จากผลสำรวจในปี 2008ประชาชนวัยเจริญพันธุ์ของไต้หวันมีอัตราส่วนน้ำหนักเกินหรืออ้วนเกินถึงร้อยละ 44.1 โดยเป็นเพศชายสูงถึงร้อยละ 50.8เพศหญิงร้อยละ 36.9 ในจำนวนนี้เด็กทุก 4 คน จะมีอยู่ 1 คนที่มีหนักเกินหรืออ้วน
เพื่อผลักดันแผนงานลดน้ำหนัก ทบวงสาธารณสุขไต้หวันจัดให้ปีนี้เป็นปีแห่งการออกกำลังกาย พร้อมตั้งเป้าหมายให้ประชาชนลดน้ำหนักลงให้ได้รวม 600 ตัน(600,000 กก.) โดยนอกจากมีการเชิญชวนให้ประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว(馬英九) รณรงค์การลดน้ำหนักในบันทึกบริหารประเทศวันที่ 22 ม.ค.แล้ว วันที่ 24 ม.ค.ยังได้เชิญชวนให้นรม.อู๋ตุนอี้(吳敦義) และหยางจื้อเหลียง(楊志良) รมว.ทบวงสาธารณสุข เป็นผู้นำตัวแทนจากทุกหน่วยงานของภาครัฐและเทศบาลเขต ตั้งเป้าหมายลดน้ำหนัก พร้อมจัดพิธีปฏิญานเริ่มปฏิบัติการด้วย
อู๋ตุนอี้กล่าวขณะเป็นประธานในพิธีระบุว่า ตนเองน้ำหนักมากที่สุดคือ 88 กก. จากนั้นตัดสินใจลดความอ้วน เนื่องจากมีโอกาสออกกำลังกายน้อย จึงใช้วิธีทานให้น้อย ดื่มสุราน้อยลง และขึ้นบันไดให้มากๆ ในที่สุดสามารถลดน้ำหนักลงได้ 8 กก.
อู๋ตุนอี้และหยางจื้อเหลียงได้ทำการวัดส่วนสูงและน้ำหนัก พบว่ามีค่าดัชนีมวลกาย(BMI) 25 และ 24.6 ตามลำดับ ซึ่งเกินจากค่ามาตรฐานเล็กน้อย ดังนั้นทั้งสองท่านจึงเป็นผู้นำขบวน ตั้งเป้าหมายลดน้ำหนักให้ได้ 2 กก. ภายในปีนี้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น