วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รมว.มหาดไทยไต้หวันระบุ เลิกลงโทษผู้ขายบริการทางเพศ สามารถดำเนินกิจการส่วนตัวได้

หลังที่ประชุมประธานศาลฏีกาพิจารณาตีความกฎหมายการลงโทษผู้ขายบริการทางเพศแต่ไม่ลงโทษผู้ซื้อบริการทางเพศขัดต่อรัฐธรรมนูญ กระทรวงมหาดไทยไต้หวันได้จัดการสัมมนาและประชาพิจารณ์ขึ้นหลายครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาการยกเลิกลงโทษผู้ทำงานขายบริการทางเพศ
วันที่ 14 ต.ค.เจียงอี๋ฮว้า (江宜樺) รมว.กระทรวงมหาดไทยกล่าวขณะตอบกระทู้คณะกรรมาธิการมหาดไทย สภานิติบัญญัติระบุว่า นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องยกเลิกการลงโทษขายบริการทางเพศเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะให้การส่งเสริมพัฒนาอาชีพขายบริการทางเพศ ดังนั้นการดำเนินกิจการไม่สมควรสนับสนุนให้ทำแบบบริษัทใหญ่ แต่สามารถดำเนินกิจการลักษณะส่วนตัวหรือราว 3-5 คน มีลักษณะเป็นห้องทำงานขนาดเล็กได้ วิธีการเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสทางสังคมที่จำเป็นต้องทำงานด้านนี้ไม่ให้ถูกขูดรีด และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์

เจียงอี๋ฮว้าระบุว่า นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นว่า ไม่ควรจัดรวมกิจการไว้ในบริเวณพื้นที่เฉพาะ เพราะหากในตัวเมืองมีพื้นที่จัดไว้ขายบริการทางเพศ จะทำให้ท้องที่นั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนการจัดการควบคุมผู้ขายบริการทางเพศนั้น รัฐบาลส่วนกลางจะเป็นผู้จัดทำหลักการควบคุมโดยรวม แต่เทศบาลเขตสามารถตัดสินใจต่อพื้นที่อนุญาตให้ขายบริการทางเพศได้เอง กระทรวงมหาดไทยระบุว่า การขายบริการทางเพศในความเป็นจริงมีอยู่ทั่วไปในสังคมทั้งที่หลบซ่อนและเปิดเผย การดำเนินการทุกอย่างก็เพื่อปรับปรุงสภาพการณ์ปัจจุบันให้มีความถูกต้องยิ่งขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น