครที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลางได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2553 วันแรกของการเปิดการประชุมสภานคร โดยสมาชิกสภานครเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกันเอง ผลปรากฏว่า ยกเว้นนครไทเปใหม่ และนครไถหนาน เท่านั้นที่ไม่มีอะไรนอกเหนือความคาดหมาย ทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่น ตามที่คาดการณ์กันไว้ในตอนแรก โดยพันธมิตรของแต่ละฝ่ายได้ทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ แม้กล่าวโดยรวมแล้ว จำนวนสมาชิกสภานครของฝ่ายพรรคสีน้ำเงินรวมกับสมาชิกสภาที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ แล้ว จะมากกว่าของพันธมิตรฝ่ายสีเขียวก็ตาม แต่เนื่องจากคะแนนเสียงของทั้งสองฝ่ายก้ำกึ่งกันมาก ทำให้ การเลือกตั้งเป็นไปอย่างถึงพริกถึงขิง ยังนับคะแนนไม่หมดก็มีลุ้นกันทุกวินาทีทีเดียว ไม่มีฝ่ายใดจะมั่นใจแบบชนิดที่เรียกว่า “แบเบอร์” ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผลการเลือกตั้ง เป็นการเปิดหน้าศักราชใหม่ให้แก่การปกครองระดับท้องถิ่นในไต้หวัน และมีความหมายอย่างสำคัญต่อการปกครองท้องถิ่นและการเมืองระบอบพรรคการเมืองของไต้หวันทีเดียว

ต้อนรับปีใหม่นักร้องดังไต้หวันร่วมคอนเสิร์ตฉลอง 100 ปี สาธารณรัฐจีนตั้งแต่เหนือจรดใต้



เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี สถาปนาสาธารณรัฐจีน เมืองต่างๆ ทั่วเกาะไต้หวันจัดงานฉลองวันขึ้นปีใหม่ นับถอยหลัง และฉลองวันแรกของปีที่ 100 แห่งการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐจีน คอนเสิร์ตฉลองปีใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวันเห็นจะได้แก่คอนเสิร์ทฉลองปีใหม่นับถอยหลังหรือเคาน์ดาวน์ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางนครไทเป และการจุดพลุไฟอาคารไทเป 101 ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ผู้จัดรับประกันว่าต้องประทับใจสุดๆ แน่ เพราะปีนี้ทุ่มทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบจุดพลุไฟชาวฮ่องกง ที่เคยแสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกส์เกมส์ที่ปักกิ่งมาแล้ว คือนายไช่ กั๋วเฉียง จุดพลุรอบอาคารนาน 288 วินาที นอกจากนี้ บนเวทียังมีดารานักร้องชื่อดังไต้หวันมากมายร่วมนับถอยหลังฉลองปีใหม่ 2554 อย่างคึกคักทีเดียว และยังมีการจับฉลากชิงรางวัลอีกด้วย ที่พิเศษสุดในปีนี้คือ การจัดงานฉลองครบรอบ 100 ปีสาธารณรัฐจีนที่ฟาร์มชิงจิ่ง หนานโถว ซึ่งสูงที่สุดในไต้หวัน

นอกจากงานคอนเสิร์ทเคาน์ดาวน์ที่ลานหน้าศาลากลางนครไทเปแล้ว ที่นครไทเปยังมีการจัดคอนเสิร์ทต้อนรับปีใหม่ที่สวนสาธารณะต้าอัน ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในไทเปด้วย และยังมีการจัดงานตามเมือง