ไต้หวันย้ำปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่ กรณีเกาะเตี้ยวหยีไถ

เหตุการณ์ความขัดแย้งบนหมู่เกาะเตี้ยวหยีไถซึ่งถูกจับตามองอย่างกว้างขวางจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน สาธารณรัฐจีนได้ออกแถลงข่าวเมื่อค่ำวานนี้ย้ำว่า “สนธิสัญญารักษาความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น” เป็นรากฐานอย่างหนึ่งของความปลอดภัยในเอเชียแปซิฟิก แต่สหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเกาะเตี้ยวหยีไถใช้สันติวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันจะติดตามจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป และรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ

กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุว่า สื่อต่างชาติรายงานว่า นาง Hillary Clinton รมว.กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้กล่าวถึงปัญหา
เตี้ยวหยีไถขณะพบปะกับนาย Seiji Maehara รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2553 จากการตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน นาย Phillip Crowley โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ชี้แจงเกี่ยวกับการพบปะดังกล่าวย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ เกี่ยวกับปัญหาอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะเตี้ยวหยีไถว่า สหรัฐฯ ไม่มีจุดยืนใดๆ ในเรื่องนี้ และจะไม่แสดงบทบาทในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น และไม่เคยถูกร้องขอให้แสดงบทบาทใดๆ ในเรื่องนี้ สหรัฐฯ ไม่ต้องการเห็นความตึงเครียดในเรื่องนี้ และขอให้ญี่ปุ่นเร่งแก้ปัญหาความขัดแย้งหมู่เกาะเตี้ยวหยีไถกับจีนโดยเร็ว

กต.ไต้หวันย้ำว่า รัฐบาลสาธารณรัฐจีนยืนยันมาโดยตลอดว่า หมู่เกาะเตี้ยวหยีไถเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐจีน และได้แสดงจุดยืนดังกล่าวให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรับทราบหลายครั้งหลายหน และแสดงความปราถนาที่จะให้ทุกฝ่ายแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีมีเหตุมีผล เก็บความขัดแย้งไว้ก่อน ร่วมมือกันพัฒนาบุกเบิกทรัพยากรในบริเวณดังกล่าวร่วมกัน

“สนธิสัญญารักษาความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น” เป็นสนธิสัญญาที่สหรัฐฯ กับญี่ปุ่นจัดทำขึ้นเมื่อปี2503ประกาศว่าสองประเทศจะร่วมมือกันรักษาและพัฒนากำลังอาวุธเพื่อต่อต้านการรุกรานด้วยกำลังอาวุธ