วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การสั่งฟ้องอดีตผู้นำไต้หวัน มีเบื้องหลังทางการเมืองหรือไม่

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2554 อัยการชุดสอบสวนคดีพิเศษอัยการสูงสุดไต้หวันได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องอดีตประธานาธิบดีลี เติงฮุย ในข้อหายักยอกเงินงบราชการลับความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ก็กลายเป็นพายุโหมกระหน่ำสังคมและการเมืองในไต้หวัน และยังได้รับความสนใจจากสื่อนานาชาติเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย วันที่ 1 ก.ค. 2554 ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ได้เปิดแถลงข่าวด้วยตนเองย้ำว่า นับตั้งแต่ที่ตนดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันเป็นต้นมา ให้ความเคารพต่อกระบวนการตุลาการอย่างที่สุด ไม่เคยเข้าแทรกแซงคดีความใดๆ ทั้งสิ้น ผู้นำไต้หวันได้กล่าวย้ำด้วยสีหน้าเคร่งครึมว่า ในประเทศสาธารณรัฐจีนจะไม่มีการล้างแค้นทางการเมืองเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ซึ่งตนยืนหยัดในเรื่องนี้มาโดยตลอด เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้นำไต้หวันกล่าวอย่างหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ

 อย่างไรก็ตาม นักการเมืองบางส่วนและกลุ่มผู้สนับสนุนได้พยายามจงใจที่จะนำเอาประเด็นดังกล่าวมาโจมตีว่าเป็นการต่อสู้ทางการเมือง ระบุว่า เป็นการล้างแค้นทางการเมือง มุ่งผลสู่การเลือกตั้ง นักการเมืองบางส่วนยังได้อาศัยการปล่อยข่าวแบบปากต่อปาก ปล่อยข่าวนี้ออกไป กล่าวหาว่า เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เป็นความพยายามจับกุมผู้นำที่เป็นชาวไต้หวันพื้นเมืองอีกคนต่อจากการจับกุมคุมขังอดีตประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยน ส่วนพรรคทีเอสยู ของอดีตประธานาธิบดีลี เติงฮุย ก็ได้กล่าวหาว่า การสั่งฟ้องอดีตประธานาธิบดีลีฯ เป็นไปตามคำบงการของทางการจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ยากจะทำความเข้าใจได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น