วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทะนุถนอมดอกผลจากการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างช่องแคบไต้หวัน

ครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจไต้หวันมีการเติบโตถึง 13.12% เป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ และสูงกว่าของฮ่องกงและเกาหลีใต้มาก คาดว่าตลอดทั้งปีของปีนี้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไต้หวันจะอยู่ที่ 8% ขึ้นไป ทุบสถิติในรอบ 21 ปี เป็นอันดับ 2 ในกลุ่ม 4 เสือแห่งเอเชียรองจากประเทศสิงคโปร์ ในขณะที่ปีที่แล้วเป็นอันดับ 1 ของ 4 เสือแห่งเอเชีย ซึ่งได้แปรสภาพจากการอยู่ในอันดับบ๊วยในยุคของรัฐบาลพรรคดีพีพีเป็นเวลา 8 ปี เป็นการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างการ “ปิดประเทศ” กับการ “เปิดเสรี” รัฐบาลประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วและรองประธานาธิบดีเซียว ว่านฉาง ปกครองประเทศเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ยึดกุมโอกาสการเติบใหญ่ของเศรษฐกิจจีน เสริมความเชื่อมั่นระหว่างช่องแคบไต้หวัน เปิดการติดต่อตรง 3 ทาง อนุญาตให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวไต้หวัน และจัดทำความตกลง ECFA กับจีนแผ่นดินใหญ่ และเนื่องจากการเปิดเสรีทางด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างช่องแคบไต้หวัน ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดอกผลจากการเปิดเสรีอาจพิจารณาได้จากใน 3 แง่มุมดังนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น